icon member

สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายรัชชานนท์

ตอนที่ 7

ที่ชั้นล่างของร้านพรานเจ้ย บรรดาคุณชายและเพื่อนร่วมทางยังฉลองกันเฮฮาครื้นเครง

จันทาขึ้นไปเก็บข้าวของส่วนตัวบนห้อง ชัชวีร์เห็นเธอหายเงียบไปนานจึงขึ้นไปดู ถามว่าพรุ่งนี้ก็จะต้องจากที่นี่ไปแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง

“กลัวค่ะ...จันทาไม่รู้ว่าจะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง ถ้าจันทาอยู่ที่นั่นไม่ได้ คงต้องกลับมาที่นี่ แต่พ่อก็ไม่อยู่แล้ว...” เสียงจันทาหายไปในลำคอ ชัชวีร์สะเทือนใจเดินเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว ปลอบและให้กำลังใจเธอว่า

“จันทาต้องอยู่ได้สิ คุณชายทุกคนก็ยอมรับจันทาแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ ทุกคนจะช่วยดูแลจันทาเอง รวมทั้งฉันด้วย ฉันจะหมั่นแวะไปเยี่ยมจันทาที่วังจุฑาเทพ ถ้าจันทาอนุญาต”

จันทาให้ไปขออนุญาตพวกคุณชายที่เป็นเจ้าของบ้าน เพราะตนเป็นเพียงผู้อาศัย

“อนุญาตให้ฉันไปเยี่ยมจันทานะ แล้วก็ต้องยอมให้ฉันไปหาบ่อยๆ ด้วย รับปากฉันสิ” ชายหนุ่มเว้าวอนจนจันทาพยักหน้าเขินๆ

ชัชวีร์ยิ้มดีใจ อาสาช่วยหิ้วกระเป๋าให้ มือสัมผัสกันโดยไม่ตั้งใจ ทำให้จันทายิ่งเขิน รีบเดินผละไป ชัชวีร์มองตามอดยิ้มไม่ได้...

ผิดกับสร้อย ที่ชายเล็กบอกให้เธออยู่ใกล้ๆ ตน เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ปกป้องดูแลเธอได้ สร้อยสะบัดใส่ว่าไม่ต้อง ตนดูแลตัวเองได้ แต่พอเธอเดินออกไปก็ชนเข้ากับชายคนหนึ่ง ชายคนนั้นยัดกระดาษใส่มือเธออย่างเร็วแล้วผละไป

สร้อยคลี่กระดาษดู เป็นรูปวาดลายเส้นหมู่บ้านวลาหกและสัญลักษณ์นกเงือก มองปราดเดียวสร้อยก็อ่านความหมายออก เธออุทานตื่นเต้นดีใจ “พ่อใหญ่!!” แล้วโผเข้ากอดชายเล็กไม่รู้ตัว พร่ำบอกว่า พ่อใหญ่ ลุงไกสอน แฮรี่ และทุกคนปลอดภัยแล้ว ชายเล็กกอดตอบแสดงความยินดีกับเธอ ชมว่าสายข่าวของพ่อใหญ่เก่งจริงๆ ตามเรามาถึงนี่ได้

ขณะนั้นเอง ชายใหญ่ ชายภัทร และชายพีร์เดินออกมาเห็นภาพนั้นก็พากันยิ้ม พอสร้อยรู้ตัวก็รีบผละออกบอกว่าจะไปตามบักจ่อยกับจันทา แล้วเดินงุดๆไป ชายเล็กเองก็มองหน้าพี่ๆเหนียมๆ

ooooooo

ชายเล็กขับรถพาสร้อย จันทา และจ่อยที่เมาแทบไม่ได้สติไปที่บ้านพัก ส่วนคนอื่นๆจะตามไปแต่พักที่โรงแรม นัดค่อยเจอกันในเมือง

ไปถึงบ้านพัก จ่อยสร่างเมาแล้ว พยายามกีดกันไม่ให้ชายเล็กได้คุยกับสร้อย อ้างว่าพ่อไกสอนฝากฝังตนไว้ ให้ดูแลสร้อย จ่อยยืนกันท่าหน้าห้อง จนชายเล็กต้องล่าถอยไป

จันทาติงสร้อยว่าชายเล็กอาจจะมีเรื่องคุยด้วย ก็ได้ สองสาวคุยกันถึงเรื่องหัวใจ จันทาย้ำว่าตอนนี้สร้อยกับชายเล็กเป็นผัวเมียกันถูกต้องตามประเพณีแล้ว สร้อยเลยหยอกจันทาบ้างว่า สงสารจ่อยคงสู้นายทหารคนเมืองไม่ได้ แต่จ่อยก็เป็นคนซื่อตรงจริงใจ ไม่มีวันปันใจให้หญิงอื่น แล้วรวบรัดตัดบทว่า

“แต่ถ้าเจ้าเลือกคุณชัช ข้อยกะบ่ว่าอะหยัง เพิ่นกะดูเป็นคนดี”

“ถ้าข้อยบ่เลือกทั้งสองคน แต่อยากเลือกคนอื่นล่ะ” จันทาทำหน้าล้อๆ เห็นสร้อยหลบสายตาเดินหนีไปที่หน้าต่าง จันทาแอบยิ้ม หยอกต่อ “ถ้าหากว่าข้อยยังคงตัดใจบ่ได้ ตั้งแต่เกิดมา นอกจากพ่อแล้วกะบ่มีไผดี กับข้อยเท่าเพิ่น ตอนนี้เพิ่นเป็นคนสำคัญสำหรับข้อย”

“เจ้าหมายถึง...หมายถึงคุณชายแม่นบ่” เสียงสร้อยปร่าๆจันทาตอบทันทีว่าใช่ ตอนนี้ตนไม่มีใครนอกจากคุณชายเล็ก ข้อยเชื่อว่าเพิ่นสิเป็นพี่ชายที่ดีของข้อย เพิ่นต้องดูแลข้อยแทนพ่อได้อีหลี”

ได้ยินจันทาบอกว่าชายเล็กเป็นพี่ชาย ที่ดี สร้อยก็ใจชื้น แต่ก็ยังเก๊กว่าชายเล็กจะเป็นอย่างไรตนก็ไม่เคยสนใจ จันทารู้ทันชะโงกมองไปบอกว่าชายเล็กยังเดินไปเดินมาไม่ยอมนอน ไม่รู้ว่ากำลังคิดถึงใครอยู่ สร้อยเดินไปชะโงกดูแล้วรีบผลุบกลับเมื่อเห็นชายเล็กแหงนมองขึ้นมา

ooooooo

ชายเล็กเดินวนเวียนจนเห็นห้องสร้อยปิดไฟแล้วจึงกลับเข้าบ้าน พลันก็สะดุ้งเมื่อถูกสร้อยกระโดดลงมาดักหน้า ถามว่ามีเรื่องอะไรคุยกับตน แล้วทำเป็นบ่นว่าเดินทางมาด้วยกันทั้งวันก็ไม่พูด จำเพาะต้องมาพูดกันตอนนี้

