ตอนที่ 12
ยอดรักอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนยื่นหน้าจะจุ๊บหน้าผากชลดาแต่เธอเอามือดันอกเขาไว้ ห้ามทำแบบนี้อีกแล้วหันหลังให้ เขาถอยออกมาหนึ่งก้าว ตัดพ้อว่าเพราะเขาไม่ใช่ผู้กองใช่ไหม เธอยอมรับว่าใช่ เขาแก้ตัวที่ทำอย่างเมื่อครู่ก็แค่จะขอบคุณเธอเท่านั้น เธอสงสัยขอบคุณเรื่องอะไร เขาน่าจะเจอเธอเร็วกว่านี้เพราะเธอคงทำให้เขาเป็นคนดีกว่านี้ ชลดายิ้มเขินก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“ตอนนี้ชลง่วงมากแล้ว เออ ขอถามความจริงอีกครั้ง บ้านนี้มีห้องนอนแน่นะ”
“ตอบจริงๆก็คือ ครั้งสุดท้ายมันยังมีอยู่”...
ห้องนอนคนยากแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ข้างฝามีรูปถ่ายพ่อแม่ของยอดรักตอนอยู่ในวงครูสมัย และมีภาพเจ้าของห้องแต่งหล่อแขวนอยู่ข้างๆ ยอดรักปูที่นอนที่เป็นแบบพับได้ไม่มีเตียง มีหมอนหนึ่งใบผ้าห่มหนึ่งผืน จากนั้นดึงมุ้งลง ชลดาเดินมานั่งบนที่นอนเห็นหมอนใบเดียวถามเขาว่าจะนอนที่ไหน เขาบอกเธอว่าไม่ต้องเป็นห่วงเขานอนได้ทุกที่ เธอเหนื่อยมามากแล้วควรจะนอนได้แล้วและไม่ต้องกลัวว่าเขาจะทำอะไร
ชลดาหลับตาลงด้วยความเพลีย ยอดรักกระซิบเบาๆขอให้เธอฝันดี เธอละเมอออกมา
“กู๊ดไนต์จ้ะผู้กอง”
ยอดรักถึงกับสะอึก มองชลดาที่หลับสนิท “คุณจะเรียกผมว่าอะไรก็ได้แต่อย่าเลิกรักผมก็พอ”
ooooooo
สมุทรมาเยี่ยมนาวินที่ห้องพักฟื้น เจอสารวัตรกรุ๊นด์ยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วยก็ตกใจชักปืนที่เหน็บเอวขึ้นมาเล็งใส่สั่งให้ถอยออกห่างจากเตียงเดี๋ยวนี้ ริสาเข้ามายืนด้านหลังสมุทรใช้บางอย่างจ่อหลังเขา
“ขอปืนค่ะ ถ้าผู้หมวดยังไม่อยากตาย”
“ทำไม คุณจะยิงผมด้วยโทรศัพท์มือถือที่จ่อหลังผมเหรอ” สมุทรยิ้มหยัน ก่อนที่บรรยากาศจะเครียดไปกว่านี้ นาวินตบมือและยิ้มออกมา ริสาพลอยยิ้มไปด้วย เอาไอโฟนในมือโชว์ให้สมุทรดู
“เก่งมากหมวด แต่ในห้องนี้มีแต่เพื่อน เก็บอาวุธซะ ผู้หมวดที่มานี่เพราะจะรายงานผมเรื่องผจญและถามผมเรื่องที่ผมสั่งปฏิบัติการรหัสแดงใช่ไหม”
“ครับผม แล้วยังมีพยานที่ชื่อส้มจี๊ดที่ยืนยันว่าเคยเห็นผจญติดต่อกับนายกวงครับ”
“ดีมาก งั้นผมว่าเราประชุมต่อเลยดีกว่าสารวัตร ผู้หมวดเขาจะได้ฟังด้วย”
ริสาขอเวลาสักครู่หนึ่งก่อน พอดีรับปากกับหมอชลไว้ว่าจะส่งรูปนาวินไปให้เธอดูทุกวันตลอดเวลาที่เธอต้องซ่อนตัวเพื่อจะได้ไม่เป็นห่วงท่าน นาวินเห็นดีด้วยแต่จะให้ทำท่าอย่างไรลูกถึงจะรู้ว่าท่านดีขึ้นมากแล้ว...
