ตอนที่ 6

ระหว่างที่แนนนี่ขึ้นไปตามปัทมนลงมาพบมาลีที่ให้นั่งรอในห้องรับแขก ปัทมนแปลกใจว่าแนนนี่มีแม่ได้อย่างไร ในเมื่อตลอดเวลามีแต่ยายทาฮิร่า นั่นแหละที่แนนนี่อยากรู้ ปัทมนตําหนิที่พาคนแปลกหน้ามาบ้าน แนนนี่บอกว่าภวัตกับบุษบาอยู่ด้วย ปัทมนขอ เวลาแต่งตัวก่อน

ดารกาเข้ามาต่อว่ามาลีมาทําไม มาลีบอกว่ามากับแนนนี่ ดารกาเจ็บใจคิดว่าแนนนี่แกล้งจึงถอดสร้อยให้มาลีกลับบ้านไปก่อน อ้างไม่อยากให้ปัทมนตกใจ ป้าผาดยืนมองงงๆ ดารกาสั่งป้าผาดพามาลีออกไปโดยเร็ว มาลีออกมาจากบ้านด้วยความแปลกใจ มองสร้อยในมืออย่างพอใจ

“นังคุณหนูนั่นมันใจดีจังแฮะ...เออ หรือว่ามันสติไม่ดีกันแน่วะ กะอีแค่จะให้เรากลับออกมาก่อน ถึงกับต้อง ให้ของฝากของขวัญกันด้วย...”

แนนนี่เห็นมาลีหายไปก็แปลกใจ ดารกาเดินเข้ามาถามมองหาใคร ปัทมนถามเห็นแขกของน้องบ้างไหม

“อ๋อ คุณแม่ของแนนนี่” ดารกาพยักหน้า แนนนี่รีบถามว่ารู้ด้วยหรือ “รู้สิ ทําไมจะไม่รู้ ก็คุณน้าคนนั้นคุยกับพี่ก่อนที่จะรีบออกไป บอกว่ามีธุระด่วน”

“ตายจริง แม่ขอโทษนะจ๊ะแนนนี่ ที่แม่คิดว่าหนูกุเรื่องมาหลอกแม่เล่น”

“ไม่จริง แนนนี่ไม่เชื่อว่าคุณน้าจะมีธุระด่วน คุณน้าอยากจะพบคุณแม่จะตาย”

ปัทมนถามว่าขอเบอร์โทร.ไว้หรือเปล่า แนนนี่ ส่ายหน้า ดารกาแอบถอนใจ...

“แนนนี่มานอนครุ่นคิดอยู่ในตะเกียงแก้ว อยากรู้ ว่าตนมีแม่จริงๆหรือ ตะเกียงถามว่า ถ้าจริงทำไมทาฮิร่าไม่เคยพูดถึง แนนนี่อยากถามแม่ว่าตนเป็นแม่มดหรืออสูรกันแน่ ตะเกียงสงสัยว่าทําไมแม่เพิ่งมาปรากฏตัว แนนนี่คิดว่าแม่อาจเป็นแม่มดตกสวรรค์ ตะเกียงงงไม่เคยได้ยิน

ผิดกับดารกาที่แค้นใจแววตาแดงกํ่า “ไม่ ฉันจะให้ใครรู้ไม่ได้...ฉันไม่มีแม่ ไม่อยากมี...”

ดารกาหายใจแรง แก้วนํ้าที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นกระ– เพื่อม จนระเบิดแตกเป็นเสี่ยง เธอตกใจว่าแตกได้อย่างไร พลันมีเสียงดังมา “ลูกพ่อ...ดารกาลูกพ่อ...ลูกรัก พ่ออยู่ใกล้ๆเจ้าแล้ว...”

“ไม่...หยุดนะ ใคร ฉันบอกให้หยุด” ดารกาเอามือปิดหูไม่อยากได้ยิน แต่เสียงยังก้องในหู “ไม่...ฉันไม่อยากมีพ่อ ฉันไม่อยากมีแม่ ฉันเป็นลูกแม่ปัทมนคนเดียวเท่านั้น”

ดารการ้องไห้ครํ่าครวญ แต่เสียงนั้นกลับหัวเราะกังวาน ดารกาถึงกับผวา กรีดร้องลั่น...ขณะเดียวกัน สดับ นั่งอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชาที่มีแต่เครื่องรางของขลัง ที่เป็นอวิชาทั้งสิ้น สีหน้าสดับดูเหี้ยมแววตาแข็งกร้าวคําราม “ดารกาลูกพ่อ วันที่เรารอคอยกําลังจะมาถึง ฮ่าๆๆๆ”