“เรื่องของเราสองคน” ชายเล็กบอก สร้อยตัดบทว่าเรื่องของเราตกลงกันแล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าพิธีแต่งงานหลอกๆ “แต่เราต้องตกลงกันใหม่แล้ว เราสองคนแต่งงานกันจริงๆ ไม่ใช่แต่งงานกันหลอกๆ หลังจากที่หม่อมย่ารับรู้เรื่องของเราแล้ว ฉันจะขอให้ท่านจัดงานแต่งงานให้อีกครั้ง”

สร้อยบ่ายเบี่ยง ชายเล็กอ้างว่าไหนๆก็แต่งกันแล้ว ก็ทำทุกอย่างเสียให้ถูกต้อง เพราะเรายังต้องออกตามหาเจ้ารัชทายาทอาจใช้เวลาเป็นปี สองปี หรือสิบกว่าปีจนกระทั่งตลอดชีวิต สร้อยยืนยันว่าไม่ว่าจะต้องอยู่กันกี่ปีเราก็เป็นได้แค่เสี่ยวกันเท่านั้น พูดแล้วเดินหนีไป ชายเล็กได้แต่ยืนใจหายอยู่ตรงนั้น

ooooooo

เมื่อถึงเวลานัดขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ ทุกคนมาพร้อมแล้ว ยกเว้นชายเล็ก สร้อย จันทา และจ่อยยังไม่มา ชายพีร์กับศินีนุชและชัชวีร์ร้อนใจกลัวมาไม่ทันรถไฟ ชายใหญ่กับชายภัทรจึงบอกว่าชายเล็กจะกลับพรุ่งนี้

ชายใหญ่กับชายภัทรให้ เหตุผลว่า เพราะชายเล็กต้องจัดการปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับสร้อยให้ถูกต้อง ทั้งทางประเพณีและกฎหมาย ชายเล็กขอร้องชายใหญ่กับชายภัทรตั้งแต่เมื่อวานว่า

“ผมจะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด ผมจะต้องทำให้หม่อมย่าปฏิเสธสร้อยฟ้าไม่ได้ ผมขอร้องล่ะ พี่ๆช่วยผมอีกสักครั้งเถอะนะ”

ชายใหญ่กับชายภัทรที่รู้เรื่องดีช่วยกันชี้แจงแทนชายเล็ก แต่รับรองว่าชายเล็กจะกลับถึงกรุงเทพฯ ไม่เกินพรุ่งนี้แน่นอน แม้ชายพีร์จะฉุนที่ชายเล็กคู่ซี้ไม่แพร่งพรายเรื่องนี้กับตนเลย แต่ก็เข้าใจได้ มีแต่ศินีนุชเท่านั้นที่โวยวายไม่เลิก ถามว่ายังมีเรื่องอะไรที่ปกปิดตนอยู่อีกไหม?!

“พี่บอกเท่าที่บอกได้ เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว พูดแค่นี้น้องนุชคงเข้าใจนะครับ” ชายใหญ่พูดด้วยสายตานิ่งๆดุๆจนศินีนุชไม่กล้าโวยวายอีก
กว่าชายเล็กจะจด ทะเบียนสมรสกับสร้อยได้ก็ถูกสร้อยงอแงและจ่อยต่อต้าน จ่อยถามว่าสร้อยไม่ใช่คนไทยไม่มีบัตรประชาชนจะจดทะเบียนสมรสได้อย่างไร

“เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว ฉันก็หาทางแก้ปัญหาไว้แล้วด้วย โน่น คนที่จะมาช่วยฉันแก้ปัญหามาโน่นแล้ว” ชายเล็กชี้ไปที่บุญโฮมที่แต่งตัวดีเดินผึ่งผายภาคภูมิเข้ามาที่ว่าการอำเภอ

ที่แท้ ชายเล็กให้บุญโฮมมาแจ้งว่าเมียที่พาลูกสาวแบเบาะของตนหนีไปเมื่อสิบกว่าปี ก่อน บัดนี้หาเจอแล้วจึงจดทะเบียนสร้อยเป็นลูกสาว ชื่อ นางสาวสร้อยฟ้า ทาไทสง ลูกสาวของนายบุญโฮม ทาไทสง และหลังจากนั้นเมื่อจดทะเบียนสมรสกับคุณชายรัชชานนท์ จุฑาเทพแล้วเธอก็เปลี่ยนเป็นสร้อยฟ้า จุฑาเทพ ไปทันที

บุญโฮมน้ำตาคลอด้วยความปลื้มปีติที่ได้เป็นพ่อตาของ “จุฑาเทพ”

หลังจากนั้น ชายเล็กพาทั้งสร้อย จ่อย และจันทาที่แต่งตัวเป็นคนในเมืองแล้ว ท่องเที่ยวไปในจังหวัดหนองคาย พาซื้อของดูของและแนะนำการใช้ชีวิตแบบคนในเมือง ทั้งสามเรียนรู้วิถีชีวิตที่แตกต่างจากเดิมกันอย่างตื่นเต้นจนลืมความกังวล ต่างๆไปชั่วขณะ

ooooooo

ที่วังจุฑาเทพ ทั้งหม่อมเอียดและย่าอ่อน รวมทั้งดารณีนุชและอนุพันธ์ ต่างมาคอยการกลับมาของบรรดาคุณชายและศินีนุชกับชัชวีร์กันพร้อมหน้า คอยแล้วคอยเล่าจนน้ำชาเย็นไปหมดก็ยังไม่มา

บรรยากาศตื่นเต้นขึ้น ทันทีเมื่อมีสัญญาณว่ามีคนมา พวกผู้ใหญ่พากันลุกขึ้นด้วยความดีใจ แต่แล้วก็กลับผิดหวังนั่งลงเมื่อคนที่มากลายเป็นวิไลรัมภา
จนค่ำ ขบวนของชายใหญ่ ชายภัทร ชายพีร์ ชัชวีร์และศินีนุชจึงมาถึงท่ามกลางความยินดีของญาติผู้ใหญ่ทุกคน แต่พอนึกได้ว่าไม่เห็นชายเล็ก ทุกคนก็มองหน้าชายใหญ่ถามว่าทำไมชายเล็กจึงไม่มาด้วย

