ตอนที่ 9
กิจการบ่อนของลำยองดีวันดีคืนเพราะเจ้าของบริการแขกขาไพ่อย่างดี วันเฉลิมหัวหมุนเพราะต้องวิ่งซื้อข้าวผัดกับโอเลี้ยงทั้งวันแลกกับเงินค่าเดินไม่กี่บาท แต่ถึงกระนั้นเด็กชายก็ไม่ปริปากบ่นเพราะไม่อยากให้แม่อารมณ์เสียและพาลลงกับคนอื่น วิมลเฝ้าดูห่างๆ ด้วยความเป็นห่วงและอยากช่วยให้เขาผ่อนคลายบ้าง
“คุณแม่หนูสมเขาซื้อของเล่นมาให้ พ่อวันไปเล่นกับน้องที่บ้านยายไหมล่ะลูก”
“วันไปไม่ได้หรอกครับ วันต้องคอยช่วยงานแม่”
วันเฉลิมกลับบ้านเย็นวันเดียวกัน ลำยองรออยู่แล้ว ด้วยความหงุดหงิดเพราะไม่มีคนรองมือรองเท้าตลอดวัน เด็กชายรับฟังคำบ่นของแม่อย่างใจเย็นเพราะเคยชิน ลำยองได้ใจเลยใช้งานใหญ่เพราะขี้เกียจเต็มที
วันเฉลิมรวบจานชามที่ชาวบ่อนกินทิ้งไว้แล้วเดินเข้าครัว เห็นข้าวสารในถังเหลือไม่ถึงหยิบมือเลยขออนุญาตแม่ออกไปซื้อ แต่ลำยองไม่ให้ไปเพราะกลัวไม่มีคนให้ใช้ วันเฉลิมหน้าเสีย เป็นห่วงอ้อยและท้องตัวเองที่ร้องโครกคราก สุดท้ายเลยต้องคว้าเอาจานอาหารที่เหลือจากชาวบ่อนมาป้อนน้องสลับกับตัวเอง
“วันนี้พี่ไม่มีน้ำข้าวให้น้องอ้อยกินหรอกนะ กินนี่แทนแล้วกัน พรุ่งนี้ถึงจะมีเงินไปซื้อข้าวสาร”
วันเฉลิมเข้านอนด้วยความหดหู่ สภาพความเป็นอยู่ในบ้านและสุขภาพของอ้อยทำให้เด็กชายคิดหนัก แต่เพราะเป็นเด็กกำลังใจทำให้ปล่อยวางง่ายและดำเนินชีวิตต่อด้วยความเข้าใจ แต่ปัญหาใหม่ก็เดินมาหาถึงบ้านเมื่อมีชายแปลกหน้าท่าทางไม่น่าไว้ใจมาขอเช่าห้องของลำยองในเช้าวันรุ่งขึ้น
วันเฉลิมไม่ชอบหน้าผู้เช่าคนใหม่นัก แต่ลำยองกลับประทับใจในความหล่อจนลดค่าเช่าให้จากเดือนละสี่ร้อยเป็นสามร้อยบาท ยิ่งรู้ว่าเป็นคนขับรถรับจ้างยิ่งถูกใจเพราะหวังได้ไหว้วานขอติดรถบ้าง วันเฉลิมได้แต่มองท่าทางแม่ด้วยความปลงแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัวแม่อารมณ์เสีย แต่ความตั้งใจของเด็กชายก็พังครืนเมื่อเห็นแม่แต่งตัวล่อแหลมไปเคาะประตูห้องผู้เช่ารายล่าสุดตอนดึกคืนเดียวกันนั้น
“ห้องอยู่สบายไหมจ๊ะ” เจ้าของห้องบอกว่าร้อนและอยากได้พัดลม “ร้อนเหรอ...เปิดหน้าต่างหรือเปล่าล่ะจ๊ะ”
ขาดคำสาวขี้เมาก็มุดเข้าห้องเช่าและปิดประตูตามเงียบๆ วันเฉลิมได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยใจในพฤติกรรมของแม่ รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นในห้องแต่คงห้ามไม่ไหว สุดท้ายเลยเดินไปชงนมและป้อนให้อ้อยจนผล็อยหลับไปพร้อมกัน...สุดแท้แต่เวรแต่กรรมแล้วกัน ขอให้แม่คิดได้สักวันเถอะ
ooooooo
วันเฉลิมตื่นเช้าอย่างไม่สดชื่นนักเพราะกังวลเรื่องแม่เกือบทั้งคืน ยิ่งเห็นชาวบ่อนมือบอนขโมยเครื่องบินของเล่นที่สันต์เคยซื้อให้มาร่อนไปมาด้วยความรุนแรงยิ่งใจเสีย
“อาครับ...เครื่องบินนั่นของวัน ขอคืนเถอะครับ พ่อซื้อให้วันตั้งนานแล้ว” ขาไพ่โวยว่าขอเล่นด้วยไม่ได้หรือไง วันเฉลิมหน้าเสียแล้วตอบเสียงอ่อย “เล่นได้ครับ แต่อาต้องเล่นเบาๆนะครับ เดี๋ยวพัง”
ชาวบ่อนมองมาด้วยสายตายียวนแล้วแกล้งโยนคืน เครื่องบินร่วงตกพื้นและแตกจนแทบหาชิ้นดีไม่ได้ วันเฉลิมหน้าซีดแล้วค่อยๆเก็บชิ้นส่วนขึ้นมา น้ำตาไหลพรากด้วยความเสียดายสุดใจ เมื่อรวบรวมสติได้จึงพยายามซ่อมตามมีตามเกิดแต่ยังไม่เหมือนเดิมนัก ลำยองมาตามลูกไปซื้อของเห็นสภาพหน้าตาเลอะน้ำตาก็แปลกใจแต่ความหงุดหงิดที่ไม่มีคนรองมือรองตีนมีมากกว่าเลยตวาดลูกลั่น
“กูเรียกคอแทบแตก มามุดหัวอยู่นี่เอง ไม่เคยช่วยทำมาหากิน กูเหนื่อยสายตัวแทบขาด มึงร้องไห้ทำไม”
วันเฉลิมยื่นซากเครื่องบินให้แม่ดู ลำยองไม่รอฟังใดๆและคว้าเครื่องบินของลูกมาปาทิ้งเพราะจำได้ว่าสันต์เป็นคนซื้อให้ แถมฟาดไม่ยั้ง “แค่นี้มึงสำออยบีบน้ำตาหรือ แค่ไอ้ของเล่นกระจอกๆ จะเป็นจะตายให้ได้เลยใช่ไหมไอ้วัน” ขาดคำก็กระทืบซากเครื่องบินจนไม่เหลือชิ้นดี “ลูกค้าเต็มบ้าน มึงไม่คิดจะออกไปช่วยกู มึงนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ ออกไปซื้อโอเลี้ยงกับข้าวผัดให้แขกเดี๋ยวนี้เลย”