เสียงหัวเราะน่ากลัว เปลี่ยนกลายเป็นเสียงสดับ

ที่กรอกตาไปมารอบห้องขนลุกซู่ถามว่า

“เจ้าพ่อ เจ้าพ่อใช่มั้ยครับ ลูกอยากมีเงิน ช่วยลูกด้วยเถอะ อยากให้ลูกทำอะไรลูกจะทำให้เจ้าพ่อทุกอย่าง”

“บังอาจบนบานข้าเรอะ” เสียงสดับกร้าวขึ้นและตบหน้าตัวเองไปมา “บอกกี่ครั้งแล้วว่าข้าไม่ใช่เจ้าพ่อบ้าบออะไรของเอ็ง ข้าคือนาย นายของโลกนี้ ข้าให้เจ้าได้ทุกอย่างฮ่ะๆๆ คนอย่างเอ็งอยู่ด้วยความมัวเมา ลุ่มหลง แบบนี้แหละที่จะเป็นเชื้อเพลิงที่เติมเต็มให้กับชีวิตนิรันดร์ของข้า”
สดับแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว..
.
ooooooo

บุษบาหงุดหงิดที่มานั่งแกร่วอยู่บ้านภวัต โดยที่ทุกคนสนใจแต่เรื่องแม่ของแนนนี่ จักรวาลตามไปที่บ้านปัทมน ภวัตก็ใจจดจ่ออยู่แต่เรื่องนี้ ไม่สนใจฟังเธอบ่นว่าหิวอยากออกไปหาอะไรทานนอกบ้าน จนรัดเกล้ามา บุษบาดีใจจะได้มีเพื่อน แต่รัดเกล้ากลับถามภวัตเรื่องแม่ของแนนนี่ เพราะได้ยินโป่งคุยโขมงอยู่ริมรั้ว ถามลักษณะเป็นอย่างไร

“ก็โทรมๆสกปรกๆ ดูจ๊นจนเหมือนมาจากสลัมไม่มีผิด...เอ้อ...น่าสงสารเชียวค่ะ” บุษบาโพล่งออกมา

แล้วนึกได้ว่าเม้าท์มากไป

รัดเกล้าพึมพำทำไมเหมือนแม่ของดารกา ภวัตได้ยินถนัดถาม “สงสัยอะไรยัยเกล้า”

รัดเกล้าปฏิเสธพัลวัน บุษบาให้เลิกคุยเรื่องนี้แล้วออกไปหาอะไรอร่อยๆทานกัน ภวัตเออออแต่ขอคุยกับรัดเกล้าก่อน รัดเกล้ารีบตัดบทให้ภวัตออกไปกับบุษบา ตนขอตัวชิ่งหนีไป...รัดเกล้าเห็นธานีเดินวนเวียนคุย

มือถือกับประกันภัยเรื่องอุบัติเหตุอย่างเคร่งครัด จึงแกล้งเข้ามาใกล้ๆ แล้วร้องว่า งูๆ ธานีตกใจโดดขึ้นเก้าอี้ รัดเกล้าหัวเราะก๊าก พอธานีรู้ว่าถูกแกล้งจึงโดดมากอดรัดเกล้าทำทีว่ากลัว รัดเกล้าหน้าเหวอ ผลักไสเขาออก

“ไงล่ะ อยากแกล้งเขานัก ฮ่ะๆๆ แพ้นี่”

“หนอย ใครบอกเกล้าแพ้ พี่ธานีนั่นล่ะที่...ฮึ่ย...ไปดีกว่า มีเรื่องเด็ดจะเล่าให้ฟังแท้ๆ ไม่ต้องรู้เลย สมน้ำหน้า” รัดเกล้าจะเดินไป

ธานีคว้ามือเธอไว้ รัดเกล้าตีเพี๊ยะหาว่าฉวยโอกาส ธานีบ่นอุบว่ามือหนัก รัดเกล้าเล่าเรื่องแม่ของแนนนี่มาบ้าน ธานีเหวอไม่รู้เรื่องแต่วางฟอร์มว่าไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น

“คนอื่นที่ไหน ยัยแนนนี่ก็เหมือนน้องของเกล้าเหมือนกัน ถึงแม้จะดื้อซนก็เหอะ อีกอย่างพี่ธานีไม่สงสัยเหรอคะว่า แม่แนนนี่กับแม่น้องดาโผล่มาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันแปลกๆมั้ย”

ธานีครุ่นคิดตาม ยิ่งฟังลักษณะท่าทางเหมือนแม่ของดารกาแล้วจึงย้อนถาม

“นี่เกล้าเริ่มจะเชื่อพี่แล้วสิว่า น้องดามีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่หายไป”

รัดเกล้ายังไม่ปักใจ เพราะเชื่อว่าดารกาทำไปด้วยความจำเป็น ธานีเสียดายที่ตนไม่เห็นหน้าแม่ของแนนนี่ แต่เขาแอบถ่ายรูปแม่ของดารกาไว้ จึงคิดจะเอาไปถามป้าผาด...

