ตอนที่ 13
สำลีปรากฏตัวพร้อมเดือนดารา ตรินกับวริศราตะลึงมากเพราะเห็นสำลีเป็นชายคลุมชุดดำเหมือนในฝันเมื่อคืนก่อน แต่เพียงแวบเดียวภาพหลอนนั้นก็หายไป
เดือนดาราในสภาพสาวสวยสองพันปีเชื้อเชิญให้ทุกคนนั่งและเริ่มรับประทานมื้อค่ำ พลันขันแก้วหญิงชาวบ้านแถวนั้นก็วิ่งร้องไห้อุ้มเด็กชายตัวซีดเข้ามา
“ช่วยลูกข้าเจ้าด้วยค่ะคุณหญิง ข้าเจ้านั่งรอมันกลับจากโรงเรียน รอตั้งนานมันไม่มา ออกไปตามหา เจอมันนอนนิ่งอยู่ข้างทาง ทำไม...ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้”
สภาพตัวซีดของเด็กชายตัวน้อยทำให้เดือนดาราหน้าเสีย เบือนหน้าไปทางสำลี
“ลุงสำลีช่วยหน่อยสิ”
“เด็กหมดอายุขัยแล้วขอรับคุณหญิง”
สำลีตอบเสียงเรียบ ขันแก้วร้องไห้ฟูมฟายตรินสงสารมากขอดูอาการของเด็กชาย
“ผมเป็นหมอ...ผมอยากทราบว่าเด็กตายเพราะอะไร”
ขันแก้วกุลีกุจออุ้มลูกชายไปหาตริน หมอหนุ่มตรวจอยู่ครู่ก็ตาโตเมื่อเห็นรอยเล็กๆตรงข้อมือ
“เขาโดนกรีดเอาเลือดออกไปจากข้อมือ!”
ooooooo
บรรยากาศอึมครึมหลังจากนั้น วริศราหรือเก๋เห็นท่าไม่ดีขอให้ขันแก้วนำศพลูกชายไปทำพิธีทางศาสนา โดยมีเอื้องคำช่วยอีกแรง เดือนดาราลอบถอนใจยาวก่อนเปรยต่อหน้าทุกคน
“ฉันเสียใจและช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เด็กนั่น เขาต้องเติบโตมีอนาคตและคือความหวังของแม่เขา”
“มันต้องมีใครมาทำร้ายเด็กกรีดเอาเลือดเขาไป แน่นอนครับ”
ตรินโพล่งเสียงเรียบ วริศราเห็นไม่ต่างจากเขา อยากขอให้แม่บุญธรรมช่วยสืบเรื่องนี้อย่างจริงจังแต่เดือนดาราก็ขอตัวดื้อๆโดยอ้างว่าไม่สบายกะทันหัน
วริศราจะประคองแม่บุญธรรมไปส่งห้อง ตริน สงสัยบางอย่างเดินมาขวาง
“ขออนุญาตให้ผมตรวจอาการคุณหญิงเถอะนะครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ ฉันไม่ชอบรักษากับหมอแผนปัจจุบัน ฉันชอบแผนโบราณ”
“รักษาแบบลุงสำลีหรือครับ”
เดือนดาราไม่ตอบแต่เอ่ยกับทุกคนยิ้มๆ
“ขอตัวนะทุกคน พรุ่งนี้เตรียมตัวไปเที่ยวกันให้สนุกนะคะ”
“ครับ คุณหญิงพักผ่อนให้สบายนะครับ นอนมากๆจะได้สดชื่นครับ จะได้สาวและสวยตลอดไป”
วริศรามองมาด้วยความหมั่นไส้ แต่ไม่ทันพูดอะไรตรินก็โพล่ง
“ผมยังติดใจเรื่องแผลที่ข้อมือเด็กน้อยคำจันไม่หาย ผมอยากพิสูจน์อีกทีว่าเกิดจากอะไร”
“ฉันก็จะไป แต่เราต่างคนต่างไปนะ”
“ในฐานะเจ้าของสถานที่ คุณต้องพาผมไป ไม่อย่างนั้นคุณหญิงท่านจะตำหนิเอานะครับ”
มารตีกับพัชรีพยักพเยิดเห็นด้วย วริศราเลยต้องตอบตกลงพาคณะของตรินไปตรวจสอบเรื่องการตายของลูกชายขันแก้วแบบเสียไม่ได้
ooooooo
การตายของลูกชายขันแก้วรบกวนจิตใจเดือนดารามาก จนต้องเข้าห้องมาสวดภาวนาถึงหลวงปู่มั่น...
“หลวงปู่เจ้าคะ...ท่านล่องลอยไปอยู่ที่ไหน ในวิมานหรือนิพพานไปแล้วเจ้าคะ ดาราคนนี้ไม่เคยลืมคำสั่งสอนแต่ไม่อาจอดกลั้นเมื่อโดนทำร้ายจิตใจโดนแย่งของรัก เพราะทั้งชีวิตไม่เคยมีใครรักจริงสักคนนอกจากแม่ที่ด่วนตายจาก ตอนนี้ชีวิตถลำลึกจมดิ่งลงทุกที ขี่หลังเสือลงไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ ท่านอยู่ที่ไหน...โปรดให้คำแนะนำด้วยเจ้าค่ะ”
เดือนดาราก้มกราบที่พื้น ภาพความทรงจำในอดีตตั้งแต่เด็กจนโตผุดในหัว พลันก็เกิดเสียงฟ้าร้องคำรามจนเดือนดาราอดตกใจไม่ได้
“ฟ้าพิโรธหรือนี่ หรือหลวงปู่จะไม่พอใจแสดงอิทธิฤทธิ์ข่มขู่เรา”
หลวงพี่นะโมหรือหลวงปู่มั่นในอดีตชาติรับรู้คำภาวนาของเดือนดาราด้วยญาณพิเศษ พึมพำตอบ
“สายเกินแก้ สายเกินการณ์แล้วโยม ทำกรรมไว้ทั้งชีวิต ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนลิขิตกรรมได้”
เดือนดาราได้ยินเสียงหลวงปู่แว่วๆก็ตาโต หลวงพี่นะโมหรือหลวงปู่มั่นไม่ยี่หระ เทศนาต่อ
“ยิ่งก่อกรรมถลำลึก บาปยิ่งเพิ่มพูน รอวันเวร กรรมตามทันเถิดโยม ครั้งก่อนผู้มีสุขบนทุกข์ของโยมรับกรรมไปแล้ว แต่บัดนี้โยมก็ยังหาสุขไม่พบ พอเถิด หยุดเถิด”
คำสอนของหลวงปู่ทำให้เดือนดาราได้สติ คิดไถ่โทษเรื่องลูกชายของขันแก้วแต่ก็ช้ากว่าสำลีที่ร่ายมนตร์ดำสะกดจิตขันแก้วกับเอื้องคำให้ช่วยกันฝังร่างเด็กชาย เมื่อคณะตรินกับวริศราไปถึงจึงตรวจสอบศพไม่ได้
คณะตรินกับวริศราแยกย้ายกันหลังจากนั้น วิญญาณพริ้งกับเอิบเห็นสามหนุ่มกลับเรือนพักก็ลุกจากเตียงและทำท่าจะไปหลอกอีก โดยวิญญาณพริ้งจะจัดการคณะตรินเอง
“ฉันจะไปหลอกหลอนพวกคุณเสริมให้หวาดกลัวแล้วรีบไป”
“ดี แบ่งหน้าที่กัน ข้าจะไปจัดการทางด้านคุณพลอย”
“ถามจริง แกไม่อยากให้คุณพลอยกับคุณเสริมสมหวังหรือ ฉันดูออกนะว่าคุณเสริมชอบคุณพลอย”
“อยากสิ เพราะคุณท่านคงไม่มาเกิดแล้ว คุณเสริมก็ดีออกจะตายไป”
“ค่อยๆคิดไปแล้วมาช่วยกันทำให้พวกเธอสมหวัง แกรีบไปยัยแก่แร้งทึ้ง”
“ตกลงนังสาระแน”
ooooooo
การตายของลูกชายขันแก้วทำให้เดือนดาราคิดได้หลายอย่าง ตัดสินใจหยิบโถวิญญาณแสงมาเปิด...
“คุณพี่ขา...น้องขอโทษ”
“พี่ไม่ต้องการพบเจอเธออีก ไม่ต้องปล่อยพี่แต่ขอให้ไอ้สำลีเข่นฆ่าทำลายวิญญาณพี่เสียเถิด ส่วนเธอรอไปเผชิญกรรมในนรกกับมัน เธอกับมันร่วมกันก่อกรรมทำเข็ญสุดประมาณ เธอกับไอ้สำลีไม่ใช่มนุษย์แต่คือปีศาจ”
วิญญาณแสงไม่หายเคืิองอดีตเมียรักง่ายๆ ท่าทางเย็นชาและหมางเมินจนเดือนดาราหัวใจสลาย
“โธ่...คุณพี่ขา คนอื่นหมื่นแสนจะชิงชังรังเกียจเหยียดหยามน้องขนาดไหนน้องไม่หวั่นไหวสะดุ้งสะเทือน แต่คุณพี่ทำเช่นนี้น้องทรมานหัวใจเหลือเกิน มองหน้าน้อง ยิ้มให้น้องสักครั้งก็ยังดี แล้วน้องจะกลับตัวกลับใจ”
“ลมปากเธอมันก็แค่ขยับปลายลิ้นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ความเลวร้ายและบาปกรรมที่เธอกับมันช่วยกันก่อ มันยิ่งใหญ่หนักหนา ไม่มีใครสามารถเอามันออกจากหัวใจและกมลสันดานของเธอได้หรอกเดือนดารา”
“คุณพี่ไม่อภัยให้น้อง”