“ผมต้องกราบ ขอโทษแทนชายเล็กด้วยนะครับ ที่กลับมาในวันนี้ไม่ได้” ชายใหญ่เอ่ยหลังจากเล่าความจำเป็นที่ชายเล็กไม่ได้กลับมาพร้อมกันอย่าง ระมัดระวัง ชายภัทรช่วยพูดว่าชายเล็กมีความจำเป็นจริงๆ ชายใหญ่จึงเล่าต่อว่า “ผมหวังว่าคุณลุงจะเข้าใจนะครับ เราไปเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดหลายเรื่อง ชายเล็กก็เลยต้องอยู่สะสางทั้งเรื่องงานและเรื่อง เอ่อ...เรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่องน่ะครับ” ชายใหญ่เลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องสร้อย

ดารณี นุชช่วยพูดแทนอนุพันธ์ว่าคุณลุงเขาต้องเข้าใจอยู่แล้วล่ะ แล้วหันไปหว่านล้อมอนุพันธ์ว่า “เราจะไปโทษชายเล็กก็ไม่ได้ ถ้าเขารู้ว่าเรามารอเจอตัวที่นี่ เขาก็คงจะรีบกลับมาพร้อมทุกคนแล้ว เรารู้ว่าคุณชายเล็กปลอดภัยกลับมาแน่นอนก็ดีแล้วนะคะคุณ”

หม่อมเอียดขอโทษอนุพันธ์ที่ต้องมารอเก้อ ย่าอ่อนก็รับรองแข็งขันว่า ถ้าได้ตัวชายเล็กมาเมื่อไรจะรีบพาไปกราบขอโทษทันที

“ผม ว่า ไม่จำเป็นหรอกครับ คุณชายเล็กไม่ได้ทำอะไรผิด ผมผิดเองที่คาดหวังว่าคุณชายเล็กจะกลับมาพร้อมกับยายนุช ลูกสาวผมอุตส่าห์เสี่ยงอันตรายไปตามหาถึงในป่าในเขา อย่างน้อยก็น่าจะมีน้ำใจดูแลลูกสาวผมบ้าง ไม่ทราบเอาความเป็นสุภาพบุรุษจุฑาเทพไปทิ้งไว้ที่ไหนเสีย”

อนุพันธ์พูดหน้านิ่งๆ แต่ทั้งชายใหญ่และชายเล็กต่างอึ้งเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง!

ooooooo

ชาย เล็กพาสร้อย จันทา และจ่อยท่องเที่ยวและเล่าประเพณีต่างๆของชาวหนองคายให้ฟัง เล่าจนสร้อยนิ่งไปคิดหนักว่าตนคงต้องเรียนรู้เรื่องของไทยอีกหลายเรื่อง เพราะรู้แค่ที่แฮรี่สอนคงไม่พอแล้ว

“ฉันเตือนไว้ล่วงหน้าเลยนะ การเป็นสะใภ้ ของจุฑาเทพไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่เชื่อเธอไปถามคุณกรองแก้วพี่สะใภ้ของฉันได้เลย” ชายเล็กย้ำ สร้อยมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่ตนทำไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นเธอต้องหัดพูดภาษากลางก่อนอื่นเลย พ่อใหญ่ยังพูดได้เลย เธอก็น่าจะพูดได้ นี่คือเรื่องแรกที่เธอต้องปรับตัว”

สร้อยตื่นตา ตื่นใจกับเรือไฟในแม่น้ำโขงชมว่า “งามแท้น้อ เจ้าเบิ่งซิ เบิ่งๆ!!” พูดพลางตบไหล่ชายเล็กให้ดู “งามอะหยังจังซี่ งามโพดๆ แม่นว่าพญานาค โผล่จากน้ำมา!”

ชายเล็กมองหน้าสร้อยแล้วอมยิ้ม เธอถามว่ามองอะไร

“มองเรือไฟที่งามโพดๆของเธอยังไงล่ะ” ชายเล็กตอบล้อๆ มองอย่างเอ็นดูจนสร้อยต้องหลบสายตาของเขาเป็นครั้งแรก...

ooooooo

ชาย เล็กหลอกให้จ่อยพาจันทาไปทางหนึ่ง ส่วนตัวเองพาสร้อยไปอีกทาง พาเธอเที่ยวจนใกล้เวลารถไฟออก จ่อยกับจันทามายืนรออย่างร้อนใจกลัวไม่ทันรถไฟออก

ครู่เดียวชายเล็กกับสร้อยก็มาถึง ชายเล็กทักจ่อยอารมณ์ดีว่ามาถึงกันนานหรือยัง จ่อยกระแทกเสียงไปทันทีว่า

“นานโพด! ไปเที่ยวกันสองคน ม่วนหลายล่ะซิ ข้อยยอมให้เทื้อนี้เทื้อเดียว อย่าได้คึดเชียวว่าสิลักตัว อีสร้อยไปได้อีก”

ชาย เล็กท้าพนันกันไหม ก็พอดีระฆังบอกสัญญาณรถไฟออก ผู้คนพากันรีบขึ้นรถไฟ สร้อยบอกทั้งสองให้พอได้แล้ว เดี๋ยวไม่ทันรถไฟพอดี แล้วทั้งหมดก็พากันรีบขึ้นรถไฟ พอรถเคลื่อนออก สร้อยมองไปนอกหน้าต่างไกลแสนไกลพึมพำ

“พ่อใหญ่...ข้อยไปละเน้อ...”

พ่อ ใหญ่ที่กำลังนำพวกชาวบ้านไปส่งที่หมู่บ้านวลาหกแห่งใหม่ ใจก็ยังพะวงถึงสร้อย แฮรี่บอกว่าไม่ต้องห่วงหรอก ตนเชื่อมั่นในความเป็นจุฑาเทพ สร้อยมีคุณชายคอยดูแลถึงสามคน รวมทั้งชัชวีร์ด้วยก็เป็นสี่ แล้วยังมีจันทากับจ่อยอีก

“เจ้าเชื่อ มั่นในความเป็นจุฑาเทพ เฮากะเชื่อมั่นในตัวเจ้าสร้อย พวกทหารเวียงมันบ่แตะต้องลูกสาวของเฮาได้ เจ้าสร้อยสิต้องไปรอดปลอดภัย เพิ่นสิต้องตามหาดวงใจของเวียงพูคำจนเจอ” พ่อใหญ่พูดอย่างเชื่อมั่นและให้กำลังใจตัวเอง

เมื่อได้เวลาขบวนอพยพ เริ่มเดินทาง ทับทิมมาแจ้งว่าพวกทหารเวียงไม่ได้มาทางนี้ มันคงคิดไม่ถึงว่า พวกเราจะกล้าไปตั้งกองกำลังที่ชายแดนเวียงพูคำ แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องระวังตัวทุกฝีก้าวไม่ให้พวกขายชาติเข้าใกล้พ่อ ใหญ่ได้

