ตอนที่ 23
เรือนแก้ว ลูกสาวท้าววงษาเข้ามาอยู่ในคุ้มหลวงและได้เสียกับม่านฟ้า ในขณะที่ปิ่นมณีครรภ์แก่มากขึ้น เมื่อความลับเปิดเผยทำให้ปิ่นมณีอาละวาดจะทำร้ายเรือนแก้ว แต่ตัวเองเสียหลักล้มลงและต้องคลอดก่อนเวลาอันควร
ม่านฟ้าดีใจที่ได้ลูกสาว ตั้งชื่อว่าม่านแก้ว ปิ่นมณีพอใจแต่ยังระแวงในตัวม่านฟ้า กลัวจะไปหาเรือนแก้ว แล้วพาลพาโลมาต่อว่าเรณุมาศว่าคงสะใจที่ม่านฟ้ามี
เรือนแก้วอีกคน เพราะริษยาอาฆาตตน และบอกให้รู้ด้วยว่าตนยอมให้ม่านฟ้ามีเรณุมาศคนเดียวก็จะบ้าตายอยู่แล้ว รอให้ลูกของตนโตอีกสักนิด เรือนแก้วไม่รอดแน่
คืนนั้นทหารที่ถูกส่งไปค้นหาเสกขรกลับเข้าเมืองพร้อมอนัญทิพย์และพวกท้าววงษา ปิ่นมณีดีใจแม่ตนกลับมา หวังให้แม่ช่วยเล่นงานเรือนแก้ว แต่บัวไหล บอกว่ากลัวเจ้าหลวงจะลงโทษเจ้านางอนัญทิพย์ เพราะเสกขรไม่ได้กลับมาด้วย ปิ่นมณีไม่กลัวสักนิด เพราะเชื่อว่าตนเองมีอำนาจเหนือกว่าม่านฟ้า
อนัญทิพย์เข้าใจว่าเสกขรตายแน่แล้วจึงปั้นเรื่องว่านางเป็นไข้ป่าตาย สำเภางามและทุกคนโกรธมาก
ทองพญาเพิ่งเลิกบวชชีพราหมณ์ออกมาจึงว่าความให้แม่ในฐานะพระนางหน่อเจ้าหลวง แต่ปิ่นมณีแสดงบทบาทเหนือเจ้าหลวงม่านฟ้า สั่งปลดทองพญาและตั้งเรณุมาศขึ้นมาแทน หากผู้ใดคัดค้านถือว่าเป็นขบถศึก
การกระทำของปิ่นมณีทำให้อนัญทิพย์รอดพ้นจากการถูกประหารชีวิต เมื่อเผชิญหน้ากันขณะออกมาที่หน้าหอคำ สำเภางามกล่าวอาฆาตอนัญทิพย์
“มีลูกกตัญญูก็ดีนะ ช่วยแม่ให้พ้นจากผิดอาญาตามกฎมณเฑียรบาล แต่อย่าหมายว่าจะหนีกฎแห่งกรรมพ้น”
“พระพันปีมีอคติกับข้า จึงไม่เชื่อว่าข้าพูดจริง วิญญาณของเสกขรเท่านั้นที่จะรู้ว่าข้าทำดีที่สุดแล้ว”
ทุกคนมองอนัญทิพย์อย่างไม่เชื่อ แม้แต่เมืองคุ้มก็พูดอย่างหมดใจกับนางแล้ว
“แผ่นดินเมืองทิพย์ศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่เจ้ากับลูกของเจ้าเอามาขยี้และเหยียบเล่น รู้ไว้ด้วยเจ้าทิพย์ เสกขรไม่เคยตายไปจากหัวใจคนเมืองทิพย์ โดยเฉพาะข้า ส่วนเจ้า...ตายจากข้าไปนานแล้ว”
อนัญทิพย์ตกใจและสะเทือนใจ กลั้นน้ำตาเดินจากไปอย่างทะนง
ทองพญาเสียใจมากเรื่องเสกขร บอกเมืองคุ้มว่าเราต้องไปหาศพเจ้าแม่ให้พบ แต่สำเภางามเชื่อว่าเสกขรยังไม่ตาย แต่ไม่รู้ว่าอนัญทิพย์เอานางไปซ่อนไว้ที่ใด
ม่านฟ้าไม่พอใจปิ่นมณีที่แสดงอำนาจข้ามหน้าข้ามตาตนต่อหน้าทุกคนในหอคำ
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะลุแก่โทสะเยี่ยงนี้ นับวันก็ทำให้ผู้คนเขาชังน้ำหน้า เยี่ยงนี้แล้วจะปกครองให้คนเชื่อฟังได้รึ”
“ไยเจ้าพี่ต้องทรงกังวล เราคือผู้ปกครองสูงสุดของเมืองทิพย์ ผู้ใดที่มันตั้งตัวเป็นศัตรูของเรา ก็ไม่ต้องไว้มัน”
“เจ้าพี่...ทำเช่นนี้แล้วเมื่อใดเมืองทิพย์จะสงบสุข”
“เจ้ายังคิดถึงความสุขอีกหรือเรณุมาศ พวกดั้งขอมันจะเอาปืนไฟมายึดเมืองเราเมื่อใดก็ได้ ป่าไม้ก็ถูกมันโค่นจนแทบจะหมด สถานีการค้าริมน้ำมันก็ยึดไปเป็นของมัน ส่วยสาอากรที่เคยเก็บได้จากพ่อค้าทางเรือก็เหลือน้อยเต็มที”
“แต่เจ้าก็ยังจะทำให้แผ่นดินมันทรุดลงไปอีก ข้าผิดหวังในตัวเจ้ามากปิ่นมณี” ม่านฟ้าทิ้งท้ายแล้วจากไปด้วยท่าทีเย็นชา
ooooooo
นายฮาสกลับมาเมืองทิพย์อีกครั้งพร้อมทหารดั้งขอที่มีอาวุธปืนไฟครบมือ เขายื่นข้อเสนอให้เมืองทิพย์ชดใช้เงินตราแทนสถานีการค้าและค่ายเก็บทรัพย์สินในป่าที่ถูกไฟไหม้ ม่านฟ้าปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่นายฮาสขู่ว่าจะทำสงครามถล่มเมืองทิพย์ไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก
ทุกคนรู้ว่าเมืองทิพย์เป็นรองพวกดั้งขอจึงไม่กล้าแข็งขืน ปิ่นมณีกลุ้มใจมากจนไม่มีกะจิตกะใจเลี้ยงลูก เรณุมาศจึงเอาม่านแก้วมาเลี้ยงเอง เหตุนี้ทำให้ม่านฟ้าถือโอกาสมาหาเรณุมาศบ่อยๆ
ตองนวลต้อนรับนายฮาสที่คุ้มของตนด้วยความยินดี ฟังเขาเล่าว่าเจ้าหลวงเมืองทิพย์ไม่กล้าแข็งข้อกับพวกดั้งขอแล้วรู้สึกสะใจ
“ต่อให้เจ้าหลวงเมืองทิพย์แข็งข้อกับดั้งขอเพียงใด ก็มิอาจต้านปืนไฟดั้งขอได้ดอก อย่าลืมว่าเมืองที่เคยเป็นประเทศราชรอบๆเมืองทิพย์ดั้งขอเข้าควบคุมหมดแล้ว เหลือเพียงเมืองท่าคอยเพียงเมืองเดียวเท่านั้น”
“แล้วเมืองมีดเล่า...ตองแปงลูกข้า อ่อนน้อมต่อนายฮาสดีหรือไม่”
“ตองแปงลูกของเจ้านางน่ะรึ ข้าได้ข่าวว่าเจ้าหลวงเมืองมีดหาได้ชื่อตองแปงไม่”
