ตอนที่ 10
ฉลามเสือเสียงทองเดินไปเปิดประตูห้องเห็นผจญยืนอยู่โดยมีสมุนร่างยักษ์สี่คนยืนระวังด้านหลัง
“สวัสดีครับผู้กองนักรบ เอ๊ะ หรือว่าผมควรจะเรียกคุณว่าคุณยอดรักดีกว่าครับ” ผจญกลัวจะเป็นการกล่าวหาลอยๆจึงเปิดเทปที่อัดเสียงเขาไว้ตอนไปกินข้าวกับชลดา
เป็นเทปเสียงที่บอกชัดเจนว่าเขาคือยอดรักนักร้องเพลงลูกทุ่ง ไม่ใช่ผู้กองนักรบอย่างที่คนอื่นเข้าใจ เขาถึงกับหน้าซีดกลัวความลับเปิดเผย...
ครู่ต่อมา ผจญพายอดรักที่แต่งตัวเรียบร้อยไปที่ห้องวีไอพีของตัวเอง จากนั้นพาเขาไปที่ห้องเล็กซึ่งแยกเป็นสัดส่วน เขายืนนิ่งอยู่หน้าประตูไม่ยอมเข้า สมุนร่างยักษ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังผลักไหล่เขาให้เดินเข้าไป เขาไม่พอใจที่ถูกบังคับซึ่งแตกต่างจากยอดรักคนเก่าที่กลัวการมีเรื่อง หันไปโวยว่าเจ็บ สมุนไม่สนใจผลักยอดรักอีก คราวนี้เขาไม่ได้หันไปโวยแต่หันไปเตะปลายคางมันอย่างจังร่วงคาเท้า
“โว้ย บอกว่าเจ็บ”
สมุนอีกสามคนยังไม่ทันขยับถูกยอดรักอัดลงไปกองสองคน อีกคนที่เหลือชักปืนเก็บเสียงยิงใส่แต่พลาดเป้าไปถูกแจกันแตก ผจญตวาดลั่นว่าอย่ายิง ยอดรักบอกให้ยิงได้เลย หากทุกคนรู้ความจริงว่าเขาคือใคร ถึงตอนนั้นเขาจะอยู่หรือตายก็คงไม่ต่างกัน ผจญยิ้มหยันโกหกมาตั้งนานเพิ่งจะมาอายหรือ
“ผมจะรู้สึกอย่างไรมันไม่สำคัญ แต่ผมไม่อยากทำให้คนอื่นเสียใจ”
“มันช่วยไม่ได้ ก็อยากโง่กันเอง อย่างไอ้พวกหน่วยพิเศษ พวกนั้นต่างหากที่โง่เองนึกว่าคุณคือ
ผู้กองนักรบ จะมาโกรธคุณก็คงไม่ได้”
“แต่มีอยู่คนเดียวที่เขาจะไม่มีวันให้อภัยผมแน่ๆ”
ผจญเดาออกว่าคนคนนั้นคือชลดา ยอดรักพยักหน้ายอมรับ หากเธอรู้ว่าคนที่จะแต่งงานด้วยไม่ใช่นายทหารแต่เป็นแค่นักร้องลูกทุ่งกระจอกๆ
เธอคงรับไม่ได้ ผจญรีบยื่นข้อเสนอ แล้วถ้าตนจะบอกเขาว่าเรื่องทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างที่เขาคิด เขาจะตอบแทนตนอย่างไร ยอดรักตอบโดยไม่ต้องคิด
“เอาไปเลยทุกอย่าง ชีวิตผมก็ให้ได้”
“คุณอยู่ต่อไปน่ะดีแล้วเชื่อผมเถอะ” ผจญหัวเราะชอบใจ
ooooooo
ยอดรักเดินหน้าเครียดออกจากห้องของผจญ โดยมีเจ้าของห้องกับสมุนที่ยิงใส่เขาตามออกมา สมุนไม่เข้าใจเลยว่าเจ้านายจะช่วยมันทำไม
“รู้ไว้ด้วยนะนายยอดรักคนนี้แหละคือมีดคมกริบที่ฉันจะใช้แทงเข้าไปในหัวใจของศัตรูคนเดียวที่เหลืออยู่ของฉัน ไอ้นาวิน...ฉันจะทำลายหน่วยงานนั้นให้สิ้นซากเลย”
ผจญมองตามยอดรักด้วยแววตาเหี้ยม...
ทันทีที่เปิดประตูห้องพักเข้าไป ยอดรักต้องชะงักเมื่อเห็นเวชกับหมึกยืนอยู่ตรงประตูเชื่อมระหว่างห้องเขากับห้องชลดาซึ่งเปิดอ้าไว้ เห็นเธอยืนมองเขาด้วยสีหน้าเป็นห่วง สมุทรก้าวมายืนขวางระหว่างเธอกับเขา
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าหมวด” ยอดรักมองไปที่มือของทั้งสามคนเห็นแตะที่ด้ามปืนซึ่งเหน็บไว้ที่เอว “ผู้หมวด ถ้าจะงอนที่ผมไม่บอกเรื่องจะขอหมอชลแต่งงานก็พอเข้าใจได้ แต่ไม่ต้องถึงกับจับมีดจับปืนมั้ง”
“คุณถูกจับกุมในข้อหาจารชน คุณต้องไปกับเราเดี๋ยวนี้”
“อะไรนะ” ยอดรักตกใจ
“ผู้หมวด ผู้กองนักรบไม่ใช่และไม่มีทางที่จะเป็นจารชน”
ชลดาแก้ต่างให้แฟนจบเดินไปยืนข้างๆเขา สมุทรยืนยันที่ทำไปทั้งหมดเป็นคำสั่งของพ่อเธอ
ชลดาเชื่อว่าท่านต้องเข้าใจผิดอะไรสักอย่างแน่ๆ
“คุณหมอ มีอยู่สองข้อที่ผมอยากจะบอกคุณหมอ ข้อแรกคุณพ่อคุณท่านรักลูกน้องทุกคนเหมือนคนในครอบครัวของท่าน แต่ข้อสอง ข้อนี้สำคัญมากๆ ครูรักคุณหมอมาก คุณหมอคือดวงใจของท่าน ถ้าครูเลือกได้ครูยอมตายดีกว่าจะทำให้คุณหมอเสียใจ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ผมขอรับรองว่าไม่ใช่การเข้าใจผิดแน่นอน”
ชลดาไม่ยอมเชื่อตวาดใส่ว่าไม่จริง ยอดรักสงสารเธอจับใจจะเข้าไปปลอบแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นทั้งสามคนชักปืนขึ้นมาพร้อมใช้กับเขา จังหวะนั้น จ้อที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเปิดห้องเข้ามาเห็นภาพตรงหน้าก็ตกใจ
“เฮ้ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“จ่าจ้อ จ่าไม่เกี่ยว ถอยออกไป” สมุทรสั่งเสียงเข้ม แล้วหยิบกุญแจมือโยนลงบนเตียงหน้ายอดรักซึ่งมองมันอย่างงงๆ “ถ้าคุณคือผู้กองนักรบจริง คุณต้องรู้ขั้นตอนปฏิบัติของการควบคุมตัวของพวกเราจริงไหม”
ยอดรักรับรู้ได้ถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง จ้อทนไม่ไหวเตือนสมุทรว่าตรงหน้าเขาคือผู้กองของพวกเรา ยอดรักคิดหาทางเอาตัวรอด เท้าความถึงเมื่อสองวันก่อนที่ตัวเองช่วยชีวิตทั้งสามคนไว้ หมึกกับเวชออกอาการลังเล สมุทรตวาดเสียงเข้ม
“ทหาร ในเวลาปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ทำเต็มที่อย่าเห็นแก่ความเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง”
เวชกับหมึกได้สติ กลับมามาดเข้มเอาเรื่องเหมือนเดิม ชลดาทนไม่ไหวอีกต่อไปถามจ้อว่าจริงหรือไม่ที่ทหารจะเพิกเฉยหรือละเลยผู้ที่มียศสูงกว่าไม่ได้ จ้อยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง
“เรือเอก แพทย์หญิง ชลดา มลายอริคล้าม ในฐานะแพทย์ผู้ดูแลเรือเอก นักรบ มุ่งโรมรัญ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้ารับการรักษาตัวเมื่อยี่สิบวันที่ผ่านมาขอสั่งให้จ่าใช้อาวุธได้ตามความจำเป็นเพื่อปกป้องผู้ป่วยรายนี้”
“ด้วยความยินดีครับผม” จ้อชักอาวุธประจำกาย ขึ้นมาแล้วก้าวไปยืนข้างชลดากันตัวยอดรักไว้ สมุทรถึงกับใบ้กิน ชลดาขู่ว่าตัวเองยศสูงกว่าเขา ดังนั้นเขาต้องฟังคำสั่งเธอ