วันเฉลิมกล้ำกลืนทำงานให้แม่ด้วยกำลังใจลดน้อยเต็มที เมื่อได้ไปถูพื้นกุฏิให้หลวงลุงปิ่นในวันถัดมาเลยถือโอกาสปรับทุกข์ด้วยเหมือนเคย หลวงลุงส่ายหน้าปลงสังเวชและบอกให้อยู่ด้วยกันที่นี่ แต่วันเฉลิมไม่กล้ารับปากเพราะเป็นห่วงแม่ หลวงลุงเข้าใจดีแต่อยากให้เด็กชายเป็นห่วงสุขภาพใจและกายของตัวเองด้วย
“คนที่มันเมามัวกับผีพนันผีอบายมุขน่ะ มันจะไปอารมณ์ดีมีความสุขอย่างคนอื่นได้ยังไงไอ้วัน”
วันเฉลิมหน้าเสีย หลวงลุงเวทนาและบอกให้ลำยองมาด่าถึงวัดได้เลยถ้าไม่พอใจเรื่องเด็กชายจะมาอยู่วัด
“วันว่าเวลาที่วันมีความสุขที่สุดมีอยู่สองเวลาครับ... เวลาอยู่โรงเรียนกับเวลาอยู่กับหลวงลุงที่นี่ครับ”
หลวงลุงยิ้มเมตตา ปลื้มใจไม่น้อยที่ลูกศิษย์ตัวน้อยใฝ่ดีและมีใจเปี่ยมสุขเมื่ออยู่ใกล้พระธรรม ส่วนวันเฉลิมก้มหน้าก้มตาถูพื้นจนเสร็จและนั่งทำการบ้านเงียบๆที่มุมหนึ่ง สินแวะมาหาพร้อมห่อพัสดุของฝากจากสันต์ซึ่งข้ามน้ำข้ามทะเลไปฝึกงานที่เมืองนอกแรมเดือนแล้วอดคิดถึงลูกชายคนโตไม่ได้เพราะสายใยที่ตัดกันไม่ขาด
“เสื้อกันหนาว พ่อเอ็งเขาซื้อส่งมาให้จากเมืองนอกเมืองนาเชียวนา”
วันเฉลิมยังไม่หายงง หลวงลุงปิ่นเลยถามแทนเพราะเพิ่งได้ยินเรื่องสันต์ไปเมืองนอกเหมือนกัน
“สองสามเดือนแล้วครับหลวงพี่ มันได้ทุนไปอบรมเพิ่มเติมที่เกาะฮาวายอะไรโน่นแน่ะ”
“ไม่ยักรู้เลยนะเนี่ย ที่มันหายหน้าหายตาไปนานนี่ ที่แท้ก็ไปเมืองนอกหรอกเหรอวะ”
“ไอ้วัน...พ่อเอ็งเขาไปได้ไกลแล้วนะ เอ็งต้องดูพ่อเขาเป็นตัวอย่าง เรียนเก่งๆและตั้งใจทำงานให้ดี”
วันเฉลิมยิ้มรับหน้าบาน หลวงลุงพลอยดีใจไปด้วยเพราะไม่ได้เห็นลูกศิษย์ตัวน้อยร่าเริงแบบนี้มานานแล้ว
“มันหงอยอยู่ตั้งนาน มันคงคิดว่าพ่อมันทิ้งแล้วถึงไม่ยอมมาหาเลย”
วันเฉลิมก้มมองเสื้อยิ้มๆ สินเฝ้ามองด้วยความสงสารและปลอบใจเสียงอ่อน
“เขาไม่ได้ทิ้งเอ็งไปไหนหรอกไอ้วัน ยังนึกถึงเอ็งเสมอ ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งเสื้อตัวนี้มาให้เอ็งหรอก”
สินยื่นจดหมายที่ลูกชายเขียนฝากมาให้หลานด้วย เด็กชายกอดจดหมายและเสื้อกันหนาวแน่นเหมือนจะหาความอบอุ่นจากพ่อที่ขาดหายมานาน...ส่วนลำยองกำลังหัวเสียเพราะหาคนใช้งานไม่ได้ ปานกับแป้งมาป้วนเปี้ยนด้วยทั้งวันแต่ไม่ขยับไปไหนเพราะขี้เกียจพอๆกับพี่สาว เมื่อวันเฉลิมกลับมาลำยองเลยปรี๊ดหนักเพราะต้องเปลืองแรงทำเองตั้งหลายอย่าง แม้ลูกชายจะบอกว่าไปถูกุฏิที่วัดก็ไม่สน
“แทนที่จะรีบกลับมาช่วยซื้อของ กลับเอาหลวงลุงมาอ้าง กูรู้นะ...มึงไปคอยพ่อมึงมาโปรดใช่ไหม เดี๋ยวกูตีเลย”
ลำยองเงื้อมือจะฟาดลูกด้วยความโมโห แต่ตาดันเหลือบไปเห็นถุงกระดาษแปลกตาเลยคว้ามาดู เมื่อรู้ว่าเป็นของขวัญจากแดนไกลที่สันต์ซื้อส่งมาให้ลูกเลยอดแขวะด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้
“โธ่...ไอ้หมาหัวเน่า พ่อมึงมันใจดีกับมึงไปอย่างนั้นเอง มันเห่อเมียใหม่ลูกใหม่มันมากกว่า ยังไงมึงก็ส่วนเกิน”
ลำยองขว้างเสื้อกันหนาวของลูกทิ้งอย่างไม่ไยดีแล้วเดินปึงปังจากไป ทิ้งวันเฉลิมให้มองตามจ๋อยๆแล้วเก็บของเข้าห้องไปดูแลอ้อย แต่ลำยองไม่ปล่อยให้เขาเลี้ยงน้องนานและใช้ไปซื้อของ เด็กชายไม่อยากไปเพราะเป็นห่วงน้องแต่จะไหว้วานคนอื่นก็ไม่ได้เลยจำต้องวางมือและไปตลาดด้วยตัวเอง
ooooooo
วันเฉลิมต้องเดินไปกลับตลาดอีกหลายหนกว่าจะได้นั่งพัก คนขับรถรับจ้างคู่ขาคนล่าสุดของลำยองกลับเข้ามาพอดี ลำยองเลยบอกให้จ่ายค่าเช่าด้วยเพราะครบกำหนดสิ้นเดือนแล้ว ชายหนุ่มรับปากอย่างดีและเดินเข้าห้อง ขาไพ่ได้ยินลำยองก็พากันชื่นชมด้วยความอิจฉาที่มีรายได้เข้ามาไม่ขาดสาย
“ลำยองนี่มันเสือนอนกินนี่หว่า เดือนๆอยู่เฉยๆก็มีคนเอาเงินมาให้”
“เขาเรียกหัวใสโว้ย ทำมาหากินน่ะมันต้องใช้สมองเยอะๆ ไม่งั้นเหนื่อยตาย หลังขดหลังแข็งขายผักขายปลาได้กำไรกี่สิบบาทอย่างอีย่าไอ้วันน่ะ ตายแล้วไปเกิดใหม่ดีกว่าว่ะ”
พูดจบก็เหลือบตาเย้ยๆไปทางวันเฉลิม เด็กชายก้มหน้าจ๋อยแล้วเดินเข้าห้องไปนอนกอดเสื้อกันหนาวของพ่อ หวังสุดใจว่าจะได้รับความรักและความอบอุ่นจริงๆจังๆจากพ่อกับแม่สักวัน
