ตอนที่ 12
ลุงหรุ่นถอยมานั่งกลางแจ้งไม่ห่างจากบ้านนักแล้วท่องบทสวดอิติปิโสฯ เสียงสวดนั้นก้องกังวานทำให้พิธีของอาจารย์ไพรวัลย์หยุดชะงัก อาจารย์ลืมตาพูดโพล่งว่า “ใครมาลองดี”
หลังจากนั้นสองฝ่ายก็ปะทะกันดุเดือด แต่นายตันกับอาจารย์ไพรวัลย์ยังอยู่ในบ้าน นายตันเร่งอาจารย์ให้ทำพิธีต่อ ปล่อยให้ลูกน้องของตนจัดการพวกนั้นไป แต่พิธีก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดีเพราะเนตรทรายมีรอบเดือน
อาจารย์ไพรวัลย์กับนายตันหัวเสียมาก ลากเนตรทรายออกมาต่อรองกับพวกอุสมาน
“พอได้แล้ว ถ้าไม่อยากให้นังนี่ตาย”
“แน่ใจหรือว่าแกจะฆ่าเธอ ถ้าเธอตาย เหล็กไหลก็จะละลายหายไปกับวิญญาณเธอ แกก็รู้ อย่ามาขู่กันดีกว่า” ลุงหรุ่นตอบโต้อย่างรู้จริง
“แล้วถ้าฉันสังหารเจ้าตำรวจนั่นด้วยล่ะ” อาจารย์ไพรวัลย์มองไปที่สยุมภูที่นั่งนิ่งตาแข็ง “ถ้าฉันดับจิตมัน ลมหายใจมันก็จะหายไปทันที”
ลุงหรุ่นสะดุดกึก ไข่นุ้ยกระซิบถามว่าจริงหรือ ลุงหรุ่นส่งสายตาว่าจริง ทันใดนั้นเสียงไซเรนรถตำรวจดังแว่วมา นายตันร้อนรนทันที อาจารย์ไพรวัลย์รีบสั่งสำอางเอารถออก โดยเอาสยุมภูกับเนตรทรายไปด้วย ส่วนพวกอุสมานก็ต้องเผ่นเหมือนกันเพราะไม่อยากโดนตำรวจรวบตัว...
ในป่า แทนกับกรยังอกสั่นขวัญผวาที่เบญจรงค์กลายร่างเป็นสัตว์ดุร้าย
“มันเป็นไปได้ยังไง อยู่ดีๆลูกนายตันก็กลายเป็นสัตว์ร้ายอย่างกับมนุษย์หมาป่าซะงั้น”
“มันอาจจะเป็นเพราะเดียรัจฉานวิชาที่มันสะสมไว้ในตัวก็ได้ ฉันเคยได้ยินมาบ้างนะว่าคนพวกนี้มันต้องปล่อยของออกจากตัวบ้าง ไม่อย่างนั้นต้องมีอันเป็นไปบางอย่างแล้วแต่กรรมเวร”
“แกรู้ดีจัง แล้วจะเอายังไงวะเนี่ย” แทนถาม
“ไอ้เบญจรงค์มันคงเตลิดไปแล้วล่ะ พักที่นี่ก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
ขณะที่สองหนุ่มเตรียมหาที่นอน แต่อีกในป่าอีกมุมใกล้ลำธาร ชัยกำลังบริกรรมคาถาตามตำราอาบน้ำว่านแล้วเดินลงน้ำจนมิดศีรษะ พลันบังเกิดความอัศจรรย์วูบวาบไปทั่วท้องน้ำ เชวงยืนมองตื่นตาตื่นใจ พอชัยก้าวขึ้นจากน้ำก็บอกว่าของมันต้องลอง สั่งเชวงฟันตนเลย
“แน่ใจหรือพี่”
“ไม่ต้องถาม...ฟัน!”
เชวงฟันฉับไปที่กลางหลัง ดาบหักกระเด็นเป็นสองท่อน ชัยมีอานุภาพเพิ่มขึ้นมาก เจ้าตัวทึ่งจัดถึงกับหัวเราะร่าบอกว่า “ช่างศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”
ooooooo
กลุ่มของพวกเสือฝ้ายโดนเบญจรงค์ในร่างสัตว์ร้ายเล่นงานเข้าจนได้ ทุกคนต่อสู้และบาดเจ็บคนละเล็กละน้อยก่อนที่เบญจรงค์จะอุ้มนวลพรรณที่กลัวจนหมดสติหนีไป
อาจารย์ไพรวัลย์กับพวกนายตันหนีตำรวจเข้าป่าและตั้งแคมป์ค้างคืน ทุกคนนั่งล้อมวงรอบกองไฟ โดยที่เนตรทรายถูกล่ามไว้ ส่วนสยุมภูนั่งนิ่งราวกับทาสอาจารย์ไพรวัลย์
นายตันท่าทางร้อนรน ถามอาจารย์ไพรวัลย์ว่าไม่มีทางอื่นที่จะเอาเหล็กไหลออกจากตัวนังนี่เลยหรือ
“ดูนายห้างร้อนรนจัง”
“ใครจะไปนิ่งอยู่ไหวล่ะ ตอนนี้ตำรวจตามล่าผมทั้งเมือง ลูกชายก็ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง” นายตันโวยวายแทบคุมสติไม่อยู่
“ยังมีอีกวิธี คือให้ผู้ครอบครองยอมเอาเหล็กไหลออกมาเอง ซึ่งผมว่าเธอคงไม่ยอม”
นายตันแววตากร้าวมองไปที่เนตรทรายกับสยุมภูแล้วคิดอะไรออก ลุกขึ้นชักปืนเดินไปหาเนตรทราย
“ฉันมีทางเลือกให้เธอสองทาง จะยอมเอาเหล็กไหลมาให้ฉันหรือจะให้ฉันยิงกบาลหมวดสยุมภู เลือกเอา”
“อย่านะ” เนตรทรายร้องเสียงหลง
“นายห้างครับ เราต้องใช้สยุมภูนะครับ” สำอางท้วง
“ฉันไม่สน ฉันต้องการเหล็กไหล” นายตันไม่ยอม อาจารย์ไพรวัลย์เลยพยักหน้า บอกว่าจะเอาอย่างนี้ก็ได้ แล้วโยนให้เนตรทรายตัดสินใจ
“อย่าทำเขานะ”
“ยังไงเธอก็ต้องให้ฉันอยู่ดี...เร็ว!” นายตันบังคับพร้อมทำท่าจะลั่นกระสุนใส่สยุมภู ในที่สุดเนตรทรายก็ต้องยอม ถามว่าจะให้ตนทำยังไง
“พนมมือแล้วตั้งจิตอธิษฐาน ทำจิตเป็นกุศลและยินดีปล่อยเหล็กไหลออกจากร่าง”
เนตรทรายทำตามที่อาจารย์ไพรวัลย์บอก เธอหลับตาพนมมือแล้วว่าคาถาตาม...พลันร่างเธอกลายเป็นสีแดงราวกับไฟ แต่คราวนี้เธอไม่รู้สึกเจ็บปวด เหล็กไหลวิ่งทั่วกายและกำลังจะไหลออกไปเข้าร่างอาจารย์ไพรวัลย์ นายตันตกใจถามลั่น
“ทำไมไม่เอาเข้าร่างฉัน”
“ผมว่านายห้างอยู่เฉยๆดีกว่า” สำอางตวาด
“นี่พวกแกหักหลังฉัน”
“ผมไม่ได้หักหลัง แต่มันเป็นของที่พวกเราสมควรได้”
นายตันแค้นแต่ทำอะไรไม่ถูก...เหล็กไหลไหลออกจากร่างเนตรทรายกำลังจะเข้าไปหาอาจารย์ไพรวัลย์ ทันใดสยุมภูลืมตาโพลงมองเนตรทราย นึกถึงสิ่งที่ลุงหรุ่นบอกให้ทำศีลสมาธิ สติของเขากลับคืนมาทันที
สยุมภูขัดขวางอาจารย์ไพรวัลย์จนเหล็กไหลจากเนตรทรายพุ่งเข้าร่างเขา คนอื่นๆไม่รู้พากันสงสัยว่าเหล็กไหลหายไปไหน แต่พอเห็นท่าทางองอาจของสยุมภูและลูกปืนยิงไม่ระคายผิวเขา อาจารย์ไพรวัลย์ก็เข้าใจทันที
“แกแน่มาก แต่ก็แน่ได้แค่นี้แหละ” อาจารย์ไพรวัลย์ท่องคาถา แล้วพุ่งเข้าต่อสู้กับสยุมภู
จังหวะหนึ่งสยุมภูพลาดท่า แต่ลุงหรุ่นโผล่มาช่วยทันเวลา รวมทั้งอุสมานและไข่นุ้ยเข้าโรมรันกับพวกสำอาง อาต้าฉวยโอกาสนี้ลอบหนีไป นายตันเห็นดังนั้นรีบตามไปด้วย
Powered by Froala Editor