ป้าผาดกับพรกำลังถกกันเรื่องนี้อยู่ ป้าผาดแปลกใจไม่เคยเห็นดารกาดุดันขนาดนี้ พรก็สงสัยทำไมต้องไล่มาลีกลับไป ดารกาเดินเข้ามายกมือไหว้ป้าผาดขอโทษและอ้างว่าไม่อยากให้ปัทมนกระทบกระเทือนใจเรื่องแนนนี่อีกเท่านั้น

“น้องดาคงต้องขอร้องป้าผาดกับพร อย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เพราะถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคุณแม่ต้องมีเรื่องวุ่นวายตามมาอีก มีเรื่องกันคราวที่แล้วก็เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่า คุณแม่ทุกข์ใจแค่ไหน”

ป้าผาดรับปากทันทีเพราะรักดารกามาก แต่พรสงสัยถ้ามาลีกลับมาอีกจะทำอย่างไร ดารกาให้ไล่ออกไปทันที พรยังสงสัยไม่เข้าใจอยู่ดี...ดารกายิ้มอย่างพอใจ หันกลับมาต้องหุบยิ้มเมื่อเจอรัดเกล้ากับธานี ในมือรัดเกล้ามีโทรศัพท์มือถือของธานีอยู่...

บุษบายังคงเซ้าซี้เรื่องให้ภวัตพาออกไปทานข้าว อ้างว่าเขารับปากแล้ว ภวัตทำหน้างงว่าเมื่อไหร่ บุษบาโวยวายที่หาว่าตนคิดไปเอง แนนนี่แอบมองอยู่มุมหนึ่ง พอเห็นบุษบาเดินไปนั่งที่รถ ภวัตเดินตามไป บุษบานั่งลงแล้วต้องตกใจเพราะนั่งตักแนนนี่ จึงโดดโหยงออกมา แล้วต้องตะลึง เมื่อเห็นแนนนี่ยืนอยู่ข้างภวัต แนนนี่แกล้งถามว่าเห็นผีหรือ

“ยิ่งกว่าเจอผีอีกย่ะ เธอเล่นอะไรของเธอ เมื่อกี้ฉันยังเห็นเธออยู่ในรถอยู่เลย แล้วทำไม...”

“ช่างเถอะครับบุษ แนนนี่ก็ยืนอยู่ตรงนี้ มันจะ เป็นไปได้ยังไง”

“นั่นสิคะ แนนนี่ว่าคุณบุษคงจะเหนื่อยๆ จะไปไหนก็ไปเถอะค่ะ รกลูกตาเอ๊ยไม่ใช่ กลับบ้านพักผ่อนดีกว่านะคะ แนนนี่เป็นห๊วงเป็นห่วงค่ะ” แนนนี่ยิ้มอย่างไม่จริงใจ...

บุษบากลับไป แนนนี่เดินหัวเราะสะใจที่ได้แกล้ง ภวัตตามมาถามว่าทำอะไรบุษบา แนนนี่ปฏิเสธ แล้วหันมาปรึกษาอย่างจริงจังว่า ดารกามีสิทธิ์อะไรมาให้มาลีกลับไปทั้งที่ยังไม่ได้เจอกับปัทมน ภวัตแก้ตัวแทนว่า ดารกาพยายามยื้อไว้ต่างหากแต่มาลีจะกลับท่าเดียว

“งั้นเหรอคะ...พี่ดานี่เป็นคนดีจริงๆ ดีซะจนโกหกไม่เนียน”

“แนนนี่ ทำไมไปว่าน้องดาอย่างนั้นล่ะ”

“พี่ภวัตไม่เกี่ยวก็เฉยๆไปเหอะค่ะ ไม่ต้องออกตัวแทนกันเลย”