วันเฉลิมตื่นแต่เช้าไปทำกับข้าว ซักและตากผ้าเหมือนเคย คนขับรถรับจ้างไม่ทันเห็นเด็กชายและค่อยๆเดินลัดเลาะออกจากบ้านพร้อมพัดลมที่ลำยองซื้อให้ วันเฉลิมไม่คิดมากเพราะคิดว่าคงออกไปธุระธรรมดา ส่วนลำยองไม่ทันสังเกตว่าผู้เช่าคนโปรดชักดาบ เพราะมัวแต่หงุดหงิดที่คนเข้าบ่อนน้อยกว่าแต่ก่อน ปานซึ่งมาป้วนเปี้ยนแต่เช้าแหย่ขำๆว่าคนคงแห่ไปบ่อนอื่นเพราะมีเปิดใหม่หลายแห่ง ลำยองหัวเสียมากและพาลลงกับลูก
“เพราะมึงนั่นแหละไอ้วัน กูใช้มึงไปซื้อของให้แขก มึงทำอิดๆออดๆทุกที เขาเอือมกันหมด”
วันเฉลิมหน้าเจื่อนเพราะไม่คิดว่าจะโดนลูกหลง ลำยองไม่หยุดและถามถึงคนขับรถรับจ้างว่าเมื่อไหร่จะจ่ายค่าเช่า วันเฉลิมพาซื่อและบอกว่าเห็นออกไปตั้งแต่เช้ามืด ลำยองแทบเป็นลมและพรวดพราดไปดูบนห้อง
“พัดลมกูซื้อให้ มันเอาไปด้วย...ไอ้สารเลว เพราะมึงคนเดียวไอ้วัน...เห็นมันขนของออกไปทำไมไม่รีบปลุกกู”
ลำยองระบายอารมณ์ด้วยการฟาดวันเฉลิมไม่เลี้ยง เด็กชายตกใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กระโดดไปรอบห้องหนีมือแม่ ส่วนลำยองเมื่อหมดแรงเลยไปบ่นที่บ้านแม่ ลำยงฟังแล้วไม่สงสารและไม่อยากปลอบให้พี่สาวได้ใจ
“จะไปโทษดวงได้ยังไงวะ ก็ไอ้ที่พี่ทำมันผิดศีล มันเป็นอบายมุข มันจะหาความเจริญได้ยังไงกัน”
ลำยองโมโหและด่าทอจนทุกคนเอือม สุดท้ายเลยต้องง้อลำดวนให้พาเพื่อนมาบ้าง แต่ลำดวนปฏิเสธแถมพูดจากวนประสาท ลำยองเลยจะเงื้อมือตบน้อง แลห้ามไว้และกล่อมให้เลิกทำบ่อนแต่ลำยองไม่ยอมท่าเดียว
“แม่พูดอะไรเนี่ย...จะให้ฉันเลิกได้ยังไง วันๆเงินเข้าบ้านตั้งเท่าไหร่”
“ข้าว่าเอ็งห่วงเล่นเองซะล่ะมากกว่า” แลรู้ทันลูกสาวคนโต
“ห้องเช่าเอ็งตั้งสี่ห้าห้อง ทำห้องเช่าอย่างเดียวก็พอมั้งนังลำยอง” ปอลองเสนอบ้าง
“ไอ้ที่มีล่าสุดก็เพิ่งย้ายหนีไปเมื่อเช้านี้ ค่าเช่าก็ไม่จ่าย พัดลมฉันมันก็เชิดไปด้วย อุตส่าห์ซื้อให้มัน...ไอ้สารเลว!”
ลำยงปลอบให้ทำใจเพราะคนสมัยนี้ไว้ใจยาก คนอื่นๆคิดเหมือนกันแต่ลำยองก็ไม่ฟัง
“ช่างหัวมันได้ยังไง มันต้องมารับผิดชอบ...เพราะมันทำกูท้อง!”
ทุกคนในบ้านร้องเสียงหลง โดยเฉพาะแล “อีลำยอง... มึงว่าอะไรนะ กูฟังไม่ถนัด”
ooooooo
ข่าวเรื่องลำยองท้องลูกคนที่สี่แพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว แต่วันเฉลิมไม่รู้เรื่องและก้มหน้าก้มตาทำงานงกๆเหมือนเคย แป้งเห็นหลานเลี้ยงน้องโดยไม่ปริปากก็อดเวทนาไม่ได้ แล้วเลยพลั้งปากพูดเรื่องน้องคนที่สี่
“ไอ้วัน...ทำไมมึงไม่คิดเงินแม่วะ ค่าเลี้ยงน้องน่ะ ถ้าคิดมึงคงรวยไปแล้ว ยิ่งอีกหน่อยมึงจะยิ่งเป็นเศรษฐีเพราะแม่มึงจะมีน้องให้เลี้ยงอีกคนแล้วรู้เปล่า พันธุ์ดกมากเลยแม่มึงเนี่ย ถ้าเป็นแม่หมูนะมึงคงขายได้ราคาดีโคตรๆ”
วันเฉลิมอึ้งไปอึดใจแต่ไม่พูดอะไร เด็กชายอุ้มน้องสาวและพาไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านลำยง น้าสาวมองสองหลานด้วยความสงสารและพาลเคืองพี่สาวที่ทำอะไรไม่รู้จักคิด เมื่อแลโผล่หน้ามาเลยถือโอกาสบ่น
“มันถลำลึกลงทุกทีแล้วแม่ ใครจะประคับประคองไหว ตัวเองยังไม่เห็นว่าชีวิตเหมือนอยู่ในขุมนรกขนาดไหน”
“พ่อนังอ้อยนี่ว่าแย่แล้ว ไอ้คนนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เวรกรรมแท้ๆ”
“จะไปโทษเวรกรรมมันก็ไม่ถูกนักหรอกแม่ มันไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเอง”
ปอพลอยเซ็งตามไปด้วยและถามวันเฉลิมว่าเลี้ยงน้องอีกคนไหวไหม เด็กชายรับคำนิ่งๆเพราะยังไงก็เป็นน้อง
วันเวลาผ่านไปหลายเดือน ท้องลำยองโตขึ้นแต่สาวขี้เมายังมีพฤติกรรมและอาชีพเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน สันต์ที่เพิ่งกลับจากดูงานเมืองนอก ได้ยินเรื่องราวจากพ่อแม่แล้วถึงกับพูดไม่ออก โดยเฉพาะเรื่องที่เมียเก่าเปิดบ้านเป็นบ่อน
“มันคงเข้าทางถนัดนั่นแหละ ได้ยินข่าวว่ามันท้องกับผัวใหม่แล้วด้วย ป่านนี้คงท้องแก่แล้วละมัง มันแบ่งห้องให้เช่าด้วย ผัวใหม่มันก็เป็นคนมาเช่าห้องนั่นแหละ ขับรถรับจ้าง” ปั้นเล่า
