ตอนที่ 15
“พี่บี๋!!?? พี่บี๋ไปทำอะไรมาคะเนี่ย”
“คือพี่มีเรื่องสำคัญต้องมาหาน้องชิโล แต่ระหว่างทางเกิดแอ็กซิเดนต์นิดหน่อย น้องชิโลพอมีเวลาฟังพี่ได้มั้ย”
“ไว้พรุ่งนี้ได้ไหมคะ พอดีชิโลติดธุระสำคัญเหมือนกัน”
“ธุระอะไรเหรอครับ” ชโลธรชะงัก อึกอักพูดไม่ออก หมอภัชเลยเร่งเร้า “ธุระของพี่สำคัญแล้วก็ด่วนมากจริงๆนะครับ พี่ว่าน้องชิโลควรต้องรู้เดี๋ยวนี้”
ชโลธรยอมไปบ้านป้านวลพร้อมหมอภัช เมื่อทั้งคู่ได้ฟังความลับที่เขาได้ยินนลินีพูดโทรศัพท์ก็ตกใจไปด้วยกัน ชโลธรข้องใจถามป้านวลว่า
“มันยังไงกันแน่คะป้า คุณพ่อกับคุณแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไม่ใช่เหรอคะ”
“ค่ะ อุบัติเหตุรถพลิกคว่ำระหว่างทางกลับจากไปเจรจาคนงานประท้วงที่โรงงาน”
“ถ้ามันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ แล้วที่พี่บี๋ได้ยินมามันหมายความว่ายังไงล่ะคะ”
“ป้าก็ไม่ทราบค่ะ 20 กว่าปีที่ผ่านมาป้าก็รู้เท่ากับที่คุณหนูทราบค่ะ”
“งั้นถ้าจะรู้ความจริง ชิโลก็ต้องไปบังคับให้พี่โมพูดออกมาให้หมด ชิโลจะไปจัดการเอง”
“เดี๋ยวครับ ใจเย็นๆก่อน พี่ว่าไม่ควรทำอย่างนั้น”
“พี่บี๋...เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังจะให้ใจเย็นได้อีกเหรอ”
“แต่ป้าเห็นด้วยนะคะ คุณหนูไปบังคับให้คุณโมพูดอะไรตอนนี้ ยังไงคุณโมก็ต้องไม่ยอมรับแน่นอน”
“ครับ...แล้วที่สำคัญจะยิ่งทำให้พวกนั้นรู้ตัวด้วยว่าเรารู้ความลับของพวกเขาแล้ว”
“คุณหนูคะ ถ้านี่คือเรื่องจริง แล้วเราช่วยกันหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้ มันจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ใช้เล่นงานพวกนั้นให้สาสมกับที่ทำลายชีวิตคุณหนูกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ”
“ก็ได้ค่ะป้านวล ถ้าชิโลสืบรู้ว่าพวกนั้นวางแผนฆ่าพ่อแม่ชิโลจริงๆ ชิโลเอาคืนอย่างตาต่อตาฟันต่อฟันแน่ แต่เรื่องนี้ชิโลขอร้องอย่าให้คนอื่นรู้เด็ดขาดโดยเฉพาะนายพล”
ป้านวลกับหมอภัชพยักหน้ารับเพราะเข้าใจเหตุผลของเธอ
ooooooo
ทศพลนอนหลับบนเตียงโดยมีชโลธรนอนกอด ...เธอมองใบหน้ายามหลับของเขาด้วยความรักและรู้สึกผิด เมื่อเขารู้สึกตัวเธอก็กระชับกอด พูดเสียงอ่อนว่า
“ตื่นแล้วเหรอ นอนต่อก็ได้นะ เพิ่งจะเช้าเอง”
“คุณหนูกลับเข้าห้องมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ดึกแล้ว มาถึงก็เห็นนายหลับคร่อกน้ำลายยืดเลยไม่อยากปลุก บอกให้รอไม่ใช่เหรอ”
“โธ่...ก็คุณให้ผมรอซะนานเลยนี่ครับ”
“โทษทีนะ ฉันตื่นเต้น นี่จะเป็นครั้งแรกของฉัน ฉันกลัวมากไปหน่อยก็เลยหายไปทำใจอยู่นาน”
“หมายความว่าตอนนี้ก็พร้อมแล้วเหรอครับ”
“อืม...ก็รอให้ตื่นอยู่นี่แหละ”
“จริงเหรอครับ มีต่อเวลาพิเศษให้ช่วงเช้าด้วย”
“ไม่ต้องพูดได้มั้ย ฉันเขินเป็นนะ”
“งั้นผมรีบเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเขินกันอีก”