ตอนที่ 12
ใกล้ฟ้าสาง ผู้คุมเดินมาเปิดช่องตรงประตูห้องขังเห็นผู้ต้องหายังอยู่ดี เดินไปเปลี่ยนเวร ยอดรักที่ไม่ได้หลับได้นอนเพราะกำลังตัดสินใจจะจัดการกับตัวเองอย่างไรดีเพื่อไม่ให้ชลดากับครอบครัวต้องเดือดร้อน
“ถ้ามันเป็นทางเดียวที่ชลจะไม่ต้องเดือดร้อน” ยอดรักมองโซ่ในมืออย่างตัดสินใจได้...
อีกมุมหนึ่งตรงทางเข้าห้องขัง ผู้คุมคนแรกกำลังเซ็นเอกสารเพื่อส่งต่อผู้ต้องหาให้ผู้คุมอีกคนหนึ่งตอนที่ไฟฟ้าส่องสว่างเกิดติดๆดับๆ ก่อนจะดับพึ่บ โดยไม่ทันตั้งตัวริสากับสารวัตรกรุ๊นด์ในชุดดำ
สวมหมวกไอ้โม่ง อำพรางใบหน้าที่แท้จริงเข้าจู่โจมผู้คุมทั้งสองคนอึดใจจัดการพวกนั้นได้ราบคาบ ริสาวิทยุบอกชลดา
“สับคัตเอาต์ไฟได้” สิ้นเสียงริสาไฟฟ้าสว่างขึ้นอีกครั้ง ชลดาที่อยู่ตรงแผงควบคุมไฟกำลังต่อสู้กับตัวเอง
“หมอชล เธอรู้ไหมว่าตัวเองกำลังช่วยคนร้ายหลบหนีอยู่”
เสียงเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษวิทยุแจ้งฐานว่ากำลังจะไปที่แผงควบคุมทำให้ชลดาตื่นจากภวังค์ รีบไปซ่อนตัวในหลืบ จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่สองคนพร้อมอาวุธครบมือมาถึงแผงควบคุมไฟ
“แผงควบคุมไฟปกติ กำลังลาดตระเวนค้นหาต่อไป...เปลี่ยน”
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนตรวจตราเสร็จเดินจากไป ชลดาถอนใจโล่งอกค่อยๆโผล่ออกจากที่ซ่อน เจอเจ้าหน้าที่อีกชุดเดินตรงมาทางตัวเอง รีบไปซ่อนตัวที่เดิมได้ทันก่อนจะมีใครเห็น รอจนพวกนั้นไปพ้นแล้ว รีบวิ่งลัดเลาะไปที่ริมรั้วใกล้จุดที่ซ่อนรถตู้เอาไว้...
ยอดรักที่อยู่ในห้องขังเห็นควันจากแก๊สสลบพุ่งเข้ามาในห้องพยายามอุดจมูกแต่ไม่สำเร็จตาเริ่มพร่า เสียงประตูห้องขังเปิดออกเห็นไอ้โม่งสองคนสวมหน้ากากกันแก๊สพิษเดินเข้ามา เห็นแค่นั้นเขาก็หมดสติ ไอ้โม่งรีบไขกุญแจที่ล็อกตัวเขา จากนั้นช่วยกันพยุงออกจากห้อง ไม่นานนักสารวัตรกรุ๊นด์กับริสาในคราบไอ้โม่งประคองร่างยอดรักออกมาจากตัวตึก ชลดาที่ซ่อนตัวอยู่รีบเข้ามาสมทบถามว่าเขาเป็นอะไร
“แค่แก๊สสลบน่ะ” ริสาพูดไม่ทันขาดคำ ไฟรอบๆตึกบัญชาการหน่วยพิเศษสว่างพึ่บ เสียงสัญญาณเตือนภัยดังสนั่น สารวัตรกรุ๊นด์เร่งให้ไปกันได้แล้ว พวกนั้นรู้ตัวแล้ว ทั้งสามคนเร่งพายอดรักลอดรั้วที่อ้าอยู่ออกไป
ooooooo
นาวินเครียดจัดที่ยอดรักหนีไปได้ และยิ่งเครียดมากไปกว่านั้นเมื่อเห็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่สมุทรเอามาให้ดูว่าพวกที่มาช่วยยอดรักหนี นอกจากไอ้โม่งสองคนแล้ว ยังมีชลดาร่วมด้วย
“ผมสั่งเก็บภาพทั้งหมดมาแล้วครับ นอกจากผมกับครูจะไม่มีใครในหน่วยเรารู้เรื่องนี้”