สันต์เบาใจเพราะคิดว่าคงช่วยทำมาหากิน ปั้นพูดไม่ออกและโบ้ยให้สินพูดแทน
“ผู้ชายมันหนีไปแล้ว ผัวของมันคนนี้ชื่ออะไรมันยังไม่รู้เลย ชาวบ้านเขาขำกันอย่างกับอะไรดี”
“นี่มันอะไรกันครับ ไม่กี่ปีเจ้าวันมีพ่อเลี้ยงสามคนแล้วเหรอ” ปั้นบอกว่ามีน้องสามคนอีกต่างหาก “ใช้ชีวิตอยู่กับบ่อน มีแต่คนมัวเมาอบายมุขอย่างนี้แล้วเจ้าวันมันจะต้องเจอกับอะไรบ้างเนี่ย”
ปั้นกับสินถอนใจเหนื่อยหน่าย ส่วนสันต์รู้สึกผิดมากและคิดว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือวันเฉลิม บ่ายวันเดียวกันเขาจึงมุ่งหน้าไปรอพบลูกชายที่วัด สภาพผอมโซและเสื้อผ้าทั้งเก่าและขาดของลูกทำให้เขาอดสงสารไม่ได้ วันเฉลิมดีใจมากที่พบพ่อ แต่ความน้อยใจกลับถาโถมจนต้องหุบยิ้มและปลีกตัวไปนั่งเงียบๆคนเดียว
หลวงลุงปิ่นเดาว่าเด็กชายคงงอน สันต์เลยตามไปง้อและถามสารทุกข์สุกดิบด้วยความคิดถึง วันเฉลิมถามคำตอบคำจนเขาใจหาย เมื่อเขาชวนมาอยู่ด้วยกันเด็กชายก็ปฏิเสธเพราะเป็นห่วงน้องกับแม่
“ที่บ้านพ่อก็มีน้อง วันก็มีเพื่อนเล่นนี่ลูก จะได้ไม่ต้องอยู่บ่อน ไม่ต้องดูคนเมาเหล้า อยู่กับพ่อ...เพื่อนบ้านพ่อเป็นทหาร เด็กๆลูกนายทหารทั้งนั้น วันจะได้สนุกไม่ต้องรับภาระเลี้ยงน้อง วันจะได้เรียนหนังสือเต็มที่”
วันเฉลิมยืนกรานปฏิเสธ แต่สันต์ไม่ยอมแพ้และคิดจะไปเจรจากับลำยองอีกครั้ง
ooooooo
กว่าวันเฉลิมจะได้กลับบ้านก็หัวค่ำ เสียงเอะอะไปทั่วซอยพร้อมกองทัพไทยมุงทำให้เด็กชายหน้าตื่นและพยายามแทรกตัวไปดูใกล้ๆ บ้านลำยองกำลังอลหม่านเพราะตำรวจเข้าบุกและจับกุมชาวบ่อนหลายคน ลำยองเมาไม่ได้สติและถูกกุมตัวไว้หน้าบ้านในข้อหาเจ้าของ วันเฉลิมหน้าเสียเมื่อเห็นแม่ดิ้นรนและโวยวายเป็นที่น่าเวทนา
ตำรวจสองสามนายพยายามพยุงลำยองไปขึ้นรถ สาวขี้เมาแถมท้องแก่สบถหยาบๆคายๆจนทุกคนเบือนหน้าหนี วันเฉลิมจะไปหาแม่แต่ถูกตำรวจดึงตัวไว้ สุดท้ายเด็กชายเลยต้องวิ่งตามรถตำรวจไปจนถึงโรงพัก
แป้งเห็นเหตุการณ์ตลอดและรีบวิ่งไปแจ้งสมาชิกที่บ้านว่าบ่อนลำยองแตก แลกับลำยงเลยทิ้งงานตรงหน้าและตามไปถึงโรงพักเพื่อขอประกันตัว แต่เมื่อไปถึงกลับต้องอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อได้ยินลำยองโวยวาย
“ปล่อยกูออกไปนะมึง มึงไม่รู้ใช่ไหมว่าผัวกูเป็นใคร เดี๋ยวกูจะให้ผัวกูเล่นงานพวกมึงให้หมดโรงพักเลย”
วันเฉลิมนั่งเกาะลูกกรงร้องไห้อยู่อีกด้าน ปากก็คร่ำครวญเรียกแม่ไม่ขาดปาก แต่ลำยองกลับไม่สนใจ
“มึงไปตามป๊ามึงมาเดี๋ยวนี้ไอ้วัน ไอ้คนพวกนี้ต้องเอาเงินฟาดหัวมันให้หมด”
วันเฉลิมพูดไม่ออก แลทนไม่ไหวเลยจัดการแหวใส่ลูกสาวลั่นโรงพัก
“อีลำยอง...กูเตือนมึงแล้วใช่ไหม มึงไม่เคยฟังกูเลย แล้วดูซิ...ขายขี้หน้าเขาไปทั้งซอย”
วันเฉลิมเห็นยายเลยเข้าไปกอดและขอร้องให้ช่วยแม่ ส่วนลำยงไปสอบถามเจ้าหน้าที่และได้ความว่าต้องส่งฟ้องศาลทุกคนหรือไม่ก็ต้องมีเงินมาประกันตัว วันเฉลิมมีความหวังแต่ลำยงกลับดับมันเสียเพราะไม่มีเงินมากพอ
“ข้าไม่มีเงินหรอกนะไอ้วัน ขายก๋วยเตี๋ยวทั้งเดือนยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของไอ้เงินประกันตัวเลย”
วันเฉลิมหน้าเสียเพราะสงสารแม่ ไม่อยากให้อยู่ในคุกนานเดี๋ยวอดตาย ลำยงกับแลจนปัญญาเพราะไม่มีเงินพอจะประกันตัวลำยอง วันเฉลิมพยายามอ้อนวอนให้ยายช่วยอีกครั้ง แลกำลังหงุดหงิดเลยโพล่งออกไปเคืองๆ
“ปล่อยให้มันอยู่ในนั้นสักพักก็ดี มันจะได้เข็ดขยาด เผื่อจะได้คิดบ้าง”
ขาดคำก็พากันเดินกลับบ้าน ทิ้งวันเฉลิมให้มองตามซึมๆแต่ไม่เสียกำลังใจ เด็กชายกลับไปดูแลน้องที่บ้านและกลับมาหาแม่ใหม่พร้อมกล่องใส่ข้าวและน้ำดื่ม ลำยองยังเมามายและส่งเสียงเอะอะจะกินเหล้าท่าเดียว แต่วันเฉลิมก็ไม่ละความพยายามเอามือสอดเข้าไปในลูกกรงและป้อนข้าวป้อนน้ำได้ในที่สุด
ฝ่ายลำยงเอาข่าวไปแจ้งบ้านสันต์เรื่องบ่อนลำยองแตก พร้อมส่ายหน้าเอือมระอากับพฤติกรรมพี่สาว ปั้นสะใจมากเพราะไม่เคยเห็นดีเห็นงามด้วยอยู่แล้วกับเรื่องการพนัน แถมภาวนาให้อดีตลูกสะใภ้เข็ดหลาบเสียบ้าง