เสียงสัญญาณว่ามีไลน์เข้าปลุกชลดาให้รู้สึกตัวลืมตาขึ้น ควานไปใต้หมอนหยิบมือถือออกมาดูถึงกับยิ้มมีความสุขเพราะริสาส่งคลิปพ่อของเธอในอิริยาบถต่างๆทั้งทำแขนเป็นรูปหัวใจ และใช้นิ้วทำมินิฮาร์ตมาให้ เธอมองซ้ายมองขวาเห็นปลอดคน ถ่ายเซลฟี่ตัวเองชูสองนิ้วกลับไปให้ และอีกรูปหนึ่งถ่ายตอนทำตาปรือ
ยอดรักนุ่งผ้าขาวม้ามาเห็นเธอทำท่าแปลกๆ คิดว่าปวดหัวเพราะพักผ่อนไม่พอก็เป็นห่วงเข้ามาดันตัวเธอให้ลงนอน เธอต้องอธิบายให้ฟังว่าเธอไม่ได้ปวดหัว แต่ที่ทำท่าแปลกๆก็แค่จะถ่ายรูปส่งไปให้พ่อดูว่าเธอสบายดี ท่านจะได้ไม่เป็นห่วง
“ท่ามีให้เลือกถ่ายเป็นหมื่นเป็นแสนท่าไม่เอา ดันจะมาเอาท่าวิปริตพิสดารแบบนี้”
“ชลจะถ่ายท่าไหนมันก็เรื่องของชล แต่ยอดรักน่ะนั่งให้มันดีๆหน่อย ขี้เกียจไปซื้อยาหยอดตา” ชลดาว่าแล้วเอาพัดมาปิดหน้า ยอดรักรีบหุบขา แกล้งกระเซ้าทำเหมือนไม่เคยเห็น จังหวะนั้นมีเสียงตะโกนดังมาจากใต้ถุนบ้านว่ามีใครอยู่ข้างบน ใช่ยอดรักหรือเปล่า เขาวิ่งไปชะโงกดูที่หน้าต่างเห็นป้าจุ๊ร้องเรียกอยู่
“นี่ไงชล ป้าจุ๊กลุ่มแม่พระบวชใหม่ที่มาเขียนฝาบ้านผมอ่ะชล”
ooooooo
ในเวลาต่อมา ชลดาที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดชาวบ้านลงมาช่วยป้าจุ๊ยกสำรับกับข้าวมาวางที่โต๊ะอาหารไปพลางขอบคุณป้าไปด้วยที่กรุณาให้เธอมาอาบน้ำที่บ้านของท่าน เพราะบ้านยอดรักไม่มีอะไรสักอย่าง
“แหมคุณหมอไม่ต้องเกรงใจ เมียไอ้ยอดรักก็เหมือนสะใภ้ของคนที่นี่”
“ป้าเข้าใจผิดแล้ว เราสองคนแค่ เอ่อ...แค่เป็นเพื่อนกันค่ะ”
“เพื่อนอะไรจะมาเยี่ยมบ้านเยี่ยมช่องกันสองต่อสองแถมมีนอนค้างอ้างแรมกันด้วย” ป้าจุ๊หัวร่อร่า ชลดาอายแทบแทรกแผ่นดินหนี เอามืออุดหูตัวเองไม่อยากพูดด้วยแล้ว ป้าจุ๊ดึงมือเธอออกบอกว่าไม่ต้องอาย ท่านแค่อยากรู้ว่าได้กันหรือยัง ชลดาแดกดันคนที่นี่ถามตรงๆแบบนี้ทั้งอำเภอเลยหรือ
“เกือบ แต่อีจุ๊นี่ตรงสุด กลับมาเรื่องของเราไหนๆก็ไหนๆกันแล้วก็ตกลงปลงใจแต่งกับมันเลยสิ มันจะได้ลงหลักปักฐานกับเขาสักที พวกเราจะได้หายห่วง”
“ป้าน่าจะไปขายของทางทีวีนะ ยอดขายทะลุเป้าแน่” ชลดาเขินจัดรีบยกอาหารไปตั้งที่โต๊ะกลบเกลื่อน ป้าจุ๊ถอนใจเซ็งที่เธอไม่ยอมรับปากได้แต่ยกจานใส่อาหารเดินตาม ยอดรักในชุดใหม่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ร้องทักเสียงดังว่าใครจะขายอะไรใคร ป้าจุ๊พยายามจะขายเขาให้ชลดา
“เออ ข้าว่าแล้วว่าแกต้องใส่เสื้อของไอ้จุ่นได้ ตัวมันพอๆกับแก”