บรรดาชายฉกรรจ์และชาวบ้านพากันเดินห้อมล้อมพ่อใหญ่ไว้อย่างจงรักภักดี

ooooooo

ก่อน ที่ชายเล็กจะพาสร้อย จันทา และจ่อยมาถึงวังจุฑาเทพ กรองแก้วที่ไปเยี่ยมบ้านก็กลับมาก่อนเล็กน้อย ทั้งชายใหญ่และชายภัทรต่างเล่าเรื่องชายเล็กกับสร้อยให้ฟัง ฝากกรองแก้วให้ช่วยดูแล ซึ่งกรองแก้วก็รับปากว่าตนพอจะช่วยได้

เมื่อ ชายเล็กพาสร้อย จันทา และจ่อยมาถึงวังจุฑาเทพ ทั้งสามต่างตะลึงกับวังจุฑาเทพที่ใหญ่โต แม้ใจจะหวั่นๆแต่สร้อยก็ฮึดบอกกับชายเล็กว่า “ข้อยพร้อมแล้ว เจ้าสิให้ข้อยเฮ็ดอะหยังกะบอกมา!” ทำเอาชายเล็กทึ่ง

คนที่หนาวๆร้อนๆ ที่สุดคือชายเล็ก ยิ่งเมื่อเข้าไปในห้องโถงแล้ว บรรดาพี่ๆต่างขอตัวไปทำงานบ้าง ทำธุระของตัวเองบ้าง อ้างว่าช่วยมามากแล้วให้ชายเล็กแก้ปัญหาเองบ้าง ทำเอาชายเล็กครวญอย่างน่าสงสารว่า...

“ไม่อยู่ช่วยกันจริงๆหรือเนี่ย...”

ครู่ ใหญ่ หม่อมเอียดกับย่าเล็กลงมาจากชั้นบน พอเห็นชายเล็ก สองย่าก็อุทานเรียกด้วยความดีใจ ชายเล็กโผเข้ากอดสองย่าไว้แน่น หม่อมเอียดถามว่าไม่เป็นอะไรใช่ไหม ย่าใจแทบขาดที่รู้ว่าชายเล็กหายไปในป่าหลายวัน พูดอย่างหวาดหวั่นว่ากลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว ต่อไปจะไม่ขอรับฟังข่าวร้ายอีกแล้ว

“ผมกราบขอโทษครับหม่อมย่า ผมเสียใจจริงๆครับย่าอ่อนที่ทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”

“ย่ายกโทษให้ มีเรื่องอะไรที่ย่าจะยกโทษให้หลานไม่ได้” หม่อมเอียดประคองชายเล็กให้ลุกขึ้น

“หม่อม ย่าพูดแล้ว อย่าเปลี่ยนใจนะครับ ไม่ว่าผมจะไปก่อเรื่องอะไรมา หม่อมย่าก็จะยกโทษให้ใช่ไหมครับ” ชายเล็กฉวยโอกาสปะเหลาะขอคำยืนยันจากหม่อมเอียดทันที สองย่ามองหน้ากันเริ่มหวั่นใจขึ้นมา...

แล้วชายเล็กก็รวบรวมความกล้า เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเวียงพูคำให้สองย่าฟัง สรุปว่าตนแต่งงานแล้ว สองย่าดีใจนึกว่าชายเล็กแต่งงานกับศินีนุชที่ไปตามหาถึงป่าเขา แต่พอชายเล็กบอกว่าตนแต่งงานกับสาวเวียงพูคำชื่อสร้อยฟ้า สองย่าก็มองตาค้าง ย่าอ่อนถึงกับทำท่าจะเป็นลม ชายเล็กจึงตั้งสติเล่าให้ฟังว่า

“ผมรอด ชีวิตออกจากป่ามาได้ เพราะว่าได้สร้อยฟ้าเสี่ยงภัยช่วยชีวิตผมไว้ แล้วก็มีเหตุผลหลายอย่างที่เราต้องแต่งงานกัน เรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นรวดเร็วไปหน่อย แต่ผมแน่ใจว่า ผมตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกแต่งงานกับสร้อยฟ้า ผมหวังว่าหม่อมย่าจะยอมรับหลานสะใภ้คนนี้นะครับ”

“เธอเป็นใครชาย เล็ก! คุณชายรัชชานนท์ จุฑาเทพ อยู่ๆก็ไปคว้าผู้หญิงจากในป่า แล้วมาบอกว่าแต่งงานกันแล้ว มันใช้ได้ที่ไหน คนมีชาติมีตระกูลเขาไม่ทำกัน แล้วที่ว่ามีเหตุผลที่จะต้องแต่งงาน มีเหตุผลว่าอะไร แจกแจงมาให้หมด แล้วย่าจะพิจารณาเองว่า แม่สร้อยฟ้านี่เหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้จุฑาเทพหรือไม่” หม่อมเอียดหน้าขรึม

“ฟังแค่นี้ย่าบอกได้เลยว่าไม่ ไม่มีทางที่เราจะรับแม่สาวบ้านป่าเป็นหลานสะใภ้! ไม่มีทาง!!” ย่าอ่อนตาพอง

ชายเล็กนิ่งไปอย่างสยองขวัญ ในที่สุด ฝันร้ายก็กลายเป็นจริง!

ooooooo

ชัช วีร์กลับไปที่วังกิตติวงศ์ก็อยู่อย่างเจียมตัว เวลากินข้าวก็ไปกินในครัวกับคนรับใช้ อนุพันธ์รู้สึกไม่สบายใจมากที่ตนดูแลชัชวีร์ได้ไม่ดีอย่างที่ตั้งใจ
วัน นี้ศินีนุชได้ข่าวว่าชายเล็กกลับมาแล้วก็โทรศัพท์ไปขอคุยด้วย แต่ชายเล็กไม่ว่างรับสาย ดารณีนุชจึงชวนลูกสาวไปวังจุฑาเทพ พูดอย่างเพ้อฝันว่า ป่านนี้ชายเล็กคงกำลังตั้งหน้าตั้งตารอศินีนุชอยู่แล้ว

“ห้าม ไปเด็ดขาด!” อนุพันธ์เสียงดังเข้ามา ตำหนิสองแม่ลูกว่าทำตัวไร้ค่า เที่ยววิ่งไล่ตามจับผู้ชาย ดารณีนุชจึงสั่งชัชวีร์ให้ไปดูแทน ชัชวีร์ขอไปทำงานที่กองบินก่อนเย็นๆ จะแวะไปดูให้ ดารณีนุชสั่งต้องไปเดี๋ยวนี้ อนุพันธ์สั่งเสียงดังกว่าว่า “ไปทำงานได้แล้วไป”