“ไอ้คนพวกนี้มันทำมาหากินไม่เป็น หวังแต่จะได้โชคลาภจากการพนัน”
ปั้นพูดด้วยความหมั่นไส้ สินพยายามปรามให้เบาๆและถามลำยงเรื่องลำยอง
“ฉันหมดปัญญาจะช่วยแล้วลุงสิน ไอ้ค่าประกันตัวมันมีแค่ครึ่งเดียวได้มั้ง คงต้องปล่อยให้นอนมุ้งสายบัวล่ะ”
สินพลอยปลงไปด้วย สันต์ทนฟังอยู่นานแล้วถามถึงลูกชาย ลำยงถอนใจเบาๆแล้วบอกว่าตามไปเฝ้าแม่ที่โรงพัก สันต์เป็นห่วงลูกเลยตัดสินใจชวนลำยงไปหาด้วยกัน แต่เมื่อไปถึงก็ต้องอึ้งเนื่องจากโรงพักกำลังโกลาหลเพราะลำยองจะคลอดลูกในห้องขัง นายทหารเรือไม่ลังเลแม้แต่น้อยจะประกันตัวเมียเก่าและพาส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
ooooooo
ข่าวลำยองเกือบคลอดลูกในโรงพักอื้อฉาวยิ่งกว่าข่าวบ่อนแตกเสียอีก หลานชายคนล่าสุดมีร่างกายปกติดี ไม่เหมือนสองคนก่อนหน้าที่ตัวเล็กและเจ็บออดๆแอดๆ ปอนึกถึงวีรกรรมของลำยองแล้วต้องบ่นกับลำยงด้วยความเซ็ง
“เวรแล้วไหมล่ะ อีกหน่อยมันก็ไม่พ้นเป็นโจร คลอดในคุกแบบนี้”
“พ่อนี่พูดไม่รู้ฟัง ก็บอกว่าไม่ได้คลอดในคุก พี่สันต์เขามาช่วยประกันตัวออกไปโรงพยาบาลทัน เข้าใจไหมเนี่ย”
“แล้วออกกี่โมง อีลำยองมันคลอดกี่โมง แม่มึงจะได้เอาเลขไปแทงหวยไง”
แลค้อนผัวแล้วถลึงตาใส่ ปอเลยหันไปทำงานจุกจิกแทน แลเลยหันไปเปรยกับลำยงเรื่องความดีของสันต์
“แม่เพิ่งรู้หรือ แต่ก่อนเห็นด่าพี่เขาไม่เว้นแต่ละวัน ว่าเลวอย่างนั้นจนอย่างนี้” แลพึมพำแก้ตัวว่าไม่รู้ ลำยงเลยอดเหน็บไม่ได้ “ได้ลูกเขยรวยแล้วไง มันเคยเจือจานมาถึงแม่บ้างไหมล่ะ”
แลหน้าม้านแล้วพาลหงุดหงิด ไม่อยากให้ลูกสาวรื้อฟื้นความคิดเก่าๆ แต่ถึงกระนั้นก็ท่ามาก เมื่อลำยงเสนอให้ทำญาติดีกับบ้านสันต์ แลกลับทำหน้าเมื่อยแล้วลอยหน้าลอยตาพูดถึงปั้นว่าขี้งก...คงทำดีด้วยยาก!
ขณะเดียวกันที่บ้านสันต์...ปั้นหงุดหงิดไม่น้อยที่ต้องเสียเงินจำนานมากประกันตัวลำยอง สินปลอบว่าให้คิดเสียว่าทำบุญทำทาน แต่ปั้นไม่เห็นด้วยเพราะทำบุญกับคนสันดานอย่างลำยองคงไม่ขึ้น
“บุญน่ะ...มันเกิดขึ้นตั้งแต่เจตนาที่จะให้แล้วล่ะแม่ปั้น”
“มีครั้งนี้ เดี๋ยวมันก็มีครั้งอื่นๆอีก วนเวียนซ้ำซาก ไม่เชื่อแกคอยดูสิตาสิน”
ปั้นเจ็บใจไม่หาย สันต์ถึงกับหน้าเจื่อนและสัญญาจะหาเงินมาคืนทุกบาททุกสตางค์
“เงินทองแม่ไม่ได้มากมาย เงินสดที่มีติดบ้านก็เอาไว้วนซื้อของทำทุนค้าขาย แม่ตะขิดตะขวงใจอีตรงที่น้ำพักน้ำแรงของแม่ สุดท้ายก็ต้องเอาไปจุนเจือผู้หญิงที่มันเคยชี้หน้าด่าแม่ฉอดๆ”
“แม่ครับ...แม่คิดซะว่าทำเพื่อหลานเถอะครับ เจ้าวันมันน่าสงสารนะครับแม่ ผมเองตัดแล้วตัดเลยไม่เคยคิดมีเยื่อใยกับผู้หญิงคนนี้แม้แต่นิดเดียว แต่เจ้าวัน... ผมตัดไม่ขาดหรอกครับแม่ จนวันตายผมก็ตัดไม่ลง”
ปั้นรู้สึกดีขึ้นเมื่อนึกถึงหลาน ส่วนสันต์กลืนก้อนสะอื้นในคอ เสียใจที่ทำให้พ่อแม่พลอยลำบากไปด้วยแบบนี้
กว่าลำยองจะได้กลับบ้านก็สองสามวันถัดมา ลำยงกับแลตามไปดูแลและลงมือฉีกผ้าอ้อมจากผ้าถุงเก่าๆเพราะคงไม่มีเงินซื้อใหม่ ส่วนลำยองไม่ช่วยแถมนอนบ่นเรื่องบ่อนแตกด้วยความแค้นใจ อยากรู้นักว่าใครเป็นคนแจ้งความ
“รู้แล้วเอ็งจะไปทำอะไรเขาให้ได้อะไรขึ้นมา” แลถามลอยๆ
“ตบมันล้างน้ำสิแม่ มันตัดทางทำมาหากินกันแบบนี้ ฉันว่ามันต้องอิจฉาฉันแน่ๆ”
ลำยงแค่นหัวเราะ “ใครเขาจะไปอิจฉาพี่กัน หากินแบบนี้มันผิดกฎหมายบ้านเมือง ยังไงเขาก็ต้องกวาดล้าง”
แลได้โอกาสเลยกล่อมให้เลิกทำบ่อน แต่ลำยองปฏิเสธทันควันด้วยความเสียดายเพราะปั้นมากับมือ
“แล้วเอ็งสนุกหรือวะ ไปนอนในคุกไม่ทันข้ามคืน เห็นเอ็งทุรนทุรายอย่างกับหมาบ้า นี่ถ้าไม่ได้เงินไอ้สันต์มาช่วยประกันตัวออกมา ลูกเอ็งคนนี้มันต้องคลอดในคุกแหงๆ”
ลำยองเบ้หน้าไม่สำนึกบุญคุณผัวเก่าจนลำยงต้องต่อว่าอย่างโกรธจัด แต่สาวขี้เมาไม่สน
“กูไม่ได้ไหว้วานให้มันช่วยกูสักหน่อย เสือกโง่มาช่วยกูเอง”
“เออ...คิดอย่างนี้ ทีหลังก็อย่าหวังว่าเขาจะมาช่วยอะไรพี่อีกก็แล้วกัน!”
