ตอนที่ 12
ชลดากับยอดรักไม่ได้ใช้เรือหนีการไล่ล่าของผจญ แต่ใช้รถกระบะของคนเรือขับหนีจากสัตหีบมุ่งหน้าสู่หนองอียอ ยอดรักนอนหลับมาตลอดทาง เมื่อมาถึงป้ายบอกชื่อบ้านหนองอียอ ชลดาจอดรถพักเหนื่อย
ยอดรักค่อยๆรู้สึกตัวลืมตาขึ้น เห็นชลดามองอยู่ถามว่าตัวเองหลับไปนานไหม เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เขาหลับแค่จากสัตหีบถึงหนองอียอเป็นเวลาเก้าชั่วโมงพอดี นี่จะตีสามแล้ว เขารู้สึกผิดอย่างแรง
“โธ่ ทำไมชลไม่ปลุกผมมาขับรถสลับกับชลบ้าง”
“ก็คุณเจ็บอยู่ เลยอยากให้พักผ่อนมากๆไง ตอนนี้ยังเจ็บแผลมากไหม”
“แค่รู้ว่าชลห่วงผมก็ไม่ปวดแล้ว” ยอดรักจับมือเธอมากุมไว้ เธอชักมือกลับ ความเหนื่อยทำให้พูดชื่อผิด
“เออ แล้วจากนี่อีกไกลไหมกว่าจะถึงบ้านผู้กอง” ชลดารู้สึกตัวว่าเรียกยอดรักผิดรีบขอโทษ เขาแอบเคืองกัดฟันถามว่าคิดถึงผู้กองหรือ เธอยอมรับว่าคิดถึง ไม่รู้ป่านนี้เขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ฉลามเสือเสียงทองนึกถึงตอนทำสัญญากับปีศาจอย่างผจญเพื่อมาแทนที่ผู้กองนักรบซึ่งผจญจะทำให้ผู้กองหายสาบสูญไปจากโลกนี้ ก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่เขาจะให้ชลดารู้เรื่องนี้ไม่ได้ จำใจแต่งเรื่องโกหกว่าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้กองอยู่ไหนเป็นอย่างไรบ้าง
“แต่คุณน่าจะเจอเขาสิเพราะเขาหายไปตอนไปช่วยคุณแท้ๆ”
“ผมไม่รู้จริงๆ ที่ผมรู้คือพอผมฟื้นขึ้นมาใครๆก็นึกว่าผมเป็นเขา นี่คือทั้งหมดที่ผมรู้...ชลคงอยากให้เขาอยู่ตรงนี้กับชลแล้วคนที่หายไปคือผมมั้ง”
เจอคำถามจี้ใจดำ ชลดาถึงกับไปไม่เป็น ไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไรเพราะนักรบคือผู้ชายที่ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอและเหมาะสมกับเธอทุกประการ แต่ยอดรักคือคนที่เธอรักและไม่เหมาะสมกับเธอแม้แต่ประการเดียว
“ผมว่าชลเหนื่อยมากแล้ว เราไปหาโรงแรมพักกันดีกว่าไหม”
“อย่าเลย เรายังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับ เราควรจะประหยัดนะ...ไปบ้านคุณน่ะดีแล้ว”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ บอกทางมาก็จบ” ชลดาตัดบท ยอดรักลำบากใจมากที่จะเปิดเผยความสิ้นไร้ไม้ตอกให้เธอรับรู้ แต่เขาไม่มีทางเลือก ไม่นานนัก ชลดาขับรถมาจอดหน้าบ้านยอดรัก เป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูงโทรมๆไม่ได้รับการดูแล บริเวณบ้านไม่มีแม้แต่รั้วรอบขอบชิด ยอดรักบอกให้เธอรออยู่ในรถก่อน แล้วหายเข้าไปในบ้านสักพักกลับออกมาพร้อมกับตะเกียงสองดวงในมือ รีบมาเปิดประตูรถให้เธอลง