พอชัชวีร์ไหว้ลาไปทำงาน อนุพันธ์เรียกไว้บอกว่าอย่าไปฟังคุณหญิง มองชัชวีร์เต็มตาพูดจากหัวใจว่า

“พ่อดีใจที่แกกลับมาปลอดภัย แต่ต่อไปอย่าทำอะไรหุนหันอย่างนี้อีก ชีวิตของแกมีค่าเกินกว่าจะไปเสี่ยงความตายเพื่อคนอื่น”

“ชีวิตผมไม่มีค่าเกินกว่าใครทั้งนั้น ไม่งั้นผมคงไม่ถูกย้ำเตือนทุกวันว่าผมต้อยต่ำแค่ไหนหรอกครับคุณพ่อ”

อนุพันธ์ฟังแล้วยิ่งสะเทือนใจ แต่ก็ไม่อาจบอกความลับที่ต้องเก็บงำไว้แต่เพียงคนเดียวได้...

ooooooo

กรอง แก้วจับจันทาให้ใส่ชุดของตนจนดูสวยผิดตากลายเป็นสาวกรุงในพริบตา ส่วนจ่อยไม่ต้องแต่งอะไรมาก เดินเตร่อยู่แถวหน้าบ้าน จึงได้ยินพวกคนรับใช้นินทาพวกตนกันอย่างสนุกปาก

ทั้งสมศรี สมบุญ ถนอม และแจ๋ว ต่างคาดเดากันว่า สามคนที่ชายเล็กพามาคงเอามาเป็นคนใช้ ท่าทางเถื่อนๆ แบบนี้คงต้องฝึกกันอีกนาน จ่อยทนไม่ได้เลยออกไปแสดงตัว บอกว่าพวกตนไม่ได้มาอยู่ในฐานะคนใช้ จันทามาอยู่ในฐานะน้องสาวของชายเล็ก และสร้อยมาอยู่ในฐานะเมียของชายเล็ก!

หม่อมเอียดกับย่าอ่อนต่างรับ ไม่ได้ที่จะมีสะใภ้เป็นสาวบ้านป่า ไม่ยอมรับการแต่งงานจดทะเบียนของชายเล็ก อ้างว่าเป็นการแต่งงานที่ผู้ใหญ่ทางนี้ไม่ได้รับรู้ และเมื่อจดทะเบียนได้ก็หย่าได้ ย่าอ่อนถึงกับพูดอย่างตัดเยื่อใยว่า ชายเล็กพาผู้หญิงคนนี้มาจากไหนก็พากลับไปส่งคืนที่นั่นเลย

ทันใดนั้น กรองแก้วพาจันทาที่เปลี่ยนชุดแล้วเข้ามา จันทาเข้ามาไหว้อย่างอ่อนช้อยงดงาม พอหม่อมเอียด กับย่าอ่อนเห็นความสวยความอ่อนหวานของจันทาก็พูดกันว่า พอรับได้ ลดการต่อต้านลงไปนิดหนึ่ง สองย่าคิดว่านี่คือเมียของชายเล็ก แต่ชายเล็กแนะนำว่านี่คือจันทา

กรองแก้วรีบพาสร้อยที่แอบอยู่หลังประตูเข้าไป ชายเล็กแนะนำต่อโดยไม่ได้หันมองว่า นั่นคือสร้อยภรรยาตน

หม่อม เอียดกับย่าอ่อนเห็นสร้อยในชุดเวียงพูคำที่ใส่ลุยป่าทะมัดทะแมงท่าทางแข็ง กระด้างก็แทบจะเป็นลม ชายเล็กเอะใจหันมองก็อึ้งไปเช่นกัน

“หนูแก้วพาแม่...แม่จันทาออกไปก่อน ขอย่าจัดการทีละเรื่อง!” หม่อมเอียดพูดเสียงเหนื่อยใจ

ชาย เล็กลุกไปนั่งประกบสร้อยทันที แนะนำว่า “สร้อยฟ้า นี่หม่อมย่าเอียดแล้วก็คุณย่าอ่อนของฉัน” สร้อยยกมือไหว้อย่างถูกต้องตามแบบแผน ชายเล็กจึงแนะนำแก่ย่าทั้งสองว่า “นี่สร้อยฟ้าครับ ภรรยาของผมครับ”

ย่าอ่อนมีปฏิกิริยารุนแรงรับไม่ได้ ถามชายเล็กว่าไม่อายคนเขาบ้างหรือ ไปได้สาวบ้านป่าไร้การศึกษามาเป็นเมีย พูดภาษาไทยก็ยังไม่ได้

“ดิฉันพูดไทยได้” สร้อยตอบเสียงแจ่มใสชัดเจน

ย่าอ่อนรับไม่ได้บอกชายเล็กว่าแต่งงานกันก็มีคนรู้เห็นไม่กี่คน ให้ถือเป็นโมฆะไปก็แล้วกัน

“ไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าเราสองคนจดทะเบียนเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สร้อยฟ้าจะต้องอยู่กับผมที่นี่ในฐานะภรรยาของผม”

หม่อมเอียดกับย่าอ่อนได้ยินถึงกับอึ้ง

oooooooo

ชาย พีร์คู่หูของชายเล็ก ดีใจกับชายเล็กที่เรื่องจบง่ายกว่าที่คิดมาก ชวนไปฉลองกัน ชายใหญ่ติงว่าเราควรจะฉลองกันก็ต่อเมื่อหม่อมย่ายอมรับสร้อยฟ้าเป็นสะใภ้ อย่างเป็นทางการด้วยความเต็มใจก่อน และสร้อยฟ้าก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ

จริงอย่างที่ชายใหญ่คาดเดา เพราะหม่อมเอียดกับย่าอ่อนคุยกันอย่างไม่พอใจที่จะต้องรับสร้อยฟ้าสาวบ้านป่ามาเป็นสะใภ้ หาทางที่จะเฉดออกไปจากวังจุฑาเทพ ย่าอ่อนเสนอตัวว่าหม่อมเอียดจะให้ทำอย่างไรบอกมาเลยตนจะจัดการเอง ก่อนอื่นต้องปิดข่าวการแต่งงานของชายเล็กให้เงียบที่สุด จากนั้นค่อยจัดการโยนแม่สาวบ้านป่าออกไปจากวังจุฑาเทพ!