ooooooo
ความคิดและพฤติกรรมของลำยองทำให้สมาชิกในบ้านเอือมระอา แต่ที่ทุกคนเป็นห่วงมากกว่าคือวันเฉลิมเพราะต้องรับภาระงานบ้านทุกอย่างและเลี้ยงน้องทั้งสองคน สันต์ตัดสินใจเด็ดขาดและเดินหน้าไปปรึกษาลำยงว่าจะเอาลูกชายไปเลี้ยงและส่งเสียให้เรียนโรงเรียนดีๆและพ้นจากสภาพน่าสมเพชเช่นนี้
“ฉันเห็นด้วย...เอามันไปเถอะ ความจริงพี่น่าจะเอามันไปตั้งนานแล้ว อยู่กับแม่มันบ้านช่องก็เน่า หนังสือหนังหาก็ไม่ได้เรียนเต็มที่ ต้องคอยเลี้ยงน้อง เวทนามันจริงๆ”
สันต์ดีใจที่มีคนสนับสนุน เหลือแต่ปราการด่านสำคัญอย่างแลว่าจะเห็นด้วยหรือไม่
“มันก็ดี...แต่เมียใหม่เอ็งจะไม่ฉีกอกไอ้วันเอาหรือ”
“โธ่...น้าแล...เขาเป็นครูบาอาจารย์นะ เขารักเด็กทุกคน หวังดีกับเด็กทุกคน”
“ข้าล่ะกลัวใจนัก แม่เลี้ยงลูกเลี้ยง เห็นมาเยอะแล้วโว้ย”
“แม่...ฉันว่าแม่ดูลิเก ฟังละครวิทยุมากไปหรือเปล่า สมัยนี้เขาไม่มีแล้ว มันพ้นยุคปลาบู่ทองแล้วแม่”
“ผมอยากให้น้าแลเห็นแก่อนาคตเจ้าวันให้มากๆ”
แลคิดนิดเดียวแล้วรับปาก อย่างไรเสียวันเฉลิมก็บริสุทธิ์เกินกว่าจะมาจมอยู่ในสภาพหดหู่แบบนี้
ฝ่ายวันเฉลิมก้มหน้าก้มตาทำงานและเลี้ยงน้องคนใหม่ที่เขาตั้งชื่อให้ว่าเหน่งจนไม่มีเวลาไปไหน วิมลพยายามชวนออกไปเที่ยวกับสมฤดีแต่เด็กชายจำต้องปฏิเสธเพราะมีภาระทั้งแม่กับน้องๆต้องดูแล เมื่อเข้าไปในบ้านก็ต้องหน้าเสียเมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างแม่กับยายเรื่องปิดบ่อนและหางานสุจริตทำแทน
“ก็แม่บอกฉันเองว่าเกิดมาต้องทำมาหากิน คนอย่างอีลำยองไม่ยอมเป็นขี้ข้าใครหรอก”
แลไม่ยอมแพ้และเข้าเรื่องสำคัญที่มาหาลูกสาวคนโตว่าให้ยกวันเฉลิมคืนสันต์ ลำยองหันขวับแล้วของขึ้น หาว่าแม่กลับใจและเปลี่ยนไปเข้าข้างผัวเก่าซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาตลอด
“แต่ก่อนอาจใช่ แต่ตอนนี้ข้าเต็มใจช่วย ข้าเวทนาไอ้วัน มันจะได้เรียนเต็มที่ ไม่ต้องเลี้ยงน้องเป็นโขยงอย่างนี้”
“ฉันส่งเสียมันตั้งเท่าไหร่ ตอนนี้พอใช้งานได้แล้วจะเอามันไป คิดจะขอกันง่ายๆ ฝันไปหน่อยเถอะ”
แลส่ายหน้าอ่อนใจและถามว่าลำยองอยากได้เงินแลกเปลี่ยนสองหมื่นเหมือนที่เคยขอหรือเปล่า
“ฉันเลี้ยงมันตั้งห้าหกปี คิดปีละหมื่นก็เจ็ดแปดหมื่น แต่เดี๋ยวจะหาว่าหน้าเลือด ฉันลดให้ห้าหมื่นละกัน”
“เฮ้ย...เอ็งเป็นแม่มัน คิดอย่างนั้นได้ยังไงวะ เป็นแม่ต้องเลี้ยงลูกสิ”
“ไม่รู้ล่ะ จะเอาห้าหมื่นขาดตัว ไอ้เรื่องจะให้เปล่าๆ น่ะ ไม่มีทาง มันยังใช้งานได้อยู่” แลโมโหมาก ไม่คิดว่าลูกสาวจะหน้าเลือดขนาดนี้ “ทีแม่ล่ะ แม่ไม่ได้เลี้ยงลูกไว้ใช้งานเหมือนกันเหรอ พอทำมาหากินได้ แม่ก็ทวงค่ากินอยู่ เล็กๆน้อยๆ แล้วใช้งานอย่างกับอะไร ฉันน่ะขายขนมให้แม่มานานกี่ปี นังลำยงมันต้องจ่ายให้แม่ตั้งเท่าไหร่”
“อีอัปรีย์...อีลูกเนรคุณ กูน่ะเคยเอาเงินมึงจริง แต่กูไม่เคยคิดขายมึงกินนี่หว่า เลี้ยงมึงมาก็ต้องให้มึงทดแทนบุญคุณมั่ง แต่อย่างไอ้วัน...พ่อมันจะเอาไปเลี้ยงให้ดีมึงกลับจะยึดไว้ใช้งาน แถมทวงค่าเลี้ยงดูอะไรแบบนี้...อีบ้า!”
