ตอนที่ 12
ชลดาหน้าหงอทันที จังหวะนั้นข่าวในทีวีรายงานเรื่องของเฮียกวงทำให้เธอลืมความโกรธเสียสิ้น คนอ่านข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ล่าเฮียกวงเพราะเชื่อว่าเป็นผู้บงการในการจ้างวาน ฆ่าปิดปากเส ซึ่งกำลังจะเดินทางมาให้ข้อมูลกับทางการในคดีที่เกี่ยวกับธุรกิจเถื่อนแถบชายฝั่งทะเลเมื่อสองวันที่ผ่านมา
“ทางการเชื่อว่าเขาอาจจะหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านเกิดของนายเหิม ระห่ำห้าวมือปืนคู่ใจ”
ข่าวนี้ทำให้ชลดาตกใจมากรีบหยิบข้าวของที่ต้องการและเพิ่มน้ำดื่มอีกห่อใหญ่แล้วเดินมาจ่ายเงิน เก๋คิดเงินทั้งหมด 520 บาทกำชับว่าไม่รับแบงก์ใหญ่ เนื่องจากไม่มีทอน เธอหยิบเงินพอดีกับค่าข้าวของยื่นให้
เป็นจังหวะเดียวกับยอดรักตามเข้ามาถามชลดาว่าได้ของไหม เธอรีบบอกว่าอยู่บนเคาน์เตอร์เพราะอยากเล่าเรื่องเฮียกวง เก๋ได้ยินเสียงยอดรักก็หันขวับ ครั้นเห็นเขาตัวเป็นๆถึงกับสั่นไปทั้งตัวด้วยความดีใจ ร้องกรี๊ดๆวิ่งออกจากหลังเคาน์เตอร์โดดกอดเขา แต่โดนไหล่ข้างที่บาดเจ็บเขาร้องลั่น เก๋ตกใจถามว่าเป็นอะไร ชลดาปราดเข้าไปดูเขาด้วยความเป็นห่วง
“เขาก็เป็นแผลอยู่น่ะสิ เจ็บไหม ไหนขอชลดูหน่อยซิ”
“พี่ยอดรักนังคนนี้เป็นใคร กล้าดียังไงมาถูกตัวพี่” เก๋มองชลดาอย่างพร้อมมีเรื่อง เธอจ้องตอบไม่เกรงกลัว บอกเสียงดังฟังชัดว่าเป็นแฟนของยอดรัก เก๋หาว่าเธอโกหก เธอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือจะให้บรรยายไหมว่าในห้องนอนของเขามีอะไรบ้าง เก๋ไม่เชื่อเพราะไม่มีสาวคนไหนเคยเยี่ยมชมห้องนอนเขาเพราะอยู่บนบ้าน ขนาดตนยังอยู่ได้แค่ใต้ถุน ชลดาเห็นเก๋เริ่มเดือดปุดๆก็ยิ่งสนุก
“ใต้ถุนสำหรับผู้หญิงทั่วไป มีแต่คนรู้ใจถึงจะขึ้นชั้นบน”
เก๋ด่าสวนอย่างหยาบคายเป็นทำนองว่าชลดาโกหก คนถูกด่าต้องเตือนให้อีกฝ่ายระวังคำพูด
“เอ๊ะ ว่าแต่คุณเถอะ คุณเป็นใครไม่ทราบมาทำท่าอาละวาดเหมือนกับจะหึงหวงแฟนของดิฉัน”
“สะเหร่อ ไม่มีใครไม่รู้จักคนงามบ้านนี้ ฉันคือตัวเก็งว่าที่ภรรยาพี่ยอดรัก ฉัน อีเก๋ร้านชำ”
“คนนี้น่ะเหรอ อีเก๋ร้านชำ คนที่ว่าอุตส่าห์ไปทำจมูกมาแล้วจมูกเบี้ยวใช่ไหมยอดรัก”
โดนจี้ใจดำเข้าไปเก๋ถึงกับปรี๊ดแตก ร้องกรี๊ดๆ ราวกับผีถูกน้ำมนต์
ooooooo
ยอดรักเห็นท่าไม่ดีรีบจูงมือชลดาวิ่งหนีออกจากร้านได้ทันก่อนสารพัดข้าวของจะลอยตามมา
เมื่อห่างร้านของเก๋มาพอสมควร ชลดาบอก ยอดรักว่ามีเรื่องเฮียกวงจะเล่าให้ฟัง เขามองไปทางร้านขายของชำเห็นเก๋ออกมายืนชี้หน้าด่า กลัวจะมีปัญหากันอีกบอกให้เธอเล่าเรื่องเฮียกวงระหว่างทางกลับบ้านก็แล้วกัน ชลดาหันมองเก๋อย่างเอาเรื่อง
“นี่ถ้าไม่ติดว่านุ่งผ้าถุงนะ อยากจะลองไฟต์ดูสักครั้ง” ชลดาเห็นยอดรักขำก็เสียงเขียวใส่ขำอะไร
“ผมว่าพอมาที่นี่ชลก็เปลี่ยนไปเยอะ คำพูดคำจาเริ่มคล้ายสก๊อยหนองอียอแล้ว ขอบอกว่าเลิฟ มากค่ะ”
“เออเนอะ สงสัยบรรยากาศมันได้อ่ะ” ชลดาอดขำตัวเองไม่ได้ ยอดรักทวงถามเรื่องเฮียกวง ที่จะเล่าให้ฟัง เธอเล่าเรื่องที่ได้ยินจากข่าวในทีวีให้เขาฟังระหว่างทางกลับบ้าน...