“นี่แนนนี่ว่าพี่นะ พูดจาไม่น่ารักเลย” ภวัตหน้าชา

ดารกาเดินเข้ามาเกาะแขนภวัตและบอกอย่าไปถือสาแนนนี่

“น่าเกลียดจัง ทําไมต้องถึงเนื้อถึงตัวกันด้วย” แนนนี่ปัดมือดารกาออกจากภวัต

“แนนนี่เองก็กระโดดกอดพี่ภวัตออกบ่อยไป อีกอย่างพี่ภวัตกับพี่ดาก็ไม่ใช่คนอื่นเลยนะ”

“พี่ดาพูดอย่างนี้หมายความว่าไง” แนนนี่สะดุดหู

ดารกาทิ้งท้ายให้ทําความเข้าใจกันเอง แนนนี่คว้าแขนดารกาให้พูดมาให้จบ ดารกาแกล้งร้องว่าเจ็บ ภวัตเอ็ดแนนนี่ว่าดารกาเพิ่งบาดเจ็บมาจากอุบัติเหตุ

แนนนี่น้อยใจเถียงว่าไม่แปะป้ายไว้ ตนจะรู้ได้อย่างไร ภวัตให้ขอโทษดารกา แนนนี่นิ่งเฉย ดารกาทําทีเป็นกุมมือแนนนี่ปลอบว่าไม่เป็นไร ขอให้พาตนเข้าบ้านก็พอ แนนนี่สะบัดออกและว่า ตนเสแสร้งไม่เป็น แนนนี่วิ่งหนีไป ดารกาแอบยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็นทําหน้าน้อยใจต่อหน้าภวัต

ภวัตใส่ยา นวดที่แขนดารกาและติงว่าอย่าตามใจแนนนี่มาก ดารกาตีหน้าเศร้าว่าตนมีน้องสาวคนเดียว ภวัตถอนใจแล้วหันมาพูดเรื่องของเรา ดารการ้อนใจเกรงภวัตบ่ายเบี่ยงจึงแกล้งร้องว่ายามันทําให้ร้อน ภวัตตกใจรีบดูแลอย่างห่วงใย

ooooooo

น้อยใจจนต้องมาขี่ไม้กวาดระบายอารมณ์อย่างฉวัดเฉวียน ทําเอาชิกเก้นหล่นลงมาใส่หลังคาบ้านอิงอร เธอวิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ เห็นแนนนี่ ขี่ไม้กวาดอยู่บนอากาศ อิงอรรีบวิ่งมาเรียกจักรวาลให้มาดู...ดารกาเดินมาส่งภวัตที่ข้างรั้ว เธอสวมกอดภวัตขอบคุณที่ดูแล ภวัตยืนนิ่งทําอะไรไม่ถูก แนนนี่มองมาเห็นยิ่งเจ็บใจจะลงไปจัดการ เผอิญจักรวาลกับอิงอรเดินมาเจอ ดารกาตกใจรีบขอตัวเข้าบ้าน จักรวาลให้ภวัตตามไปคุยกันในบ้าน

“คุณจักรคะ แล้วเรื่อง...คุณจักร นั่นไงคะ”อิงอรร้องเรียกเมื่อแนนนี่โฉบลงมาเฉี่ยวหัว...

จักรวาลต่อว่าภวัตเป็นการใหญ่ ที่ทําอะไรไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง ตนไม่อยากผิดใจกับปัทมน ฉะนั้นจะเลื่อนงานหมั้นมาเร็วขึ้น ภวัตจะแย้งแต่จักรวาลไม่ยอมฟัง...แนนนี่กลับห้องอย่างหงุดหงิด ตำราเวทมนตร์ บินเข้ามาหาจึงไล่ให้ไปก่อนยังไม่มีอารมณ์ ตําราเปิดหน้าบทเรียน แนนนี่ร้องลั่นให้ชิกเก้นช่วย แล้วนึกได้ หนีลงไปในตะเกียงแก้ว ตะเกียงพูดตอกยํ้าเรื่องภวัตกับดารกา ทําให้แนนนี่ยิ่งหงุดหงิด ตะเกียงบอกว่าวิธีหนึ่งที่จะช่วยได้ แนนนี่ถามว่าอะไร


ทันใด ตําราเวทมนตร์ลอยปรู๊ดมาแปะหน้า แนนนี่ ดึงเท่าไหร่ก็ไม่ออก ตะเกียงบอกว่า

“ฝึกเวทมนตร์ให้จบๆ เธอจะได้ใช้ประโยชน์ไง โดยเฉพาะ...มนตร์อ่านใจ”

แนนนี่อึ้งพูดอู้อี้เพราะตํารายังแปะอยู่บนหน้า...