เหตุนี้เอง ความสับสนวุ่นวายจึงเกิดขึ้น เมื่อชายเล็กให้สร้อยขึ้นมาอยู่ห้องบนตึกที่เป็นห้องแขกสวยหรู และจันทาก็อยู่ในห้องพักแขกเช่นกัน

ชายเล็กถือโอกาสนี้ทวงความเป็นสามีของตนกับสร้อย แต่ขณะกำลังตื๊ออยู่นั่นเอง ก็ถูกสาวใช้มาขัดจังหวะ มาตามให้ไปพบหม่อมย่าที่เรือน

หม่อมเอียดกับย่าอ่อน เริ่ม “จัดการ” ตามแผนที่คุยกันไว้ โดยอนุญาตให้ทุกคนที่ชายเล็กพามาพักที่นี่ได้ โดยให้ทุกคนอยู่ในความดูแลของย่าอ่อน ส่วนสร้อยฟ้า หม่อมเอียดขอเป็นคนพิสูจน์เองว่าคู่ควรที่จะเป็นสะใภ้ของจุฑาเทพหรือไม่

“เราทำอะไรเป็นบ้าง” หม่อมเอียดซักถามสร้อยทันที

“ยิงปืนได้ ล่าสัตว์เป็น ปลูกผักปลูกข้าวโพดทอผ้าสานเสื่อก็พอเป็น”

“เธอไม่มีคุณสมบัติใดๆ เหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้จุฑาเทพเลย ชายเล็กมีเมียอย่างเธอ ชีวิตมีแต่จะตกต่ำลง แต่ฉันจะให้เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อปรับปรุงตัวเอง ถ้าเธอเป็นแม่ศรีเรือนให้สามีไม่ได้ ฉันจะถือว่าการแต่งงานของเธอกับชายเล็กไม่เคยเกิดขึ้น”

“ได้! เอ่อ...ได้ค่ะ...คุณท่านจะให้ดิฉันปรับปรุงตัวยังไงก็สอนสั่งมาได้เลย ดิฉันพร้อมที่จะเรียนรู้ทุกอย่าง เพื่อที่จะเป็นภรรยาที่ดีของคุณชายเล็ก” สร้อยห้าวหาญ ฉะฉาน จนชายเล็กทึ่ง

“แม่อ่อน...จัดการตามที่เราได้คุยกันไว้” หม่อมเอียดสั่งการ

ชายเล็กหันมองย่าอ่อนอย่างหวั่นใจ ไม่รู้ว่าย่าอ่อนจะมาไม้ไหน และจัดการกับสร้อยอย่างไร...

ooooooo

ย่าอ่อนจัดการทันที ให้สร้อย จันทา และจ่อยไปอยู่เรือนคนใช้ อ้างว่าชายเล็กขอเพียงให้สามคนอยู่ที่นี่ก็พอแต่ไม่ได้บอกว่าจะให้อยู่อย่างไร ตนจึงจัดให้ตามฐานะและความเหมาะสม

สร้อยเตือนจ่อยที่ฮึดฮัดไม่พอใจว่าลืมไปแล้วหรือว่าเรามาที่นี่เพื่ออะไร จ่อยจึงสงบลง ย่าอ่อนให้จ่อยไปอยู่กับสมบุญ บอกทุกคนว่าวันนี้พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ เดินบ่นดังๆไปว่า

“คนบ้านป่า...ไม่มีมารยาท!”

เวลาเดียวกัน หม่อมเอียดก็พาชายเล็กไปที่วังกิตติวงศ์แสดงความเสียใจกับอนุพันธ์และดารณีนุชในเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนชายเล็กก็ขอรับผิดชอบเองเพราะตนตัดสินใจทำไปโดยพลการพร้อมทั้งกราบขอโทษอนุพันธ์และดารณีนุช

“ที่จริงคุณชายไม่ต้องขอโทษหรอก พวกผู้ใหญ่ไปคาดหวังกันเองว่าคุณชายจะต้องแต่งงานกับยายนุช คุณชายแต่งงานกับผู้หญิงที่เลือกเองก็ถูกต้องแล้ว” อนุพันธ์พูดอย่างผู้ใหญ่ที่เข้าใจและให้ความเป็นธรรม แต่ถูกดารณีนุชสวนทันควันว่า

“ถูกต้องที่ไหนกัน! คุณชายเล็กต้องแต่งงานกับลูกนุชตามสัญญาที่ให้ไว้กับทางเทวพรหม หม่อมป้าทาบทามสู่ขอลูกนุชแล้วด้วย แต่คุณชายกลับไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ทำให้ลูกนุชต้องเสื่อมเสียเกียรติ ไม่ได้นะคะ หม่อมป้าต้องช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของลูกนุชคืนมา!”

ดารณีนุชขึงขังเสียจนหม่อมเอียดอึ้งพูดไม่ออก ชายเล็กไม่เห็นด้วยแต่ก็นิ่งเงียบ

ขณะบรรยากาศกำลังเครียดนั่นเอง ศินีนุชก็ดี๊ด๊าลงมาในชุดสวย ส่งเสียงเจื้อยแจ้วทักทายชายเล็ก ถามว่าหม่อมย่ามากับชายเล็กเพื่อคุยเรื่องตนใช่ไหม อนุพันธ์เห็นลูกสาวแล้วอ่อนใจ บอกให้นั่งลงพ่อมีเรื่องจะคุยด้วย ถูกดารณีนุชขัดทันทีว่าอย่าไปฟัง เรื่องของลูกแม่แก้ปัญหาให้ได้แล้ว แล้วหันไปพูดกับหม่อมเอียดว่าถ้าคุณย่าสั่งให้ชายเล็กหย่าก็ไม่มีใครกล้าขัด

พอศินีนุชรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ปฏิเสธแทบไม่เป็นภาษาว่า ไม่จริ๊ง...ไม่จริง ร้องไห้วิ่งเตลิดออกไป

ไม่นาน อนุพันธ์กับดารณีนุชออกมาส่งหม่อม

เอียดกับชายเล็ก อนุพันธ์เอ่ยขึ้นว่าถ้าเราสองฝ่ายได้พูดจากันตรงๆอย่างวันนี้ตั้งแต่แรก เรื่องยุ่งๆนี้คงจะจบไปนานแล้ว ดารณีนุชขัดขึ้นทันทีว่ายังไม่จบเพราะชายเล็กยังไม่ได้แต่งกับสาวบ้านป่านั้น แล้วหันมาถามหม่อมเอียดว่าเราควรจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี

“ไม่ต้องจัดการแล้ว เราจะไม่พูดเรื่องคุณชายเล็กกับยายนุชอีก เรื่องทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว!” อนุพันธ์หันไปพูดกับหม่อมเอียดเสียดแทงถึงดารณีนุชว่า “เรื่องนี้เป็นบทเรียนว่า ไม่ว่าใครสูงส่งแค่ไหนก็ไม่ได้สมหวังดังใจไปได้ทุกอย่าง”