ลำยองไม่สำนึกแม้แต่น้อย แถมแถว่าเป็นโอกาสดีต้องคว้าไว้ก่อน แลถึงกับปรี๊ดแตก
“มึงมันหลงไพ่ติดเหล้าจนหมดสติแล้วอีลำยอง อีกหน่อยมึงก็หมดความเป็นคน”
ลำยองไม่สะทกสะท้าน “มันลูกฉันนี่ ฉันออกแรงเบ่งมาเจ็บจะตาย ฉันต้องใช้มันให้คุ้มสิ”
แลเต้นผ่างด้วยความโกรธ ลำยองยิ้มเยาะแล้วเล่นไพ่ ส่วนวันเฉลิม...เห็นใจพ่อแต่คงไปจากแม่ไม่ได้ง่ายๆ
ooooooo
แลผิดหวังจากลูกสาวเลยไปแจ้งข่าวกับสันต์ถึงบ้าน ปั้นเห็นหน้าคู่ปรับเลยตั้งท่าหาเรื่องเต็มที่เพราะ ไม่เชื่อว่าจะมาหาด้วยความหวังดี แลไม่สนและขอพูดธุระกับสันต์เรื่องวันเฉลิม และข่าวร้ายเรื่องเงินแลกเปลี่ยน ที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้ทุกคนอ้าปากค้าง ปั้นโกรธแทนลูกมากและคิดว่าแลไม่ได้ช่วยจริงจังและคิดค่านายหน้าแพง
“ใครเขาจะไปเชื่อมึง บ้านมึงน่ะเห็นแก่เงิน หิวเงินกันทั้งก๊ก สั่งสอนลูกให้สันดานเสียแต่เด็ก”
“มึงนี่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ ครั้งนี้กูเห็นแก่ไอ้วันจริงๆ กูยังด่ามันตั้งกระบุงโกย กูก็เหนื่อยเป็นนะโว้ยอีปั้น”
สินพยายามห้ามแต่พูดไม่ทันใครสักคน ส่วนสันต์หัวเสียจัดและตัดสินใจไปหาเมียเก่าถึงบ้าน ลำยองไม่หวั่นแม้แต่น้อยและยืนยันว่าต้องการเงินห้าหมื่นบาทแลกกับตัววันเฉลิม
“ลำยอง...ฉันเป็นข้าราชการไม่ได้ร่ำรวยอะไร จะได้หาเงินห้าหมื่นมาให้ แต่ฉันส่งเสียลูกไหวเพราะเบิกได้ รักษาพยาบาลก็มีโรงพยาบาลทหารเรือ วันเฉลิมจะได้ร่ำเรียนแล้วไม่ต้องทนอยู่กับบ่อนและโรงเหล้าอย่างนี้”
“มันจะได้ทำมาหากินเป็นเร็วๆไง เล่นไพ่น่ะคิดเลขเก่งนะ วิ่งไปซื้อของเขาก็ให้เงิน วันๆได้ตั้งหลายบาท”
สันต์ทนไม่ไหว โพล่งออกไปให้หยุดทำร้ายลูกเสียทีแต่ลำยองไม่ยี่หระ แถมเรียกร้องเงินห้าหมื่น
“แม่กับพ่อขายของไปวันๆ ถ้าร่ำรวยจะมาอยู่ที่เช่าวัดอย่างนี้ทำไม ซื้อบ้านอยู่ไปนานแล้ว”
“ห้าหมื่นบาทขาดตัวโว้ย...ไม่มีก็ไม่ต้องมาพูดกันให้เปลืองน้ำลาย”
ลำยองหัวเราะลั่นแล้วกลับเข้าบ้าน สันต์ได้แต่ข่มความโกรธ อยากทำอะไรบางอย่างให้หายแค้นแต่ต้องระงับไว้เพราะไม่อยากให้เรื่องเลวร้ายไปกว่านี้ วันเฉลิม เห็นเหตุการณ์ตลอดแต่ช่วยอะไรไม่ได้ ต้องเดินเข้าห้องจ๋อยๆและดูแลน้องๆที่ร้องโยเยไม่หยุด สงสารและเห็นใจพ่อมากแต่ก็ไม่อยากให้แม่ต้องหากินอยู่คนเดียว
สันต์กลับบ้านด้วยความผิดหวัง นั่งกลุ้มใจคนเดียวที่ริมระเบียงท่าน้ำ ปั้นกับสินได้แต่มองด้วยความเห็นใจ
“มันเป็นแม่ชนิดไหนกันตาสิน เห็นลูกตัวเองเป็นผักเป็นปลา”
“ช่วยกันสวดมนต์ เวลานี้คงไม่มีอะไรช่วยได้หรอก นอกจากขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยดลใจมันเท่านั้นเอง”
ปั้นทนเห็นลูกทุกข์ใจไม่ไหวเลยตัดสินใจเอาสมบัติเก่าเก็บมาให้ “ทองพวกนี้ก็ของไอ้วันน่ะ ได้มาพร้อมกับของรับขวัญไงล่ะ สามบาทกว่าเห็นจะได้ ทองของแม่อีกสองบาท เงินที่เก็บเข้าออมสินไอ้วันมีเท่าไหร่ล่ะ”
“เก็บไว้ให้ห้าปีแล้วครับ มีอยู่หมื่นกว่า ผมว่าจะเอาเงินส่วนตัวผมอีกห้าพันมารวมน่าจะได้สองหมื่นกว่า”
“ที่จริงแม่มีเงินอีกหมื่นกว่าบาท แต่คงให้เอ็งไม่ได้หรอกต้องเอาไว้ทำทุน เผื่อตายจะได้มีเงินทำศพ”
สันต์ฟังแล้วหดหู่มาก ความรู้สึกผิดเก่าเก็บถาโถมจนต้องโพล่งออกไประบายอารมณ์อันพลุ่งพล่าน
“ผมเป็นต้นเหตุของความหายนะครั้งนี้ เพราะใจเร็วด่วนได้ กรรมก็ตกกับเด็กและพ่อแม่ บาปของผมครั้งนี้ ทำบุญอีกเท่าไหร่ ปรนนิบัติพ่อแม่อีกเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดสิ้นหรอกครับ”
สันต์กราบตักแม่ รู้สึกผิดที่ทำให้พ่อแม่ลำบาก ปั้นลูบหัวด้วยความสงสาร...เมื่อไหร่จะหมดกรรมสักทีลูกเอ๊ย