ทางด้านเหิมเห็นเฮียกวงไม่กินอะไรก็เลยเดินไปซื้อขนมมาให้กินรองท้องไปก่อน เขาปัดถุงขนมกระเด็นบอกให้เหิมขับรถเข้าตัวเมืองเผื่อจะมีอะไรที่เขากินได้บ้าง เหิมไม่เห็นด้วย
“โธ่เฮียอย่าไปเลย เราหลบแถวบ้านผมเถอะน่า มันปลอดภัยกว่าผมขอเอาหัวเป็นประกันเลย” เหิมพูดไม่ทันขาดคำ รถตู้ของผจญแล่นพรวดมาจอดหน้าร้านอาหาร สมุนลงจากรถพร้อมกับเล็งปืนใส่โดยมีผจญเดินยิ้มเหี้ยมตามมา เฮียกวง กับเหิมตกใจที่เห็นเขา
“พอดีเลย ผมแวะมาหาว่าที่พ่อตาคุณกวง ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอว่าที่ลูกเขยมาที่นี่ เอาของฝากไปนะเผื่อวันแห่ขันหมากผมไม่ว่าง” สิ้นเสียงผจญ สมุนสองคนยิงใส่ เฮียกวงกับเหิมโดดหลบเข้าที่กำบัง เฮียกวงสั่งให้เหิมยิงตอบโต้ไปบ้าง เขาส่ายหน้าจะยิงได้อย่างไรปืนอยู่บนรถไม่ได้หยิบติดมาด้วย แล้วจะเอาอย่างไรดี
“ก็วิ่งซีวะ” เฮียกวงสวมวิญญาณน้องหมาเผ่นแน่บไปทางหลังร้านโดยมีเหิมวิ่งตาม
แม่ค้าที่วิ่งหนีไปก่อนหน้าเห็นสายตรวจตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาแหกปากเรียกให้ตำรวจช่วยด้วยมันจะฆ่ากันในร้านของเธอ ผจญเห็นตำรวจมาสั่งให้ถอยก่อน คนขับรอจนสมุนขึ้นรถ จึงแล่นหนีไปอย่างรวดเร็ว...
ฝ่ายชลดาทำแผลเสร็จ เห็นยอดรักเงียบไปถามว่าคิดอะไรอยู่ เขาเป็นห่วงว่าเหิมจะพาเฮียกวง มาซ่อนตัวที่นี่เนื่องจากหนองอียอเป็นภูมิลำเนาเดิมของมัน ชลดาทิ้งตัวลงนั่งอย่างเซ็งจัด อุตส่าห์มาไกลขนาดนี้ยังหนีเรื่องร้ายๆไม่พ้นอีก ยอดรักลุกขึ้นเหมือนตัดสินใจได้
“ชล ปืนที่คนของสารวัตรฝากไว้อยู่ไหนอ่ะ”
ชลดาเดินไปหยิบปืนจากในกระเป๋าถือพร้อมกับลูกปืนสำรองอีกหกนัดมาให้ ยอดรักรับปืนมาเช็กดูกระสุนในรังเพลิงหกนัดก่อนเหน็บเอวไว้
“กระสุนสิบสองนัดนี่คงทำให้คนชั่วๆหายไปจากโลกนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย”
“ยอดรัก เวลาคุณทำท่าทางแบบนี้แล้วคุณเหมือนนักรบมาก แล้วมันทำให้ชลกลัวนะ เพราะเขามักจะทำท่านี้เวลาที่เขาจะต้องไปออกรบ”
“บางทีโชคชะตาคงทำให้ผมกับไอ้เหิมต้องมาคิดบัญชีกันที่นี่”
“คุณสองคนมีเรื่องกันมาก่อนเหรอ”