ตอนที่ 10
ยอดรักรับคำ ชลดาดีใจหอมแก้มเขาหลายฟอดแล้วกอดไว้แน่น แทนที่จะมีความสุขเพราะจะได้แต่งงานกับเธอ เขากลับเป็นกังวลกลัวสักวันผจญอาจเผยความจริงเรื่องของเขาให้เธอรู้
ooooooo
ระหว่างขับรถออกจากบ้านพักหมอ ภคินีใช้บลูทูธโทร.หาสามีกำชับว่าต่อให้ฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลาย ต่อให้เขาใกล้ตายก็ต้องกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน
“น้ำเสียงแบบนี้ พูดมาตรงๆมีเรื่องสำคัญอะไรก็บอกมา”
“เอาเถอะบอกให้มาก็มาแล้วกัน นี่ แล้วไม่ต้องมาอ้างว่ายุ่งกับหน่วยพิส่งพิเศษบ้าบอคอแตกอะไรอีกแล้ว บอกตรงๆไอ้หน่วยนี้ทำบ้านเราจะแตกอยู่แล้ว เบื่อ เอียนเลี่ยน”
“งั้นไม่ต้องห่วง เพราะตอนนี้ไอ้หน่วยที่คุณว่าเบื่อเอียนเลี่ยนมันไม่มีอีกต่อไปแล้ว” นาวินวางสายอย่างกระแทกกระทั้นแล้วหันมองหมึกกับเวชที่ยืนอยู่ตรงหน้า บนโต๊ะทำงานมีใบลาออกของทั้งคู่วางอยู่ นาวินย้ำแน่ใจแล้วหรือว่าจะลาออก ทั้งคู่แน่ใจเพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำลงไป
“งั้นก็ตามนั้น จำไว้นะถ้าเดือดร้อนไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้นึกถึงผมก่อนนะ”
ทั้งคู่ซาบซึ้งใจ ทำความเคารพนาวินแล้วออกจากห้อง ท่านนายพลหยิบจดหมายลาออกทั้งสองฉบับใส่ในแฟ้มหน่วยพิเศษ รวมกับจดหมายลาออกจากสมุทร แล้วเก็บใส่ลิ้นชัก ครู่ต่อมา ขณะที่หมึกกับเวชแบกถุงทะเลออกจากหน่วย สมุทรขับรถกระบะมาจอดเทียบ
“ไหนๆหมวดกับจ่าก็ตกงานโดยพร้อมเพรียงกันแล้ว เราจะไม่ไปฉลองให้กับการที่เราสามคนเพิ่งมีโอกาสได้ว่างงานกันสักหน่อยเหรอ”
“เอ๊ะ นี่หมวดก็ลาออกเหมือนกันเหรอครับ” หมึกฉงน
“งั้นก็จริงสิครับที่ไม่มีหน่วยของเราอีกต่อไปแล้ว” เวชมองสมุทรอย่างรอคำตอบ ผู้หมวดหนุ่มไม่พูดอะไรได้แต่ถามว่าจะขึ้นรถหรือเปล่า ถ้าไม่ขึ้นเขาจะไปฉลองคนเดียว ทั้งสองจ่ารีบวิ่งขึ้นรถ จากนั้นรถแล่นออกจากประตูรั้วหน่วยพิเศษอย่างรวดเร็ว ยามคนหนึ่งซึ่งเป็นสายของผจญรีบหลบออกไปโทร.แจ้งฐานว่ายืนยันคำสั่งสลายหน่วยพิเศษเป็นความจริง เจ้าหน้าที่สาวที่รับเรื่องหันไปแจ้งกับผจญ
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของนายแล้วค่ะ”
“เกือบแต่ไม่ทั้งหมด คนของเราที่แฝงอยู่ในบ้านเฮียกวงหายไป...ทุกคนถ่ายทอดเสียงของผมให้ทุกหน่วยได้ยินพร้อมๆกัน” ผจญตบมือเรียกความสนใจ เจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่หน้าเครื่องมือสื่อสารหันมาส่งสัญญาณเป็นทำนองว่าพร้อมถ่ายทอดสดคำพูดของเขา
“ทุกคนฟังผมให้ดีๆนะ แผนการใหญ่ของพวกเราที่สามารถใช้ชีวิตหลังล้างมือให้กับซี.ไอ.เอ.ใกล้จะเป็นความจริง ธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหมดแถบชายฝั่งทะเลใกล้จะอยู่ในมือของเราแล้ว แต่ใครสักคนช่วยบอกผมทีว่านายกวงคนที่เคยเป็นลูกไก่ในกำมือเรา ตอนนี้หายหัวไปอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่หรือกำลังคิดแผนการอะไรลับหลังผม มีใครตอบผมได้ไหม” ผจญมองกราดไปทางเจ้าหน้าที่สื่อสารที่พากันส่ายหน้าเพราะไม่มีใครตอบ
“ก็ไปตามหาตัวมันให้เจอสิ ลงมือเดี๋ยวนี้...อ้อ ตามหาตัวนายยอดรักให้ผมหน่อย ผมคิดว่าผมจะต้องใช้บริการของเขาแล้ว” ผจญสั่งเสร็จไม่กี่อึดใจ เจ้าหน้าที่สาวสวยแจ้งเขาว่าได้ที่อยู่ของยอดรักแล้ว
ooooooo
ชลดาพายอดรักไปซื้อข้าวของที่ห้างฯเพื่อเสริมหล่อคืนนี้ที่เขาต้องเจอพ่อกับแม่ของเธอ ระหว่างเดินออกจากแผนกขายเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า ทั้งคู่ชนเข้ากับกาจเจ้าของรายการเงาเสียงอย่างจังจนเขาล้ม
ทั้งคู่เข้าไปช่วยพยุง ยอดรักเห็นหน้ากาจชัดๆก็จำได้ว่าตัวเองเคยไปสมัครร้องเพลงด้วยพยายามเอามือปิดหน้ากลัวอีกฝ่ายจำได้ โชคดีที่กาจจำไม่ได้ จำได้แค่ว่าเขาคือผู้กองนักรบรีบตะโกนเรียกทีมงานว่าเจอฉลามเสือเสียงทองตัวจริงเข้าแล้ว ครู่ต่อมากาจพร้อมทีมงานกับยอดรักและชลดามานั่งดื่มเครื่องดื่มกันไปคุยกันไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง กาจอยากให้ยอดรักไปออกรายการเพื่อเป็นเงาเสียงให้คนมาร้องเพลงแข่งกัน
“เอ๊ะ ปกติคนที่เป็นต้นแบบต้องเป็นนักร้องดังไม่ใช่เหรอครับ”
กาจอธิบายว่าผู้กองเองก็ดังมาก ตอนไปร้องเพลงการกุศลเรตติ้งพุ่งกระฉูดจนทางช่องอยากได้ตัวไปออกทีวีให้เร็วที่สุดเพราะตีเหล็กต้องตีตอนร้อนยอดรักลิงโลดมากที่ตัวเองดังระเบิดลุกขึ้นชูสองแขนขึ้นฟ้าโดดโลดเต้นจนชลดาต้องสะกิดเตือน และขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวสักครู่แล้วดึงเขาออกจากร้านไปที่ลานจอดรถ ถามคาดคั้นทำไมถึงอยากเป็นนักร้องดังอยากร่ำอยากรวยจนเนื้อเต้นขนาดนั้น
ยอดรักอ้างว่าการเป็นนักร้องแค่เป็นหน้าฉากจะได้ไม่มีใครสงสัยว่าเขาทำงานอยู่หน่วยลับ เหมือนที่ใครๆรู้แค่ว่าเขาเป็นผู้จัดการบริษัทรักษาความปลอดภัยของนาวิน เธอหรี่ตามองนี่เขาพูดจริงใช่ไหม เขาเห็นสายตาระแวงของเธอท้าให้พาไปสาบานที่ไหนก็ได้ เธอยิ่งระแวงหนัก ไหนเขาเคยบอกว่าคนอย่างเขาจะไม่สาบานเพราะการกระทำคนเราศักดิ์สิทธิ์กว่าคำพูดไม่ใช่หรือ เขาเริ่มอึดอัดที่โดนซักทำเป็นหัวเสีย
“โอ๊ย ทำไมอยู่ๆคุณเกิดจะมาจับผิดผมนัก เวรกรรมเมื่อเช้าโดนพ่อคุณสอบสวน พอบ่ายก็มาลูกสาวเขาอีก ก็ได้ชล ถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจผมปฏิเสธเขาไปก็ได้” ยอดรักเห็นชลดาท่าทางลำบากใจก็ดราม่าทันที “โธ่ แทนที่การปลอมตัวไปปฏิบัติหน้าที่ผมจะง่ายขึ้น เสี่ยงน้อยลง แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงคนเราก็ต้องพลาดต้องตายเข้าสักวันอยู่แล้ว” เจอไม้นี้ของเขาเข้าไปชลดาจำต้องยอมตามแม้จะยังระแวงอยู่