วันรุ่งขึ้น แนนนี่จะต้องขึ้นซ้อมมายากลบนเวทีกับปีเตอร์ รุ่นพี่พาดารกาเข้ามาและบอกว่าขอให้ดารกาซ้อมก่อนเพราะเธอต้องกลับไปเรียนต่อ แนนนี่ไม่พอใจรู้ว่าดารกาตั้งใจแย่งซีน ดารกาจับแขนแนนนี่อย่างอ่อนโยนและว่า “แนนนี่ไปซ้อมก่อนเถอะ พี่รอได้”

แนนนี่สะบัดแขนออก ดารกาแกล้งล้ม รุ่นพี่เข้าประคองดารกา ทุกคนรุมว่าแนนนี่ใจร้ายเอาแต่ใจ แนนนี่เดินบ่นออกมาจากหอประชุม ได้ยินเสียงดารการ้องโอเปร่าดังมา ทนไม่ไหวจึงร่ายมนตร์ให้เธอเสียงหาย ปีเตอร์ตามมาปลอบใจ พลันแนนนี่เห็นภวัตเดินมาก็ดีใจคิดว่ามาง้อจึงแกล้งควงปีเตอร์เดินผ่าน ภวัตหมั่นไส้แกล้งถามอย่างห่างเหิน

“ขอโทษนะครับน้องทั้งสอง ไม่ทราบว่าเห็นน้องดารกาอยู่แถวนี้บ้างมั้ยครับ พอดีผมจะมารับคุณดารกากลับบ้านน่ะครับ”

“ไม่เห็น...อยากเจอก็เดินหาเอาเอง” แนนนี่ตวัดเสียงใส่แล้วทำอี๋อ๋อกับปีเตอร์

ภวัตมองอย่างไม่พอใจ เดินมาดักหน้าแนนนี่และหาว่าท่าทีมีพิรุธไปทำเรื่องไม่ดีอะไรมา

“เก่งนี่คะ เวลาแนนนี่ทำเรื่องแย่ๆ พี่ภวัตมักรู้ทันตลอดเลย แต่เวลาแนนนี่ทำเรื่องดีๆ ไม่เห็นมีใครรับทราบ”

“เลิกประชดประชันซะทีได้มั้ยแนนนี่ เราน่ะหมดความน่ารักเพราะไอ้นิสัยแบบนี้นั่นล่ะรู้ตัวบ้างมั้ย”

“ไม่รู้ตัวค่ะ แล้วก็ไม่สนซะด้วยสิ”

ดารกาวิ่งร้องไห้ออกมา ภวัตตกใจ แนนนี่เจื่อนลงที่เห็นดารกาเป็นเอามาก ดารกาฟูมฟายว่าทำให้ทุกคนต้องมาเสียเวลากับตน ภวัตโอบดารกาแบ่งรับแบ่งสู้ จู่ๆ

ดารกาก็พูดไม่ออกอีก อ้าปากค้าง แนนนี่กลั้นยิ้มและพูดแขวะก่อนจะเดินไป

“เหมือนในนิทานที่แนนนี่เคยอ่านเลย คนที่เสแสร้งมากๆ เข้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะลงโทษแบบนี้แหละ” แนนนี่เดินไปดีดนิ้วเปาะ

ดารกาโพล่งเสียงออกมา ปีเตอร์กับภวัตตกใจ ภวัตมองตามแนนนี่อย่างสงสัย...เดินมาที่รถ ดารกาถามภวัตมารับตนเพราะเรื่องเมื่อคืนใช่ไหม ภวัตไม่อยากบอกว่าโดนพ่อบังคับมา ดารการีบเอาใจว่าถึงบ้านจะทำอาหารให้ทาน พลันมือถือดารกาดังขึ้น เธอหยิบมาดูเห็นชื่อมาลีก็ตัดสายทิ้ง มือถือดังขึ้นอีก ภวัตมองอย่างแปลกใจ ดารกาจึงขอตัวไปรับสาย แล้วกลับมาบอกภวัตว่า

“เอ่อ พี่ภวัตคะ น้องดาอยากรบกวนพี่ภวัตช่วยอยู่รับแนนนี่ได้มั้ยคะ”

ภวัตเข้าใจไปว่าแนนนี่โทร.มา ดารกาทำเป็นพูดว่าแนนนี่น้อยใจที่ไม่มีใครสนใจ ภวัตบอกว่าดูแนนนี่ไม่เห็นสนใจใครเลย ดารกาขอตัวกลับเอง ภวัตให้นั่งรถไปด้วยกัน

