ตอนที่ 21
วีหนึ่งคุยกับไวทินอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของร้าน วีหนึ่ง เสนอว่าปิดเทอมแม่ไม่น่าจะเอาเครื่องเขียนมาขายเยอะเพราะเด็กๆปิดเทอม ไม่ได้ใช้เท่าไหร่ น่าจะเอาสมุดมาขายเพราะปิดเทอมเรียนติวข้างนอก ต้องซื้อสมุด เพราะเบื่อสมุดโรงเรียน แล้วปากกาก็น่าจะ เป็นพวกไฮไลต์สีๆมากกว่าลูกลื่นปกติ คิดๆแล้วเสนออีกว่า
“อีกอย่างที่ขายดีคือถุงผ้าค่ะพ่อ เอาไว้ใส่หนังสือเวลาไปติว ที่ขาดไม่ได้ตอนนี้ ต้องมีแก้วน้ำกับหลอดแข็งๆแบบ Reuse หรือขวดน้ำส่วนตัว ลดพลาสติก ลดโลกร้อนค่ะ กำลังอินเลย”
ไวทินฟังแล้วถามว่า วีชอบค้าขายหรือ วีหนึ่งบอกว่าชอบดูการตลาด ชอบศึกษาเทรนด์ คิดว่าคนซื้อชอบอะไร ทำยังไงให้คนมาซื้อของเรา วีว่ามันท้าทาย สนุกดี ไวทินถามว่าวีอยากเรียนพวกคณะเกี่ยวกับการตลาดหรือบริหารธุรกิจไหม วีหนึ่งนิ่งไปอึดใจจึงพูด...“แต่แม่...”
“แม่แล้วแต่วีเลยลูก คนที่เรียนคือวี เลือกคณะที่วีสนใจและอยากเรียนได้เลยลูก แม่ได้หมดถ้าวีสดชื่น”
“ขอบคุณค่ะแม่” วีหนึ่งไหว้ดีใจที่แม่ยอมรับในสิ่งที่ตนอยากทำ
พอดีไททันเข้ามาถามหาของกิน วีหนึ่งแซวน้องว่ามาถึงก็หิวเลย ไม่ช่วยพี่จัดของก่อนหรือ พอไททันเห็นเครื่องเขียนใหม่ๆสีสดใสก็โดนใจคว้าไปบอกว่า “อันนี้ไทขอนะพี่วี”
วีหนึ่งไม่ให้เพราะราคาแพง สองพี่น้องเลยแย่งของกันไปมาทีเล่นทีจริงหัวเราะกันคิกคัก
ไวทิน กิ่งแก้ว และจุลมาสมองขำๆแกมเอ็นดู เป็นความน่ารักอบอุ่นของพี่กับน้องแม้จะคนละแม่แต่ก็เป็นครอบครัวเดียวกัน
ส่วนใบพัดวันนี้เตรียมตัวไปเล่นดนตรีที่โรงพยาบาล กองพลช่วยเช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้า ชมว่าหล่อแล้ว มือเป็นยังไงบ้าง ใบพัดขยับนิ้วบอกว่าหายแล้ว
กองพลบอกว่าก่อนจะไปเรามาทำความเข้าใจกันก่อน แล้วยกตัวอย่างถ้าเจอสาวสวยแล้วเราอยากทำความรู้จัก ต้องเริ่มจากอะไร เพื่อแยกแยะได้ว่าท่าทีกิริยาแบบไหนชอบและไม่ชอบ สบายใจหรือไม่สบายใจ
ซึ่งใบพัดก็แยกแยะได้อย่างถูกต้อง
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น รถคุณแหม่มกับอันยามาจอดที่หน้าบ้าน กองพลถามใบพัดว่าคุณแหม่มกับอันยามารับไปเล่นเปียโนที่โรงพยาบาลจำได้นะ ใบพัดจำได้
“เป็นงานพิเศษ ใบพัดเล่นได้เงิน เก็บไว้นะ แล้วก็เล่นให้เต็มที่เลย ลุงเป็นกำลังใจให้”
“ครับ เล่นเต็มที่ครับ”
ooooooo