“ชล ทำไมลูก...” นาวินสีหน้าผิดหวังอย่างแรง สมุทรเป็นห่วงพยายามปลอบ เรายังไม่รู้ว่าหมอชลทำไปเพราะอะไรอย่าเพิ่งกลุ้มใจไปเลย นาวินฟันธงว่าเหตุผลที่เธอทำอย่างนั้นเพราะต้องการช่วยคนรัก
“แต่ผมว่าเรื่องนี้มันซับซ้อนกว่าที่เราคิดครับ ผมกับทีมขอเวลา 48 ชั่วโมงเพื่อจัดการเรื่องนี้ครับครู”
“แค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้นหมวด” พูดแค่นั้น อาการความดันโลหิตสูงของนาวินกำเริบขึ้นมาอีกปวดหัวมากจนต้องกุมขมับ สมุทรเป็นห่วงแนะให้ท่านไปพบหมอ
“เลิกห่วงผมเถอะ เวลาของหมวดเองก็มีไม่มาก รีบไปทำเรื่องที่ต้องทำเถอะนะ”
“ครับผม” สมุทรปิดคลิป ถอดแฟลชไดรฟ์ออกจากคอมพิวเตอร์ เป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งว่าทางเราได้รับรายงานว่าขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังมุ่งไปที่บ้านเฮียกวงเพื่อทำการจับกุมแล้ว สมุทรตกใจ ตำรวจรู้เรื่องเฮียกวงได้อย่างไร นาวินไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องเป็นฝีมือผจญแน่ๆ กำชับสมุทรว่าต้องได้ตัวสี่คนนี้ก่อนผจญจะได้ตัวไป สมุทรรับคำรีบไปทำตามคำสั่ง นาวินเครียดจัดเป็นห่วงลูก
“ชล...ลูกรู้หรือเปล่าว่าลูกกำลังทำอะไร”...
ในเวลาเดียวกัน ตำรวจนำกำลังปิดล้อมบ้านเฮียกวงไว้ ทุกนายเล็งปืนไปยังตัวบ้านที่เหล่าสมุนหลบอยู่หลังที่กำบังพร้อมอาวุธครบมือ ตำรวจประกาศทางไมโครโฟนให้ทุกคนในบ้านวางอาวุธและออกมามอบตัว อย่าขัดขืนเด็ดขาด เฮียกวงกับเหิมที่หลบมุมอยู่ต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“เฮีย ตำรวจมันบุกมาแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวเลย เอาไงดี”
“ลื้อรีบบอกพวกเราให้อยู่เฉยๆก่อน ใครยิงอั๊วจะฆ่ามัน”
เหิมรับคำวิ่งปรู๊ดออกจากที่กำบัง จังหวะนั้นมีเสียงมือถือของเฮียกวงดังขึ้น เขามองเบอร์โทร.เห็นเป็นของผจญถามว่าทำไมตำรวจแห่กันมาเต็มบ้านของตนเลย
“อ้าวก็คุณเป็นคนจ้างวานผู้กองนักรบให้ฆ่าเฮียเสนี่”
“ลื้อพูดบ้าบอคอแตกอะไรวะ อั๊วไปจ้างอีตั้งแต่เมื่อไหร่”
“คุณจำตอนที่ผมให้คุณโอนเงินให้ผมสิบล้านได้ไหม เงินนั้นมันตรงเข้าบัญชีผู้กองนักรบเลยล่ะ นั่นแหละหลักฐานในการจ้าง” ผจญหัวเราะชอบใจ เฮียกวงจำได้ว่าตอนนั้นโอนเงินให้ผจญไม่ใช่หรือ มันหัวเราะอีก ตอนนี้เขารู้แล้วใช่ไหมว่าไม่ใช่ เฮียกวงแทบคลั่งขู่จะบอกตำรวจให้หมด
“คุณคงทำไม่ได้เพราะคุณกำลังจะตายในการต่อสู้กับเจ้าพนักงาน”
“บ้าดิ คนของอั๊วยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“แน่ใจเหรอ” ผจญยิ้มเหี้ยมก่อนวางสาย แล้วหันไปสั่งคนของตัวเองวิทยุติดต่อสมุนให้ลงมือได้ สิ้นเสียงสั่งการ สมุนผจญที่ซุ่มอยู่ใกล้กับบ้านเฮียกวงยิงระเบิดใส่ตำรวจ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว