ตอนที่ 12
สยุมภูโดนเล่นงานจนกระอักเลือด ขณะที่ลุงหรุ่นบาดเจ็บจากอาคมของตะกรุดโทนที่อยู่กับอาจารย์ไพรวัลย์
“พวกแกนี่รนหาที่ตายจริงๆ”
“เอาสิ วันนี้วันพระใหญ่ แกก็รู้ถ้าฆ่าสัตว์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น” ลุงหรุ่นท้าทาย
อาจารย์ไพรวัลย์กับสำอางชะงัก อาจารย์เค้นเสียงด้วยความแค้น “ครั้งนี้พวกแกโชคดี แต่พวกแกจะไม่ได้อยู่ถึงวันพระหน้าแน่” แล้วหนีไปพร้อมสำอาง พวกอุสมานทำท่าจะตามแต่สยุมภูห้ามไว้
ooooooo
เนตรทรายดูแลสยุมภูจนอาการดีขึ้น เมื่อสยุมภูและพวกลุงหรุ่นรู้ว่าเสือสักตายแล้วก็ตกใจ แต่ลุงหรุ่นก็พูดให้เนตรทรายมีความหวังว่า
“ข้าเป็นสัปเหร่อ ตราบใดที่ยังไม่เห็นศพ
ข้าไม่มีวันเชื่อ แต่สิ่งที่ต้องรีบทำก็คือต้องรีบเอาตะกรุดโทนคืนมาจากไอ้อาจารย์ไพรวัลย์ เพราะมันต้องเอาตะกรุดโทนไปใช้ในทางชั่วๆแน่”
“เราจะเอามันคืนได้ยังไง”
“ขอให้เจอมัน ข้ามีวิธี...แต่ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับเอ็งด้วยไอ้หนุ่มว่าเอ็งจะสู้หรือถอย”
“ฉันถอยไม่เป็นอยู่แล้ว” สยุมภูตอบหนักแน่น สายตามุ่งมั่นมาก
ขณะเดียวกันอาจารย์ไพรวัลย์กำลังจะทำสิ่งชั่วร้ายอย่างลุงหรุ่นพูดจริงๆ หลังจากเขาหนีไปได้พร้อมสำอางแล้วจะใช้รถที่ซ่อนไว้เดินทางต่อเพื่อไปหาพรรคพวก แต่สำอางยังสงสัยว่าทำไมอาจารย์ไม่ฆ่าพวกสยุมภูให้รู้แล้วรู้รอดเสียก่อน
“เราจะฆ่ามันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่วันนี้ยกเว้นเพราะฉันกำลังจะเสริมบารมีเพื่อทำงานใหญ่”
“เสริมบารมี งานใหญ่...คืออะไรกันครับอาจารย์”
“ความจริงตะกรุดโทนดอกนี้ไม่ใช่เป็นแค่ตะกรุด แต่ยันต์ที่เขียนไว้ในตะกรุดมันมีอานุภาพและคุณวิเศษมากมายนัก”
“อาจารย์จะใช้ยันต์ทำอะไร”
“สร้างคนเอาไว้ใช้งาน คนที่คงกระพันหนังเหนียว ที่ฉันสามารถบังคับจิตมันได้ทั้งหมด คิดดูสิ ถ้าเรามีคนแบบนี้ จะใช้มันปล้น ฆ่า หรือรับจ้างฆ่า ทำงานเสี่ยงอันตรายอย่างไม่กลัวตาย ซึ่งมันจะเป็นบันไดพาเราขึ้นไปนั่งในระดับประเทศ”
“ผมเข้าใจแล้ว แต่เราจะเอาคนพวกนี้มา
จากไหน”
“พวกส่วยไง คนพวกนี้ฉันเลี้ยงเอาไว้เยอะ และงานแรกที่เราจะใช้พวกมันก็คือไปเอาทอง
พวกนั้นมาให้เรา”
สำอางวาดฝันทันทีว่าเราจะรวยกันแล้ว อาจารย์ไพรวัลย์เสริมว่าไม่ใช่แค่รวยอย่างเดียว แต่เราจะมีอำนาจล้นฟ้าด้วย!
ทางด้านนายตันที่ตามติดอาต้ามาจนทันและคิดจะเอาชีวิตเพราะหมอนี่ชอบตุกติกเจ้าเล่ห์นัก
แต่อาต้าก็พยายามเอาตัวรอดหว่านล้อมว่า “เดี๋ยว! ใจเย็นๆครับคุณตัน ผมมีข้อเสนอ”
“แกก็ดิ้นไปเรื่อย คราวนี้ฉันไม่ฟังแกแล้ว”
“ผมรู้ว่าทองทั้งหมดอยู่กับใคร”
“ฉันไม่สนใจทอง...สนใจแต่จะฆ่าแก”
“แน่ใจหรือว่าคุณไม่อยากได้ทอง อย่าหลอกตัวเองดีกว่ามั้ง ทองมูลค่ามากมายมหาศาลจะทำให้คุณตั้งตัวได้อีกครั้ง”
“ตั้งตัว...ทำไมฉันต้องตั้งตัว”
“อย่าบอกนะว่าคุณยังไม่รู้ว่าตอนนี้ตำรวจกำลังตามยึดทรัพย์และไล่ล่าคุณกับลูกชายอยู่”
นายตันสะอึกอึ้ง อาต้าถามยั่วว่าสนใจแล้วใช่ไหม “สนแล้วไง นึกว่าฉันไม่รู้หรือว่าใครเป็นคนเก็บ
ทองไว้”
“คุณก็รู้ ทองเถื่อนพวกนี้ผมเท่านั้นที่จะมีเครดิตไปขายได้ และก็ได้ราคาดีด้วย”
“นี่เป็นสิ่งเดียวที่นายยังมีประโยชน์กับฉัน”
อาต้ายิ้มพอใจเมื่อเห็นนายตันลดปืนลง
ooooooo
สารวัตรดำเกิงโดนขังบนโรงพักที่ยักยอกของกลาง สิบเวรห่วงใยจึงแวะมาถามไถ่ขณะ
จะออกเวรในคืนนี้ สารวัตรเลยสบโอกาสไหว้วานลูกน้องทำอะไรบางอย่าง
ในเวลาเดียวกันซูเหลียนได้พบผู้การนภดลโดยบังเอิญที่โรงแรมในเมือง ซูเหลียนมาพร้อมฝนทิพย์ ทักทายผู้การนภดลอย่างคนรู้จัก
“ผมแปลกใจที่เจอผู้กำกับที่นี่ เอ๊ะ แต่ตอนนี้ต้องเรียกผู้การแล้วใช่ไหม”
“แต่ผมไม่แปลกใจเลยที่เจอคุณที่นี่”
“ทำไม”
“เพราะคุณมาตามกลิ่นทองคำเถื่อนไง”
ซูเหลียนกับฝนทิพย์ชักสีหน้าไม่พอใจที่
นภดลดูถูกซึ่งหน้า แต่ข่มใจไว้เพื่องานสำคัญ
“ไหนๆก็เจอกันแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนนี้คุณก็เป็นผู้การแล้ว ตันก็หล่นจากหลังเสือเรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณกับผมร่วมมือกัน เราก็จะเป็นเสือติดปีก”
“ผมคงร่วมทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ไม่ได้หรอก ผมเป็นตำรวจ เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กินเงินภาษีประชาชน ไม่ใช่กินเงินจากพวกยุให้ผมคอร์รัปชัน”
คราวนี้ซูเหลียนเหมือนถูกตบหน้า ฝนทิพย์ชักปืนออกมาพร้อมกับลูกน้องอีกสามที่ยืนดูเชิงอยู่ก็ขยับเข้ามา
“ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องคุย” สิ้นเสียงซูเหลียน คนของเขาตั้งท่ายิง แต่ทันใดมีชายใส่หมวกปีกกว้างโผล่มาเปิดฉากยิงใส่กลุ่มซูเหลียนก่อนและพยายามพาผู้การนภดลฝ่าวงล้อมจนหนีรอดไปได้
ที่แท้ชายคนนั้นคือเสือสักนั่นเอง เขาถอดหมวกออกหลังจากพาผู้การนภดลหนีเข้าไปยัง
มุมสงบ ทันทีที่เห็นหน้าผู้ช่วยเหลือ ผู้การอุทานว่า “นายสัก”
“มีคนไม่กี่คนที่เรียกผมแบบนี้”
“ก็ฉันรู้จักนายก่อนที่นายจะเป็นเสือนี่นา”
“แล้วผู้กำกับไม่รู้หรือว่าทำไมผมถึงเป็นเสือ”
Powered by Froala Editor