ตอนที่ 11
ผจญนั่งรอนาวินอยู่ในห้องประชุมของหน่วยพิเศษพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่บรรจุอาวุธลับซึ่งจะใช้จัดการกับยอดรัก สักพักนาวินเดินเข้ามากับสมุทรมองไปรอบๆห้องอย่างสงสัย
“คุณผจญมาคนเดียวเหรอครับ แล้วทีมสอบสวนของคุณล่ะ”
“ผมว่าเรื่องนั้นคงไม่จำเป็น เพราะผมมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเหตุใดผู้กองนักรบจึงทรยศต่อหน้าที่และผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา”
“มันเป็นข้อกล่าวหารุนแรงที่สามารถส่งตัวคนคนหนึ่งเข้าหลักประหารได้เลยนะคุณ”
ซีไอเอตัวแสบบรรจงเปิดกระเป๋าเอกสาร หันด้านที่เปิดอ้าไปทางนาวิน มีเอกสารปึกใหญ่ที่เข้ารูปเล่มอย่างดีวางอยู่ สมุทรเดินไปหยิบเอกสารนั้นมาให้นาวินดู เป็นเอกสารที่ผจญทำขึ้นเพื่อใส่ร้ายทั้งนักรบและยอดรัก ขบวนการใส่ร้ายเริ่มตั้งแต่นักรบนำลูกทีมไปช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกแก๊งนอกกฎหมายจับตัวไป ผจญอ้างว่านักรบสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปราบปรามคนร้ายด้วยความโหดเหี้ยมและรุนแรงทั้งที่ตนเองทักท้วง
คนร้ายตายเรียบทำให้ทางการขาดพยานในการสืบสาวไปถึงขบวนการผิดกฎหมายเหล่านั้น ผจญยังกล่าวหาอีกว่าหลังได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการครั้งนั้น ผู้กองแกล้งความจำเสื่อมทำให้ทางเราไม่สามารถดำเนินการสอบสวนหาความผิดต่อไปได้ นอกจากนี้มันยังสร้างหลักฐานปลอมว่าผู้กองเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวของสมุทรที่จะหาตัวนักร้องที่ชื่อยอดรักไม่เจอ รวมทั้งการติดตามตัวหมอเจ้าของไข้
การกระทำเลวร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นโดยมีผจญอยู่เบื้องหลัง จะถูกโยนให้เป็นความผิดของผู้กองนักรบทั้งหมด รวมทั้งปฏิบัติการล่าสุดที่ผู้กองนำทีมเข้ากวาดล้างแก๊งของเก๊า ผจญใส่ความว่าทั้งที่ผู้กองได้รับอนุญาตให้สังหารเก๊าได้แต่เขากลับปล่อยมันหนีไป ทำให้มันสามารถรวบรวมสมุนมาโจมตีตอบโต้ลูกทีมรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลและตำรวจไทยได้ เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองวันที่ผ่านมา
“แต่เขาก็ช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้ได้” นาวินแก้ต่างแทนลูกน้อง
“ด้วยอะไรครับ เสียงเพลงอย่างนั้นเหรอครับ นั่นเหรอครับคือคุณสมบัติตามมาตรฐานที่เจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษพึงมี และล่าสุดผู้กองนักรบละทิ้งหน้าที่จนเกิดการสังหารนายเส พยานปากสำคัญและการพยายามสังหารเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษสามนาย และเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้” ผจญหยุดพูดไปอึดใจก่อนทิ้งไพ่ตาย
“ในหน้าสุดท้ายของรายงาน คือตัวเลขในบัญชีธนาคารของผู้กองนักรบ ทุกท่านจะเห็นว่าเมื่อดูตัวเลขล่าสุด มีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้กองเป็นจำนวนถึงสิบล้านบาท มันน่าจะมากพอที่เขาจะยอมขายนายเสกับลูกน้องของตัวเอง จริงไหมครับ”
“สมุทร สั่งให้คนของเราเช็กบัญชีต้นทางว่ามาจากที่ไหน” นาวินสั่งเสียงเครียด ผจญร้องห้ามไว้ อ้างตนเช็กให้แล้ว เจ้าของบัญชีต้นทางคือเฮียกวง เจ้าพ่อแห่งท้องทะเลคนใหม่ที่ขึ้นมาแทนเก๊ากับเสที่ตายด้วยฝีมือของผู้กองนักรบ หลักฐานทั้งหมดของผจญชี้ชัดว่ายอดรักในคราบผู้กองนักรบคือคนทรยศ นาวินตระหนักแล้วว่าลูกน้องตัวเองเป็นคนเลว อาการปวดหัวกำเริบขึ้นอีกครั้ง ต้องทรุดตัวลงนั่งกุมขมับ
สมุทรเป็นห่วงจะเข้ามาดูแล นาวินยกมือห้ามไว้ โกหกว่าไม่เป็นอะไร ผจญปิดกระเป๋าเอกสารอย่างกระหยิ่มใจที่แผนใส่ร้ายสำเร็จ ลุกขึ้นมองหน้านาวิน
“อย่างไม่เป็นทางการนะครับ ผมคิดว่าผู้กองนักรบใช้ความสัมพันธ์ทั้งในหน้าที่การงานและเรื่องส่วนตัวกับท่านและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกสาวของท่านเพื่อทรยศต่อคำสัตย์สาบานที่ว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตครับ”
“ผจญระวังปากหน่อยนะ” สมุทรจะเอาเรื่อง นาวินคว้าแขนไว้พร้อมกับปรามไม่ให้วู่วาม แล้วถามผจญว่าต้องการอะไรกันแน่ เขาต้องการคุยกับผู้กองสองต่อสอง เชื่อว่าเขาจะทำให้ผู้กองสารภาพได้
“ท่านคงไม่อยากให้คนในครอบครัวท่านต้องเดือดร้อนจริงไหมครับ โดยเฉพาะคุณหมอชลดา”
ooooooo
ชลดาร้องไห้จนหลับไปทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เสียงไม้กระดานลั่นปลุกเธอให้ลืมตาตื่นขึ้น มองไปทางประตูห้องนอนที่เปิดอ้าอยู่ต้องตกใจเมื่อเห็นแสงจากไฟฉายส่องวูบวาบอยู่ชั้นล่าง
หญิงสาวกลัวมากคิดว่าเป็นคนร้าย พยายามจะไปหยิบมือถือโทร.แจ้งตำรวจ ก่อนเหตุการณ์จะบานปลายใหญ่โต แขกไม่ได้รับเชิญทั้งสองคนเปิดเผยตัวเองให้เธอรู้ว่าคนหนึ่งคือสารวัตรกรุ๊นด์ ส่วนอีกคนไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นริสานั่นเอง ชลดางงมาก
นี่มันเรื่องอะไรกัน ทั้งคู่ยังไม่อยากเผยตัวให้ใครรู้ ขอให้เธอปิดประตูหน้าต่างทุกบานให้หมดก่อน
ครั้นปิดหมดแล้วทั้งคู่ถึงได้ยอมเฉลยว่ามาที่นี่เพราะผู้กองนักรบ
“คนที่คุณเรียกเขาว่าผู้กองนักรบกำลังตกอยู่ในอันตรายและถ้าเราขืนชักช้า เขาอาจจะตายก่อนพรุ่งนี้เช้าด้วยซ้ำไป” คำพูดของสารวัตรกรุ๊นด์ทำเอาชลดาหายใจไม่ทั่วท้อง...