ส่งหม่อมเอียดแล้ว ดารณีนุชไปหาศินีนุชที่ไปยืนร้องไห้ในสวนหลังบ้าน ยุว่าตราบใดที่หม่อมป้ายังไม่รับสร้อยเป็นหลานสะใภ้ลูกก็ยังไม่สิ้นหวัง แม่จะช่วยเอง ทำให้ศินีนุชมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

ooooooo

ตกเย็น เลิกงานแล้ว ชัชวีร์ไปที่วังจุฑาเทพเจตนาอยากไปเจอจันทาแต่ไปเจอสร้อยที่กำลังถางหญ้าอยู่ คุยกันไม่กี่คำ จันทาก็หิ้วกระติกน้ำใบใหญ่เดินมา

“คุณชัช...” จันทาดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่

สร้อยสังเกตเห็นความสนิทสนมเป็นพิเศษระหว่างจันทากับชัชวีร์ เมื่อชัชวีร์จะกลับจึงให้จันทาไปส่ง จ่อยชักสีหน้าอย่างขัดใจ ถามสร้อยว่าทำไมต้องให้จันทาไปส่งที่รถด้วย มาเองได้ทำไมกลับเองไม่ได้

“เจ้าบ่นหิวข้าวไส้จะขาดบ่ใช่ดอกรึ หิวกฟ่าวไปกินข้าวกันไป ข้อยสั่งให้ไปก็ไป” สร้อยเสียงเข้ม จ่อยละล้าละลังยังมองจันทาที่เดินไปกับชัชวีร์ไม่วางตา
ชัชวีร์กับจันทาพากันไปล้างมือ ชายหนุ่มส่งผ้าเช็ดหน้าให้เช็ดมือ จันทารับไปเขินๆนึกได้บอกว่าไม่ไปส่งดีกว่า เดี๋ยวสร้อยจะรอ เสร็จแล้วจะส่งผ้าเช็ดหน้าคืน

“ไม่ต้องไปส่งก็ได้ แต่จันทาต้องเก็บผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ไว้นะ เวลาเห็นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ จันทาจะได้นึกถึงฉัน”

พูดแล้วชัชวีร์ก็เขินบ่นตัวเอง “ไอ้ชัชเอ๊ย...พูดอะไรออกไป...” แต่ก็อิ่มใจมีความสุข...

เมื่อชายเล็กกลับมา รู้ว่าทุกคนถูกย้ายไปอยู่เรือนคนใช้แล้ว เขาไปหาจันทาที่เรือนคนใช้ พูดอย่างรู้สึกผิดว่า

“ฉันขอโทษนะจันทา ฉันไม่ได้ดูแลจันทาอย่างที่ได้สัญญาไว้ว่าจะรับจันทามาเป็นน้องสาว”

“คุณชายคะ จันทาได้มาเป็นน้องสาวของคุณชายแล้ว จันทาไม่ต้องการมากไปกว่านี้อีกแล้วล่ะค่ะ คุณชายไปดูเจ้าสร้อยดีกว่า เจ้าสร้อยคงต้องการกำลังใจจากคุณชาย พรุ่งนี้จะต้องไปเจอกับอะไรอีกก็ไม่รู้ ไปเถอะค่ะ เขาคงอยู่แถวๆนี้”

จ่อยเขม่นชายเล็ก จันทาบอกว่าชายเล็กเอ็นดูตนเหมือนน้องสาวจริงๆ จ่อยตัดพ้อว่าตนห่วงเธอถึงเพียงนี้ยังไม่รู้อีกหรือว่าตนคิดอย่างไรกับเธอ จันทาเลยคว้ามือจ่อยไปกุมไว้ จ่อยตะขิดตะขวงใจดึงมือออกถามเขินๆว่าทำอะไร

“เจ้าบ่ได้คึดอะหยังกับข้อยดอกอ้ายจ่อย บ่จังซั่นแล้วหัวใจของเจ้าสิต้องเต้นแรง แรงจนหายใจบ่ทัน...” จันทาพูดยิ้มๆแล้วเดินจากไป จ่อยเอามือกุมที่หัวใจตัวเองอย่างไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างที่จันทาว่าหรือเปล่า

ooooooo

ชายเล็กไปหาสร้อยตามที่จันทาบอก มองหาไม่เห็นแต่ถูกผลไม้ปาลงมาถูกหัวดังโป๊กจึงรู้ว่าเธออยู่บนต้นไม้นั่นเอง!

ชายเล็กพูดถึงการที่สร้อยต้องถูกย่าอ่อนทดสอบเป็นเวลาหนึ่งเดือนว่า ยังไงตนก็เอาใจช่วย มีเวลาตั้งเดือนหนึ่ง คนฉลาดอย่างเธอต้องทำได้อยู่แล้ว

“ฉันจะพยายามเต็มที่ แต่ถ้าฉันทำไม่สำเร็จ ทำให้หม่อมย่าของคุณยอมรับฉันไม่ได้ ฉันก็คงต้องไปจากที่นี่คุณคงต้องหาผู้หญิงคนใหม่มาทำหน้าที่แทนฉันแล้วล่ะ”

“ได้ยังไง เราตกลงกันแล้วว่า เราจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และจะต้องช่วยกันจนถึงที่สุด อะไรกัน แค่นี้ก็ท้อแล้ว” สร้อยเถียงว่าตนไม่ได้ท้อ แต่ดูจากสายตาเขาก็รู้ว่าเขาไม่เชื่อว่าตนจะทำได้

“มองตาฉันใหม่ ใช่...ฉันเป็นห่วงเธอ ฉันกลัวเธอจะทำไม่ได้ ฉันรู้ว่าคนอย่างสร้อยฟ้าจะต้องสู้ถึงที่สุด ไม่มีวันยอมแพ้อะไรง่ายๆจำไว้นะ ไม่ว่าเธอจะเจอเรื่องยากลำบากแค่ไหน เธอจะมีฉันยืนอยู่ข้างๆเธอเสมอ” พูดจบก็คว้าสร้อยไปกอดเอาดื้อๆ สร้อยโวยวายก็อ้างหน้าตาเฉยว่า “ฉันอยากให้กำลังใจเธอ” ถูกสร้อยตุ๊ยท้องเสียตัวงอเลยต้องปล่อย

ooooooo

เช้าวันใหม่ ย่าอ่อนเริ่มแผนการทดสอบสร้อยว่าจะผ่านเป็นสะใภ้จุฑาเทพได้หรือไม่ มาที่ครัวถามสร้อยว่าทำอะไรเป็นบ้าง

สร้อยแกล้งกวนประสาทว่าพอทำได้สองสามอย่าง เช่น แกงอ่อมเขียด แย้ย่าง คั่วแมงสะดิ้ง ต้มงูสิง แต่ที่ง่ายที่สุดเห็นจะเป็นหนังควายเค็ม