“ไม่จริง ท่านล้อข้าเล่นใช่หรือไม่ ก็ข้าส่งตองแปง ไปเมืองมีดพร้อมท่าน ทหารดั้งขอก็ตามไปอารักขาข้าไม่ชอบให้ท่านล้อข้าเยี่ยงนี้ ชีวิตข้ามีตองแปงผู้เดียวที่สำคัญที่สุด”
“ฟังดีๆนะเจ้านาง...คืนนั้นค่ายเก็บทรัพย์สินกลางป่าของข้าถูกเผา ทำให้ข้าต้องแยกกับตองแปง จนบัดนี้ข้ายังไม่ได้ไปเมืองมีดเลย เพราะมัวแต่ไปเก็บภาษีตามสถานีการค้าริมน้ำ”
“ไม่จริง! แล้วลูกข้า...ลูกข้าอยู่ที่ใด”
ตองนวลกรีดร้องจนเป็นลม เฟืองพาเข้าห้องเยียวยาครู่หนึ่งถึงรู้สึกตัว แต่ยังร่ำไห้วิตกกังวลในชะตากรรมของลูกชายคนเดียว
“อีเฟือง มึงไปที่หอนกพิราบ ส่งสารไปยังเมืองมีด บอกว่าเมืองทิพย์รู้ความจริงหมดแล้ว หากไม่ส่งตองแปงมา เมืองทิพย์กับดั้งขอจะบดขยี้เมืองมีดให้พินาศ”
“แต่เจ้าหลวงยังไม่มีพระราชบัญชานี่เจ้าคะ แล้วอีกอย่างเมืองมีดก็เป็นเมืองของเจ้านาง”
“อีเฟือง มึงจำใส่หัวไว้ กูเป็นเมียนายฮาส ต่อไปเมืองทิพย์ก็ต้องเป็นของดั้งขอ กูก็ต้องเป็นพระมหาเทวีเจ้า เยี่ยงนี้แล้วยังจะมีผู้ใดในเมืองทิพย์ใหญ่เกินกู แล้วหากกูเป็นใหญ่ที่เมืองทิพย์ กูจะสำมะหาอันใดกับเมืองเล็กๆเยี่ยงเมืองมีด”
เฟืองฟังแล้วหน้าเสีย รับคำเสียงอ่อย
ooooooo
ปิ่นมณีไปรู้เห็นว่าม่านฟ้าขลุกอยู่กับเรณุมาศก็อาละวาดตบตีน้อง บัวไหลห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง จนกระทั่งอนัญทิพย์เข้ามาเห็นความร้ายกาจของปิ่นมณีจึงกำราบอย่างดุดัน
“อย่าให้แม่รู้ว่าเจ้าทำร้ายน้องอีก นอกจากผัวจะไม่ให้อภัยเจ้าแล้ว แม่ก็จะไม่ให้อภัยเจ้าด้วย”
“เจ้าแม่...วันนี้เจ้าแม่เป็นอันใดไป ที่ข้าช่วยเจ้าแม่ให้รอดพ้นจากที่อีทองพญามันจะจำตรุเจ้าแม่...เจ้าแม่ไม่เห็นความดีของข้าเลยรึ”
“ไม่ช่วยแม่แล้วเจ้าจะช่วยผู้ใด แต่ยามนี้เจ้าเอาปัญญาและอำนาจไปต่อสู้กับพวกไอ้ดั้งขอดีกว่า แม่บอกตรงๆว่าแม่เป็นห่วงเมืองทิพย์จะต้องเป็นเมืองขึ้นของพวกมัน...ออกไปให้หมด แม่มีการสำคัญที่จะต้องพูดกับเจ้าหลวง”
ปิ่นมณี เรณุมาศ และบัวไหลพากันออกไป คงเหลือแต่อนัญทิพย์กับม่านฟ้าเพียงสองคน ม่านฟ้าคาใจคำพูดอนัญทิพย์ที่บอกว่าเป็นห่วงเมืองทิพย์ อยากรู้ว่าเป็นความสัตย์จริงหรือไม่
“ทรงลืมแล้วหรือม่านฟ้า เมืองทิพย์เป็นเมืองของข้ามาก่อน แล้วข้าก็เป็นคนที่ทำให้เจ้าได้เป็นเจ้าหลวง หาควรพูดกับข้าเยี่ยงนี้ไม่”
ม่านฟ้าหงุดหงิดแต่สะกดอารมณ์ไว้ “ถ้าเช่นนั้นเจ้านางก็รับสั่งมาเถิดว่าต้องการให้ข้าทำการอันใด”
“ประกาศสงครามกับไอ้พวกดั้งขอ เกณฑ์พลจากเมืองประเทศราชทั้งปวง แม้กระทั่งเมืองท่าคอยของพ่อแม่เจ้าหลวงด้วย สักแสนคน พวกมันคงไม่มีกระสุนปืนไฟพอที่จะฆ่าคนแสนคนได้ดอก”
“เจ้านางจะเอาชีวิตคนมาต่อรองกับแผ่นดินอย่างนั้นรึ”
“หากไม่ตายเพื่อแผ่นดินแล้วจะตายเพื่อผู้ใด ทรงตรากฎมณเฑียรบาลประกาศว่าผู้ใดไม่ยอมให้เกณฑ์พลไปต่อตีกับดั้งขอ ก็ต้องประหารชีวิตเท่านั้น”
อนัญทิพย์กดดันทำให้ม่านฟ้าหนักใจ เกรงว่าจะมีคนตายเหมือนใบไม้ร่วง
ooooooo
เมืองคุ้มและทองพญายังตกอยู่ในภาวะโศกเศร้า แม้ม่านฟ้าจะส่งคนไปค้นหาเสกขรแล้วแต่ยังไร้วี่แวว ส่วนสำเภางามนั้นเชื่อมั่นแต่แรกว่าเสกขรยังไม่ตาย ริมบึงก็คิดเช่นเดียวกัน จึงเฝ้ารออย่างมีความหวัง
เฟืองไปที่หอนกตามคำสั่งตองนวล แต่มีข้าไทของสำเภางามเห็นเข้า เมืองคุ้มจึงสั่งทหารจับเฟืองมาคาดคั้นว่าตองนวลต้องการส่งสารไปที่ใด ตอนแรกเฟืองปากแข็งไม่ยอมบอก แต่พอสำเภางามจะให้ทหารเอาไปตัดลิ้น เฟืองก็เผยความจริงออกมา
ooooooo
ครั้นกลับมาหาตองนวล เฟืองก็ทำตามคำสั่งของริมบึง ไม่ยอมบอกว่าตนเองได้พูดความจริงไปแล้วกับพวกสำเภางาม บอกแต่ว่างานที่สั่งให้ทำเรียบร้อยดี
สำเภางามร้อนใจ เชื่อว่าเฟืองพูดจริง ตองนวลกำลังคิดการใหญ่อย่างที่ตนหวั่นใจ เมืองคุ้มจึงสั่งแสงตาไปสอดแนมที่เมืองมีด ได้ความอย่างไรให้รีบมาบอก...
เครือออนกับทองพญาต่างคิดถึงสามีของตน สองคนปรับทุกข์กันในคืนหนึ่งอย่างเศร้าหมอง
“หารู้ไม่ว่าชะตากรรมเจ้าพี่คะนองเป็นอย่างใด ไหนจะเจ้าปะแดงลูกข้าอีก”
“เจ้าอา...หาใช่เจ้าอาเพียงผู้เดียว ผัวข้าก็หายไป หาได้ข่าวไม่”
พูดแล้วทองพญากลั้นน้ำตาไม่อยู่ คิดถึงครองภพจับใจ เครือออนดึงนางมากอดปลอบ ทั้งที่ความรู้สึกตัวเองก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน
ooooooo