“น้องดานั่งไปด้วย แนนนี่คงไม่พอใจอีก น้องดากลับเองดีกว่าค่ะ” ดารกาปลีกตัวไป

ภวัตมองตามงงๆ

ooooooo

การประชุมในสภาแม่มด บอกให้รู้ว่าได้จับสัญญาณตำราเวทมนตร์ชัดขึ้น หมายความว่า มีการฝึกเวทมากขึ้น แต่เมื่อคืนสัญญาณได้ขาดหายไป

ฝ่ายเทคนิคเช็กแล้วแจ้งว่ามีบางอย่างกำบังอยู่ บาบาร่าตกใจที่อสูรน้อยนั่นมีพลังมากถึงขนาดบังสัญญาณจากพลังแห่งเมืองเวทมนตร์ได้

ทาฮิร่าร้อนใจ เกิดอะไรขึ้นกับแนนนี่ บาบาร่าตามทาฮิร่ามาบ้าน เพื่อปรึกษาเรื่องการตามหาอสูร ทาฮิร่าไม่มีกะใจจะฟัง ไทเกอร์ตามดมหาพิรุธ ทาฮิร่ารำคาญ ขู่จะสาปให้เป็นแมลงสาบถ้าไม่เลิกดม ทาฮิร่าให้นั่งเล่นกันไปก่อน ตนจะไปคิดค้นปรุงยาตัวใหม่ ไทเกอร์บอกบาบาร่าว่า ทาฮิร่าเหมือนมีลับลมคมใน บาบาร่าคิดไปว่า ทาฮิร่าอยากจะสร้างผลงานคนเดียวต้องจับตาดู...

ดารกามองขันน้ำที่มาลีเอามาต้อนรับอย่างรังเกียจ ถามว่ามีอะไรให้รีบบอกมา มาลีไม่รอช้าฝากไปขอเงินลูกสาวให้ที ดารกาถามว่าสร้อยที่ให้มาน่าจะขายได้หลาย มาลียอมรับว่าได้มาก แต่สดับเอาไปหมด และยังจะเอาอีก ถ้าตนไม่หาไปให้ก็จะถูกตบตี ดารกาโกรธตาแดงกํ่า

สั่งห้ามไปยุ่มย่ามที่บ้านอีก ไม่ทันไร สดับเดินออกมาพร้อมเสียงหัวเราะน่าสะพรึงกลัว

“ใช่แล้ว ลูกดารกาของเรา ฮ่าๆๆ ดารกาลูกพ่อ ปลดปล่อยพลังของเจ้าออกมา ความโกรธ ความเกลียด ความแค้นจะทำให้เจ้ามีพลังตามที่ใจเจ้าปรารถนา” สดับเข้าจับไหล่ดารกา

มาลีดึงสดับออกท้วงว่านี่ไม่ใช่ลูกของเรา สดับเหวี่ยงมาลีกระเด็นไป ดารกาได้สติ รีบวิ่งหนีออกมา เสียงหัวเราะของสดับยังดังก้องในหู แล้วเปลี่ยนเป็นเสียงสดับตบตีมาลีจะเอาเงิน...ดารกาวิ่งร้องไห้ออกมา รับไม่ได้ถ้าจะต้องมีพ่อแม่แบบนี้...

ทาฮิร่ามารอแนนนี่ที่ห้อง ชิกเก้นบอกว่าวัยรุ่นสมัยนี้ต้องมีแว้นกันบ้าง ทาฮิร่างงคืออะไร ชิกเก้นอธิบายว่า สมัยก่อนเรียกว่าไปซิ่งคือแวะเที่ยวกันบ้าง ทาฮิร่าเอ็ดว่าไร้สาระ ทาฮิร่าเอาโทรศัพท์มาโทร.ตามแต่ไม่ติด ชิกเก้นบ่นว่า โทรศัพท์เมืองเวทมนตร์จะมาใช้ในเมืองมนุษย์ได้อย่างไร ทาฮิร่าจึงเสกมือถือมาใหม่ แต่เป็นรุ่นกระติกน้ำ ชิกเก้นส่ายหน้า จะเอาให้ทันสมัยหน่อยก็ไม่ได้...แนนนี่กำลังจะไปเที่ยวกับปีเตอร์ พอทาฮิร่าโทร.ตามให้กลับจึงรีบไปทันที

แนนนี่ขี่ไม้กวาดกลับมาอย่างรวดเร็ว เห็นอิงอรยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ จึงแกล้งโฉบไปทักทาย อิงอรเหวอถึงขนาดเอาสายยางฉีดน้ำรดตัวเองไม่รู้ตัว...แนนนี่พุ่งเข้ามาในห้อง ทำเอาทาฮิร่าตกใจท่องคาถาผิดๆถูกๆ ทาฮิร่าเอ็ดแนนนี่ แนนนี่ออดอ้อนเข้ามากอดด้วยความคิดถึง

ทาฮิร่าไม่รอช้าซักถามว่าเมื่อคืนแนนนี่ฝึกเวทมนตร์ที่ไหน แนนนี่ตอบว่าในตะเกียงแก้ว

“โป๊ะเชะ...ที่สัญญาณตำราติดขัดน่าจะเป็นเพราะหลานฝึกในตะเกียงแก้วนี่เอง”

ทาฮิร่ากับแนนนี่หายตัวแวบเข้าไปในตะเกียงแก้ว ก่อนจะอธิบายว่า “ก็เพราะในตะเกียงแก้วเปรียบเหมือนโลกส่วนตัว ดังนั้นการจับสัญญาณจึงหาไม่เจอ หรืออาจจะติดขัด”

“ว้าว...ตะเกียงแก้วเธอนี่เจ๋งจริงๆ” แนนนี่ชมเปาะ

“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉันเป็นตะเกียงวิเศษที่พิเศษที่สุดในโลก...นี่ถ้าเธอไม่เงอะงะทำฉันพังไปเมื่อครั้งที่แล้ว ฉันคงเลิศกว่านี้ยัยทาฮิร่า”

ทาฮิร่าขอโทษอีกครั้ง แล้วฝากตะเกียงแก้วดูแลแนนนี่ฝึกเวทมนตร์ในนี้ ตะเกียงบ่นว่า แค่เมื่อคืนในนี้ยังพังเละเทะ นี่ถ้าฝึกตลอดมีหวังตนพังพินาศแน่ แนนนี่ปลอบว่า ถ้าตนฝึกจบเมื่อไหร่จะเสกให้ตะเกียงแก้วสวยกว่าเดิมอีกร้อยเท่า ตะเกียงย้ำให้สัญญา แนนนี่รับปาก ทาฮิร่าขอให้แนนนี่ตั้งใจฝึกให้สำเร็จโดยไว ก่อนที่บาบาร่า

จะสงสัยและตามมาเจอ ไม่ทันไร ตำราลอยมาให้แนนนี่ฝึก ทาฮิร่าจึงหายตัวกลับไป ชิกเก้นออกมาอยู่นอกตะเกียง เห็นตะเกียงสั่นไปมาและมีเสียงร้องโวยวายของตะเกียงแก้ว ชิกเก้นส่ายหน้าจะไหวไหมนี่...

ooooooo

ปัทมนรู้เรื่องภวัตกอดกับดารกาจากปากอิงอร ก็ร้อนใจรีบมาคุยกับจักรวาล ภวัตกลับมาพอดี ปัทมนจึงขอร้องอย่าทำอะไรให้ดารกาต้องเสียหายมากไปกว่านี้ และตกลงกับจักรวาลจะจัดงานหมั้นให้เร็วขึ้น ภวัตพูดไม่ออกเหมือนน้ำท่วมปาก ปัทมนรับปากจะคุยกับแนนนี่เอง

ดารกากลับมาบ้าน ปัทมนเรียกมาจะคุยเรื่อง

เมื่อคืน แต่พอเห็นสีหน้าดารกาที่ดูเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจก็พูดไม่ออก กลับกลายเป็นปลอบใจดารกาและเข้าใจว่าโดนแนนนี่แกล้งมาอีก...

เครียดจนไม่สามารถอ่านตำราได้ ดารกาครุ่นคิดว่าจะหาเงินจากไหน แล้วนึกได้ตัดสินใจโทร.ขอยืมเงินจากหมอไชย...ไชยรีบมาบอกบุษบาว่าตนมีวิธีดึงดารกาออกจากภวัตแล้ว บุษบาดีใจ แต่ก็ยังเหลือแนนนี่อีกคนที่ดูท่าจะน่าหนักใจ

วันต่อมา ไชยนัดแนะกับบุษบาให้พาภวัตมาเห็นว่าตนเดทกับดารกา...ไชยนัดดารกาที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า มอบเงินให้และชวนให้เดินเล่น เขาพาเธอ

มาที่ร้านเสื้อร้านหนึ่งบุษบาชวนภวัตมาทานข้าว แต่ขอแวะร้านเสื้อประจำก่อน ทั้งสองคู่มาเจอกันหน้าร้าน ดารกาหน้าซีดเกรงภวัตเข้าใจผิด บุษบาพยายามพูดเชิงว่าพี่ชายตนจีบดารกา ให้เผอิญปีเตอร์ชวนแนนนี่โดดเรียนมาเดินซื้อของ แนนนี่เห็นพวกภวัต จึงรีบปรี่มาสมทบ บุษบาเข่นเขี้ยว

แนนนี่ทักทุกคนและทักดารกาว่ามาด้วยหรือ บุษบารีบพูดก่อน “จ้ะ น้องดาเขามากับพี่ไชย ส่วนพี่ก็มาทานข้าวกับภวัต แล้วแนนนี่ล่ะจ๊ะ...อ้อ มากับแฟนนี่เอง” บุษบาเห็นปีเตอร์ตามมา

“ไม่ใช่ซะหน่อย” แนนนี่โกรธที่บุษบาทึกทักเอาเอง

ไชยขัดขึ้นว่า ตนจะไม่ส่งดารกา ว่าแล้วก็จับมือเธอแน่นพาออกไป บุษบาจึงขอตัวไปทานข้าวกับภวัตบ้าง ให้แนนนี่ไปเที่ยวกับแฟนตามสบาย แนนนี่เคืองสีหน้าเอาเรื่อง ภวัตรีบปรามแนนนี่อย่าก่อเรื่อง บุษบายิ้มเยาะแล้วชวนภวัตไป แนนนี่ดึงภวัตไว้และว่าเขาต้องไปกับตน

“เอาเป็นว่า พี่ไม่ไปกับใครทั้งนั้น ผมขอตัวนะครับคุณบุษ” ภวัตเดินไป แนนนี่วิ่งตาม

บุษบาจะตาม แนนนี่ร่ายมนตร์ทำให้บุษบาก้าวขาไม่ออก หน้าคะมำไปใส่ปีเตอร์ ทั้งสองล้มไปปากจูบกัน ปีเตอร์หน้าเหวอ บุษบาอายโวยวายว่าปีเตอร์ฉวยโอกาส ปีเตอร์ทำเสียงชู่ว์ บุษบามองไปรอบๆคนมุงดูกันใหญ่ เจ็บใจรีบเดินหนีไป

ภวัตขับรถไปในใจครุ่นคิดถึงหน้าแนนนี่ คิดถึงคำพูดที่เธอเคยบอกว่า รักและจะแต่งงานกับตน ภวัตเผลอยิ้มออกมา แต่แล้วเสียงดารกาดังเข้ามาว่า

“พี่ภวัตเป็นคนเดียวที่จะเติมเต็มกำลังให้น้องดา”

ภวัตถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม รถจอดติดไฟแดง แนนนี่ขี่ไม้กวาดลงมาเทียบข้างๆรถที่จอดอยู่ด้วยตกใจ แนนนี่มายืนข้างรถภวัตและเคาะกระจกเรียก พลันรถบีบแตรไล่เพราะไฟเขียว ตำรวจมาโบกรถภวัตเข้าข้างทางและเขียนใบสั่งให้ พร้อมตักเตือนไม่ควรจอดรถคุยกันบนท้องถนน ภวัตเถียงไม่ออกยังงงๆว่าแนนนี่มาได้อย่างไร พอนั่งรถกันมา ภวัตจึงถามเธอ

“ก็แนนนี่บอกแล้วไง พี่ภวัตอยู่ไหน แนนนี่จะตามไปทุกที่เลย”

“มันไม่ใช่เด็กแบบเมื่อก่อนแล้วนะ พี่มีหน้าที่ต้องทำงาน ต้องมีเพื่อน มีอะไรหลายๆอย่างที่ต้องรับผิดชอบ แนนนี่จะมาตามพี่ไปตลอดเวลาได้ยังไง”

“ไม่รู้ล่ะ พี่ภวัตจะมีเพื่อนกี่คนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ยัยคุณบุษบานั่น แนนนี่ไม่ชอบ”

ภวัตเหนื่อยใจจึงให้แนนนี่เลิกสนใจเรื่องอื่น แล้วตั้งใจเรียนให้จบ แนนนี่ย้อนถาม

“แล้วถ้าแนนนี่เรียนจบ พี่ภวัตก็จะแต่งงานกับแนนนี่ใช่มั้ย งั้นแนนนี่จะตั้งใจเรียนค่ะ สัญญา” แนนนี่เกี่ยวก้อยภวัตหน้าตาเฉย เขาร้อนรุ่มพูดไม่ออกเรื่องตนกับดารกา

ooooooo

เราใช้คุ้กกี้ 

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookie Policy)

รับทราบ