“จะมาโรแมนติกอะไรกันตอนนี้”
“คือตอนนี้ไฟฟ้ามันใช้ไม่ได้อ่ะชล แล้วพวกทีวี วิทยุ ตู้เย็นก็เหมือนกัน แล้วก็น้ำประปาด้วย”
“เอ๊ะ มันเกิดน้ำท่วมหนักจนทุกอย่างพร้อมใจกันพังเหรอ”
“ไม่ใช่น้ำแต่หนี้มันท่วม เจ้าหนี้เลยทยอยมายึดเอาไปใช้หนี้อ่ะดิ ชลไหวไหม ยังเปลี่ยนใจไปหาโรงแรมทันนะ ผมจะได้ล็อกบ้านก่อน กันขโมย”
ชลดางงในบ้านไม่เหลืออะไรแล้วไม่ใช่หรือจะกลัวขโมยขึ้นบ้านทำไม เขากลัวขโมยจะเห็นว่าเขาจนมากแล้วเอาไปโพนทะนา เขาคงอายแทบแทรกแผ่นดินหนี เธอเศร้าใจมากที่รู้ว่าคนรักของตัวเองอยู่ได้ด้วยการสร้างภาพดีแต่โกหกไปวันๆ เธอไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้ ถอนใจหนักใจแล้วปรับเบาะรถเอนตัวนอนตะแคงหันหลังให้ ขอตัวนอนก่อนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
“อ้าว ก็ไปนอนที่ห้องนอนสิชล จะมานอนในรถทำไม”
“มันนอนได้จริงๆเหรอ”
“โธ่...ได้สิ ตามผมมาชล” ยอดรักเปิดประตูรถจูงมือชลดาเข้าบ้าน
“ยอดรัก ขออะไรสักอย่างได้ไหม หัดพูดอะไรตรงๆเถอะนะ”
“ได้จ้ะ...ไปชล เข้าบ้านดีกว่า”
ooooooo
ใต้ถุนบ้านยอดรักที่ยกสูงมีป้ายโฆษณาคอนเสิร์ตงานวัดเก่าๆวางทิ้งไว้แทบจะทุกมุมของบ้าน ชลดาเดินไปพิจารณาก่อนถามเจ้าของบ้านว่าพวกนี้เป็นคอนเสิร์ตของเขาหรือ ร้องครบทุกวัดทั่วอีสานหรือยัง
“เกือบ แต่งานแพงๆไม่เคยได้หรอก แล้วไอ้งานที่ได้ก็มีเล่นฟรีด้วยล่ะ”
ชลดาเดินสำรวจมาถึงบันไดบ้าน มีข้อความเขียนด้วยชอล์กเต็มผนังทางขึ้น ส่วนใหญ่จะเขียนชื่นชมยอดรักที่ไปช่วยงานบวชงานบุญของคนในหมู่บ้าน แต่ที่ชื่นชมออกนอกหน้าดูเหมือนเป็นคนที่ชื่อป้าจุ๊ ส่วนข้อความจากเก๋ ร้านชำ จะเป็นไปในทำนองรักใคร่ชอบพอเขาจนชลดาแอบเคือง แล้วอ่านข้อความต่อไป
“หนูอยากให้ไอ้คนใจหมาที่ลักตัวพี่ไปจงฉิบหาย อยากได้ยินเสียงพี่อีกอ่ะ จากผู้ไม่ประสงค์ออกนามเพราะผัวขี้หึง แต่หนูจริงใจไม่เหมือนอีเก๋ ร้านชำที่ทำจมูกมาแล้วเบี้ยว” อ่านจบชลดามองยอดรักเขม็ง เขาออกตัวไม่รู้จริงๆว่าใครเป็นคนเขียนได้แต่หวังว่าผัวของผู้หญิงคนนี้คงไม่รู้เรื่อง
“จำสัญญาได้ใช่หรือเปล่า ห้ามโกหกนะ”
“ไม่โกหกจ้า” ยอดรักแอบกลืนน้ำลาย ชลดาอ่านข้อความจากยายปริกที่ภาวนาให้เขาปลอดภัยกลับมา ยอดรักถึงกับน้ำตาซึมซึ้งใจที่แฟนคลับยังนึกถึงเขา
“เพราะเสียงกับหัวใจของยอดรักไงที่ทำให้ทุกคนมีความสุข”
“มันไม่จริงหรอก เงินมันสำคัญกว่า”
“นี่ คุณคิดหรือว่าถ้าผู้หญิงแต่งงานกับคนใหญ่คนโตที่มีคนกราบไหว้แต่ในใจเขารู้ว่าคนคนนั้นกำลังถูกสาปแช่งเพราะเป็นคนคดโกง เขาเนี่ยนะจะมีความสุข ถ้าเป็นชลขอตอบเลยว่าไม่”