ooooooo
วันเฉลิมไม่เดือดเนื้อร้อนใจเรื่องแม่เหมือนที่คนอื่นๆเป็นกังวล เด็กชายยังใช้ชีวิตเป็นปกติและอุ้มอ้อยมาให้ลำยงเลี้ยงทุกเช้า น้าสาวรับไว้ด้วยความเวทนา ชดมองตามเซ็งๆแล้วโพล่งออกไปอย่างเหลืออด
“ทำอย่างนี้มันเท่ากับเราส่งเสริมให้แม่มันไม่รับผิดชอบ นึกจะมีผัวก็มี ออกลูกมาแล้วก็ไม่ยอม เลี้ยงเอง”
ลำยงเข้าใจดีแต่ไม่คิดว่ามีทางเลือกดีกว่านี้ ส่วนสันต์รวบรวมเงินทั้งหมดและเอาไปให้ลำยองถึงบ้านในเช้าวันเดียวกัน สาวขี้เมาคว้าเงินหมับ ใจเต้นโครมครามเพราะไม่ได้เห็นเงินก้อนมานาน สันต์มองตามด้วยความสมเพชแล้วบอกว่าทั้งบ้านมีแค่สองหมื่นสี่ ลำยองชะงักและโยนเงินคืนทันที
สันต์หน้าเสียและพยายามต่อรอง แต่ลำยองไม่ยอมเพราะเชื่อว่าผัวเก่าต้องมีมากกว่านี้ สันต์ขอให้คิดถึงอนาคตของวันเฉลิมให้มากๆ เพราะอยู่ที่นี่คงไม่ได้เรียนหนังสือเต็มที่และต้องมีสภาพแวดล้อมไม่ดี
“อนาคต...เชอะ ไปอยู่กับแม่เลี้ยง มันก็เป็นขี้ข้าให้เขาใช้ สู้เป็นขี้ข้าให้แม่ตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ ได้บุญด้วย”
“เงินนี่ก็เก็บไว้ให้เจ้าวันแหละ ทองของแม่ด้วย ลำยองรับไว้เถอะ เราอย่าเอาลูกมาเป็นเดิมพันกันเลย”
ลำยองไม่ยอมลดทิฐิ ยิ่งสันต์ยกเรื่องอนาคตการเรียนของลูกมาอ้างก็ยิ่งหัวเสีย
“ฉันเป็นแม่มัน เบ่งมันออกมานะ ยังไงไอ้วันก็ต้องอยู่ที่นี่ อยากให้มันเรียนก็ส่งเสียเงินทองมาละกัน”
สันต์กลับบ้านไปแล้ว ลำยองโมโหไม่หายและออกไประบายกับแม่ด้วยความอึดอัด แต่กลับถูกด่าซ้ำ
“มึงมันบ้า...กูรู้ใจมึงก็ริกๆอยากได้เงินจนตัวสั่น แต่มึงมันทิฐิหนา”
“เงินอีปั้นฉันไม่เอาหรอก อีแก่นี่มันทำอะไรไว้กับฉันบ้าง จนตายฉันก็ไม่มีวันลืมเลย”
“มึงนี่เสียแรงเป็นแม่คน ถึงไม่รู้ถึงหัวจิตหัวใจคนเป็นแม่ กูจะไม่พูดกับมึงแล้ว กูเบื่อ...ยิ่งกว่าสีซอให้ควายฟัง”
แลเดินหนีไปสงบสติอารมณ์ ทิ้งให้ลำยองฮึดฮัดคนเดียวเพราะไม่มีคนเข้าข้าง ลำยงเห็นท่าพี่สาวก็พอเดาเรื่องได้เลยช่วยกล่อมอีกแรงเพราะเป็นห่วงหลาน แต่ลำยองไม่ยอมและขู่จะเรียกเงินมากกว่าเดิมถ้าสันต์กล้ามาขออีก
ฟากสันต์ไปหาลูกชายที่วัดและบอกข่าวร้ายเรื่องไม่มีเงินจะไถ่ตัว วันเฉลิมนั่งก้มหน้านิ่ง สันต์เริ่มใจไม่ดีและปลอบลูกให้ตั้งใจเรียนเพราะลำยองยอมให้เขาส่งเสียแล้ว เด็กชายพยักหน้ารับแต่ไม่ยอมพูดอะไร สันต์เลยชวนออกไปซื้อของเพราะเวทนาเสื้อผ้าและรองเท้านักเรียนเก่าๆเต็มที หลวงลุงปิ่นเห็นสายตาสันต์ที่มองลูกเลยบอกให้เบาใจ
“เอ็งอย่าห่วงเลยเจ้าสันต์ ไอ้วันมันใฝ่ดี อย่างเดียวที่มันต้องเรียนรู้คือมานะและอดทน ยังไงก็เอาตัวรอดได้”
กว่าวันเฉลิมจะกลับถึงบ้านก็เกือบพลบค่ำ ลำยองยืนเท้าสะเอวรออยู่แล้วด้วยความหงุดหงิดเพราะลูกชายกลับผิดเวลา ยิ่งเมื่อรู้ว่าไปกับสันต์เลยโกรธจัดและอาละวาดเสียจนเด็กชายหน้าเสีย แถมกระชากถุงข้าวของที่สันต์ซื้อให้จนกระจายเต็มพื้น แต่สาวขี้เมายังไม่สะใจและตะโกนด่าลูกชายกระทบถึงผัวเก่าด้วยความหมั่นไส้
“อวดรวย...ทำเป็นซื้อของใหม่ให้ลูก ก็แค่เศษเงินของพ่อมึงนั่นแหละไอ้วัน เงินก้อนน่ะมันเอาไปประเคนเลี้ยงเมียใหม่ลูกใหม่หมดแล้ว กูรู้ว่าห้าหมื่นน่ะมันมีปัญญาจ่ายแต่มันตุกติก ขี้เหนียวกับกู ไหนมึงซ่อนอะไรไว้อีก”
ลำยองค้นตัววันเฉลิมและเจอเงินสามร้อยในกระเป๋ากางเกงลูก วันเฉลิมบอกว่าสันต์ให้ไว้ซื้อกับข้าว
“กูจะเอาไว้ต่อทุนกับซื้อเหล้ากิน มีปัญหาอะไรไหมไอ้วัน พ่อมึงรวย คราวหน้าก็ประจบขอมันเยอะๆ แล้วกัน”
ลำยองเหน็บเงินเข้าอกเสื้อแล้วเดินจากไป วันเฉลิมได้แต่มองตามซึมๆแล้วเก็บข้าวของขึ้นห้อง
ooooooo