“โอ๊ย...ฉันอยากจะเป็นลม ขออาหารที่คนปกติทั่วไปกินน่ะมีไหม” ย่าอ่อนทำท่าอ่อนใจเต็มที จันทาดูออกว่าสร้อยแกล้งย่าอ่อนจึงเรียกเตือน สร้อยเปลี่ยนเป็นบอกว่า ตนทำข้าวต้มมัดเป็น อวดว่าทำอร่อยด้วย คุณชายชอบกิน ทำให้ทีไรกินหมดทุกที

“งั้นก็ลองทำข้าวต้มมัดแสนอร่อยให้ฉันชิมหน่อย จะดูซิว่า จะอร่อยแค่ไหน สมราคาคุยหรือเปล่า”

ชายเล็กกลืนน้ำลายฝืดคอเพราะเคยกินข้าวต้มมัดของสร้อยมาแล้วต้องกล้ำกลืนแทบแย่ ส่วนจันทารู้ว่าอะไรเป็นอะไร บอกสร้อยว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวตนช่วย ย่าอ่อนเกิดหูดีได้ยินเลยสั่งห้ามใครช่วย บอกแจ๋วให้คอยจับตาดูให้ดีด้วย

“ต้องแช่ข้าวเหนียวก่อน...แล้วก็ต้มกะทิ...” สร้อยทบทวนวิธีทำข้าวต้มมัดท่าทางสบายๆแต่ชายเล็กดูแล้วหนักใจแทน

ooooooo

เป็นวันที่ดารณีนุชกับศินีนุชจะไปวังจุฑาเทพ กัน อนุพันธ์เห็นเข้าถามว่าจะไปไหน ดารณีนุชบอกให้ศินีนุชไปรอที่รถก่อน พออนุพันธ์รู้ว่าสองแม่ลูกจะไปไหนก็ตำหนิว่า

“ไม่มีผู้ชายในโลกนี้เหลือแล้วรึไง ถึงต้องส่งลูกสาวไปแย่งสามีคนอื่น!” ดารณีนุชบอกว่ามี แต่ไม่มีใครเหมาะสมกับลูกเราเท่าชายเล็ก ตอนนี้ผู้หญิงทุกคนก็อยากเป็นสะใภ้จุฑาเทพทั้งนั้น ย้อนถามว่า “เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้คุณชายเล็กหลุดมือไป”

“ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุณถึงอยากได้คุณชายเล็กเป็นลูกเขยนัก พี่เทวพันธ์พยายามยัดเยียดลูกสาวให้แต่งงานกับทางจุฑาเทพเพราะเขาต้องการเงินมา กอบกู้ฐานะ แต่คุณ...คุณหญิงดารณีนุช คุณมีทุกอย่าง ลูกเราก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร เราจะเลือกลูกชายบ้านไหนก็ได้ ทำไมต้องเป็นคุณชายรัชชานนท์ด้วย”

“ก็เพราะคุณน่ะสิคะ ยิ่งคุณห้าม ฉันก็ยิ่งทำ ฉันจะต้องชนะคุณ ฉันจะทำให้คุณได้รู้ว่า คนอย่างฉัน อยากได้อะไรแล้วต้องได้ ไม่เคยพบกับคำว่า “ผิดหวัง” ถึงคราวที่คุณจะต้องไม่ได้ดังใจบ้างล่ะ คุณชายอนุพันธ์!”

ดารณีนุชจิกตาไปที่นาฬิกาพกของอนุพันธ์ก่อนเดินปึงปังไป อนุพันธ์หยิบนาฬิกาพกที่มีรูปส่องดาวมาถือไว้เหมือนเป็นกำลังใจที่เหลืออยู่ในตอนนี้...

ooooooo

ดารณีนุชพาศินีนุชไปที่วังจุฑาเทพ ดารณีนุชบอกย่าอ่อนว่าตนจะขอวางศักดิ์ศรีเกียรติยศของลูกผู้หญิงไว้ก่อนเพื่อช่วยชายเล็กให้พ้นจากสร้อยฟ้า

หม่อมเอียดติงว่าศินีนุชเทียวไปเทียวมาอย่างนี้ หากข่าวชายเล็กแต่งงานแล้วเล็ดลอดออกไปกลัวเธอจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ดารณีนุชจึงเสนอว่าให้อ้างว่ามาเรียนการบ้านการเรือนกับย่าอ่อนก็ได้ ย่าอ่อนจึงให้แข่งทำข้าวต้มมัดกับสร้อยเสียเลยแต่ก็ยังลำเอียงห้ามใครช่วยสร้อยแต่ศินีนุชมีคนช่วยได้เพราะรู้ตัวกะทันหัน

ศินีนุชเก้ๆกังๆเพราะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่พอเห็นสายตาของทุกคนที่จับจ้องอยู่ก็ฝืนใจทำ

ชายเล็กหนักใจ บอกจ่อยกับจันทาว่า ขนาดต้มกาแฟสร้อยยังต้มเสียเค็มปี๋ แต่ตนได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้วไม่ต้องห่วงสั่งให้เริ่มลงมือกันได้เลย
พอเริ่มลงมือ สร้อยทำอย่างคล่องแคล่ว ศินีนุชกรีดกรายจับเครื่องครัวอย่างหยิบหย่ง ดารณีนุชเห็นท่าไม่ได้การคิดหาทางช่วย พอคิดออกก็เข้าไปกระซิบอะไรกับศินีนุชแล้วแวบออกไปจากครัว

ทั้งสองทำตามขั้นตอน จนกระทั่งถึงตอนห่อ สร้อยบรรจงห่ออย่างสวยงาม ส่วนของศินีนุชห่อบิดๆเบี้ยวๆ

เมื่อทำเสร็จจัดขั้นโต๊ะเป็นสองจานเพื่อให้หม่อมเอียดกับย่าอ่อนชิมตัดสิน สร้อยมองห่อข้าวต้มมัดในจานอย่างแปลกใจ นับเบาๆ “3-4-5-6 เป็นหยังถึงหกห่อ?”

หม่อมเอียดตัดสินใจจะชิมของสร้อยก่อน แต่ขณะกำลังจะตักกิน สร้อยร้องขึ้นว่า

“เดี๋ยว อย่าเพิ่งกินค่ะ มีคนเล่นกลโกงในการแข่งขันครั้งนี้” หม่อมเอียดถามว่าใครโกง “ดิฉันเองค่ะ ดิฉันเป็นคนที่โกงการแข่งขันครั้งนี้” พูดแล้วหันจ้องหน้าชายเล็ก ทำเอาชายเล็กสะดุ้งเพราะไม่ทันตั้งตัว งงๆไม่รู้ว่าสร้อยรู้ได้ยังไง!

ooooooo

สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายรัชชานนท์

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด