icon member

นาคี

ตอนที่ 8

อาการของทศพลแปลกไปจนทุกคนสงสัย พยายามจะกักตัวไว้แต่เขาก็หนีไปตำบลนาคหนีจนได้ ตามเสียงเพรียกหาของลำเจียก แก๊งเพื่อนร้อนใจมากตัดสินใจไปบอกสุภัทร

ด็อกเตอร์หนุ่มใหญ่คนดังรู้เรื่องก็ใจไม่ดี เป็นห่วงลูกชายคนเดียวไม่น้อย แต่เพราะทิฐิเลยทำเย็นชาเหมือนไม่ยี่หระกับการหายไปของทศพล

เลื่อมประภัสกับฉัตรสุดาในร่างงูเขียวแอบได้ยินแก๊งเพื่อนของทศพลคุยกันก็รีบนำความไปบอกคำแก้วซึ่งตัดสินใจทันทีจะไปตามสามีกลับ เมื่อคำปองรู้ก็พยายามทัดทานด้วยความเป็นห่วงแต่ลูกสาวคนเดียวก็ไม่เปลี่ยนใจ

“ต่อให้ต้องบุกป่าฝ่าดง ข้ามน้ำข้ามทะเล ฉันก็ต้องหาทางไปนาคหนีจนได้”

“แม่รู้...ถึงจะห้ามเอ็งก็ไม่ฟัง ไปเถอะลูก...ไปตามเอาหัวใจเอ็งกลับคืนมา ไปดีมาดี คุณพระรักษานะลูก”

คำแก้วไม่รู้เลยว่าต้องเจอกับอะไรหากไปถึงตำบลนาคหนี แต่เมืองอินทร์รู้ดีกว่าใคร

“มีตำนานเล่าว่า...ธิดาพญานาคตัวหนึ่งลำพองใจในความงามของตนจึงคิดลองดี ยั่วยวนมหาฤาษีผู้มี

ฌานแก่กล้าหวังทำลายตบะ แต่มหาฤาษีมิได้หลงใหลไปกับความงามของนาง จึงสาปแช่งห้ามไม่ให้นางนาคและบริวารเข้ามาในอาณาบริเวณนี้เด็ดขาด ตำบลนี้ถึงได้ชื่อว่านาคหนี”

ลำเจียก ชบาและซ่อนกลิ่นได้ยินตำนานก็เบาใจแต่ก็ไม่วายวิตก กลัวคำแก้วจะบุกมาจริงๆ

“ถ้ามันมา...มันก็จะกะปลกกะเปลี้ย อ่อนแรง ไร้พิษสง เจอเมื่อไหร่ก็ฆ่ามันได้เมื่อนั้น!”

ทศพลถูกมนต์ดำของเมืองอินทร์ครอบงำ กระเสือก กระสนมาถึงนาคหนีจนได้ ลำเจียกสะใจมาก แต่กระนั้นก็ทำเล่นตัว ไม่ยอมให้เข้าใกล้จนเขาต้องอ้อนเสียงกระเส่า

“ผมไม่รักใครทั้งนั้น นอกจากลำเจียกคนเดียว ผมคิดถึงลำเจียกแทบใจจะขาด ขอหอมให้ชื่นใจหน่อยได้ไหม”

ลำเจียกถึงกับสะท้านเมื่อถูกจูบซอกคออย่างหื่นกระหาย กลิ่นกายสาวและอำนาจแห่งมนต์ดำลากสองหนุ่มสาวให้หลงเพริศไปกับรสสวาทอันเร่าร้อน คนงามบ้านดอนไม้ป่าแทบขาดใจตายเมื่อถูกรุกเร้าอย่างหนัก และแทบไม่รู้ตัวเลยว่าแหวนพิรอดที่สวมติดนิ้วเสมอได้สลายกลายเป็นผุยผงไปแล้วเพราะเธอทำผิดศีล!

ooooooo

กว่าทศพลกับลำเจียกจะอิ่มเอมจากรสสวาทก็อีกหลายชั่วโมงต่อมา สองหนุ่มสาวกอดก่ายกันอย่างเหนื่อยอ่อนแต่ก็สุขสมจนแทบไม่อยากออกไปไหน โดยเฉพาะลำเจียกชื่นมื่นจนไม่สนเลยว่าไปแย่งผัวคนอื่นมา

“คุณได้ลำเจียกเป็นเมียแล้ว อย่าทิ้งลำเจียกนะ”

“ผมจะทิ้งผู้หญิงที่ผมรักไปได้ยังไงล่ะ”

“แสดงว่าคุณจะแต่งงานกับลำเจียกอยู่กินกับลำเจียกอย่างเปิดเผย แล้วก็พาลำเจียกไปอยู่กรุงเทพฯด้วยใช่ไหม”

“ลำเจียกอยากได้อะไร ผมจะทำตามทุกอย่าง ถ้า...”

ทศพลยั้งปากไว้แล้วส่งตาหวาน ลำเจียกรู้ดีว่าเขาต้องการอะไรแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ถ้าคุณพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าคุณรักผมเท่ากับที่ผมรักคุณ”

พูดจบก็ตั้งท่าจะบรรเลงเพลงรักอีกรอบ แต่ลำเจียกก็เบี่ยงตัวหนีอย่างมีจริต อยากเรียกร้องความสนใจให้เขาทวีความลุ่มหลง แต่ไม่ทันได้วิ่งไล่จับสมใจ คำแก้วก็หอบร่างกะปลกกะเปลี้ยมาตามเขากลับบ้าน!

ลำเจียกเบิกตาโพลง อาละวาดประกาศศักดาเมียอีกคนเต็มที่

“มึงจะเอาผัวกูไปไหนอีคำแก้ว!”

“ฉันมาตามผัวฉันกลับบ้าน”

“อีนี่...มึงก็เห็นอยู่เต็มสองตาว่าคุณทศพลเป็นผัวกู อุตส่าห์มาถึงนาคหนี มึงยังกล้าตามมาราวีกูอีกเหรอ”

“คุณทศพลเป็นของฉัน แกนั่นแหละที่แย่งเขาไปจากฉัน ทำเสน่ห์เล่ห์กลใส่เขาจนมีสภาพเป็นแบบนี้”

ชาวบ้านละแวกนั้นได้ยินเสียงเอะอะก็รีบมาดู ลำเจียกเลยยิ่งสนุกปาก

“น้อยๆหน่อย ถ้าเขาไม่รักกู เขาจะซมซานมาหากูถึงที่นาคหนีนี่เหรอ ต้องสาธยายให้ฟังไหมว่าทำอะไรกันมั่ง”

“หน้าด้านที่สุด!”

ลำเจียกไม่สะทกสะท้าน แถมตบคำแก้วจนหน้าหัน “มึงนั่นแหละหน้าไร้ยาง ตู่ว่าผัวคนอื่นเป็นผัวตัวเอง เจ้าข้าเอ๊ย...ใครไม่เคยเห็นคนหน้าด้านหน้าทนก็เร่เข้ามาดูหน้านังนี่มันเอาไว้”

ชาวบ้านส่งเสียงอื้ออึงแต่คำแก้วก็ไม่สนใจ ฮึดเฮือกสุดท้ายจะพาทศพลกลับบ้าน ลำเจียกถลาไปขวาง

“ปล่อยผัวกูเดี๋ยวนี้นะ”

“พี่พล...ฉันคำแก้วเมียพี่ไง พี่ลืมคำแก้วแล้วเหรอ กลับบ้านเราเถอะนะพี่”

น้ำเสียงอ้อนวอนของคำแก้วทำให้ทศพลหลุดจากมนต์ดำชั่วขณะ แต่ไม่กี่อึดใจต่อมาก็ถูกครอบงำอีกครั้ง

“มึงไม่ใช่เมียกู กูเกลียดมึง ผู้หญิงคุยกับงูรู้เรื่อง ไปให้พ้น กูไม่อยากเห็นหน้า เมียกูคือลำเจียกคนเดียว!”

คำแก้วช้ำแทบกระอัก อับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ตัดพ้อทั้งน้ำตา

“พี่ลืมคำแก้วเมียพี่แล้วหรือจ๊ะ อำนาจมนต์เสน่ห์ยาแฝดทำให้พี่ลืมความรักของเราสองคนแล้วเหรอ”

เสียงสะอื้นของคำแก้วทำให้ทศพลปวดหัว ลำเจียกเห็นท่าไม่ดี ประกาศกร้าว

“อีคำแก้ว...มึงกล้ามาหยามกูถึงที่ ถ้ากูไม่ตบล้างน้ำให้มึงหลาบจำ กูก็ไม่ใช่ลูกคนล่ะวะ”

จบคำก็จิกหัวตบไม่เลี้ยง คำแก้วไม่มีแรงขัดขืนเลยถูกเล่นงานจนแทบลุกไม่ไหว

“คุณทศพลเขาเป็นของกูแต่มึงใช้เล่ห์นังงูผีแย่งเขาเอาไปเป็นผัว เป็นไงล่ะ...สุดท้ายเขาก็เบื่อมึงกลับมาหากู!”

ทศพลทนมองต่อไปไม่ไหว รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก

“พอได้แล้ว! ผมไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้อีก รีบไล่ไปซะ”

ลำเจียกสะใจมาก ส่วนคำแก้วถึงกับอ้าปากค้าง หัวใจแทบสลายที่ได้ยินเขาเอ่ยปากไล่อย่างไร้เยื่อใย

ooooooo

คำแก้วหอบร่างอ่อนแรงออกจากตำบลนาคหนีด้วยความยากลำบาก แต่ในใจยังหมายมาดจะหาทางช่วยทศพลจากมนต์ดำของลำเจียกให้ได้

แต่กระนั้น...ท่าทางหมางเมินและคำพูดตัดรอนของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจตาย กำลังใจจะเอาชีวิตรอดถดถอยและหมดสติกลางทางในที่สุด!

คำสาปของฤาษีทำให้ร่างของคำแก้วแปรสภาพเป็นงูทีละน้อย พร้อมๆกับภาพในอดีตชาติตอนที่นาคีพบว่าทัพของไชยสิงห์ถูกพระเจ้านิรุทธราชตีแตกพ่ายและถูกจับเป็นเชลยในเวลาต่อมา

ไชยสิงห์พร้อมด้วยเสนาบดีทั้งสี่ กษิติ อัคนี สินธุและมารุต หรือแก๊งเพื่อนของทศพลในชาตินี้ ถูกจับตัวไปเป็นเชลยที่เมืองมรุกขนคร พิมพาวดีกับกรรเจียก สองสาวพี่น้อง ธิดาต่างมารดาของพระเจ้านิรุทธราชได้เห็นหน้าแม่ทัพใหญ่แห่งปัตตนครก็ตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น

และเมื่อสองธิดารู้ว่าบิดาจะประหารไชยสิงห์ก็ร้อนรนมาก โดยเฉพาะพิมพาวดีถึงกับอ้อนวอนขอไม่ให้ตัดสินโทษประหารแม่ทัพหนุ่ม

“แล้วเหตุใดพ่อจึงประหารมันไม่ได้เล่า ในเมื่อมันเป็นเชลยศึกของพ่อ พ่อเป็นเจ้าชีวิต จักทำเยี่ยงใดกับมันก็ได้”

พิมพาวดีจนด้วยคำตอบ ส่งสายตาให้กรรเจียกพี่สาวต่างมารดาช่วยกล่อม

“เจ้าพ่อเจ้าข้า...วันนี้เป็นวันบัณรสี พระจันทร์เต็มดวง หากฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจักเป็นบาปมหันต์ ขอเจ้าพ่อทรงงดโทษตายไว้ก่อน พ้นวันบัณรสีนี้เมื่อใดค่อยสั่งประหารแม่ทัพมีชื่อผู้นี้ก็ยังมิสายเจ้าข้า”

เหตุผลของกรรเจียกทำให้พระเจ้านิรุทธราชยอมละโทษไชยสิงห์ไว้ก่อน พิมพาวดียินดีมากแต่ไม่วายเป็นกังวลเพราะแม่ทัพหนุ่มคงรอดชีวิตอีกไม่นาน เลยไป ขอร้องกรรเจียกอีกรอบ

“เหตุใดเจ้าพี่จึงไม่ขอให้เจ้าพ่อปล่อยตัวแม่ทัพเชลยผู้นั้นเล่า”

“เจ้าพ่อกำลังกริ้ว หากพี่ขอเยี่ยงนั้นก็เท่ากับเร่งรัดโทษตายให้ไวขึ้น”

“ถึงแม้วันนี้แม่ทัพผู้นั้นจักรอดไปได้ แต่คืนพรุ่งก็ต้องตายอยู่ดี”

“บุราณว่าน้ำเชี่ยวอย่าเพิ่งเอาเรือไปขวาง รอให้เจ้าพ่อคลายโทสะลงก่อน พี่จักขอเจ้าพ่ออีกครา พี่สัญญาว่าจักช่วยแม่ทัพแห่งปัตตนครให้แคล้วคลาดจากราชภัยให้จงได้”

“นอกจากรูปโฉมจักงามแล้ว เจ้าพี่กรรเจียกยัง เปรื่องปราดฉลาดเฉลียวหาผู้ใดเปรียบ รู้เยี่ยงนี้ข้าค่อยโล่งใจ”

“เจ้าต้องใจแม่ทัพหนุ่มรูปงามผู้นั้นรึพิมพา”

กรรเจียกแกล้งถามแต่พิมพาวดีก็ไม่รู้เรื่อง มัวเขินและทำเสียงแข็งกลบเกลื่อน

“เจ้าพี่! ข้าต่างด้าวท้าวต่างแดน ข้าไม่สนใจดอก... เจ้าพี่ช่วยชีวิตเขาก็เก็บไว้เองเถิด”

ooooooo

กรรเจียกกับพิมพาวดี สองพี่น้องและธิดาผู้เลอโฉมของพระเจ้านิรุทธราชสนใจในตัวไชยสิงห์เหมือนกัน แต่ต่างก็สงวนท่าทีไม่ยอมสารภาพความในใจ และเมื่อลับหลังแต่ละฝ่ายก็แอบย่องไปหาแม่ทัพหนุ่มถึงในคุก!

กรรเจียกแอบไปก่อน ดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อไชยสิงห์รู้จักเธอ

“องค์หญิงรูปโฉมงดงาม ผู้คนต่างร่ำลือกันไปทั่ว ชาวเมืองปัตตนครเมืองเล็กๆอย่างข้า มีหรือจะไม่รู้จัก”

“อยู่ในนี้เจ้าคงลำบากไม่น้อย”

“เชลยศึกอย่างข้าก็เปรียบเสมือนลูกไก่ในกงเล็บพญาอินทรี จักฆ่าจักแกงก็ย่อมได้ทั้งนั้น”

“ข้าจักหาวิธีช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่ให้จงได้”

“องค์หญิงจักทรงทำเยี่ยงนั้นเพื่ออะไร”

กรรเจียกอึกอัก อยากบอกรักแต่ก็ไม่กล้า ไชยสิงห์เห็นดังนั้นเลยตัดบท

“กลับไปเสียเถอะองค์หญิง ที่คุมขังเชลยแห่งนี้จักทำให้เสื่อมเสียเกียรติเป็นที่ติฉินเอาได้ วันรุ่งพรุ่งนี้...ชะตาข้าจักถึงฆาต ไม่ได้กลับแผ่นดินถิ่นเกิด ก็ขอเอาเมืองขององค์หญิงเป็นป่าช้าสุมเพลิงเชิงตะกอน”

ความทระนงในศักดิ์ศรีของไชยสิงห์ทำให้กรรเจียกยิ่งคลั่งไคล้ โดยไม่รู้เลยว่าพิมพาวดีก็มีอาการไม่ต่างกัน ตอนที่แอบเอาสำรับอาหารและหยูกยาไปเยี่ยมเขาในคุกเวลาต่อมา

“ข้าชื่อพิมพาวดี...เป็นธิดาคนเล็กของเจ้าพ่อ แม่ข้าเป็นแค่เจ้านางปลายแถวเลยไม่ค่อยมีใครรู้จัก แม้แต่เจ้าพ่อของข้าเองก็อาจทรงลืมไปแล้วว่าข้าเป็นลูก”

แนะนำตัวจบก็ยกของเยี่ยมให้ แต่ไชยสิงห์ก็ปฏิเสธ “องค์หญิงพิมพาวดีช่างมีเมตตา แต่ข้าคงรับไว้ไม่ได้ ข้าเป็นแค่เชลยศึกต่ำต้อย มิอาจรับความกรุณาจากองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ได้หรอกเจ้าข้า”

“แต่ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น ถึงเจ้าจะเป็นเชลยแต่เจ้าก็เป็นคนเหมือนกัน ข้าจักขอชีวิตเจ้ากับเจ้าพ่อ”

“อย่าเลยเจ้าข้า ถ้าทำอย่างนั้นองค์หญิงจะทรงถูกกริ้ว”

“แต่ข้าอยากช่วยเจ้า ข้าไม่เห็นด้วยกับเจ้าพ่อเรื่องการทำศึกสงครามแต่แรก มรุกขนครและปัตตนครต่างเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน เหตุใดจึงต้องรบราฆ่าฟันกันเอง เราสูญเสียกันมากพอแล้ว ข้าจักไม่ยอมให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก โดยเฉพาะกับเจ้า...แม่ทัพไชยสิงห์”

น้ำใจของสองพี่น้องทำให้ไชยสิงห์ประทับใจมาก แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้มีจิตพิศวาส ต่างจากสองสาวตกอยู่ในห้วงรักจนแทบระงับไม่อยู่ และพิษรักแรงสวาทก็ทำให้กรรเจียกตัดสินใจขอชีวิตไชยสิงห์จากบิดา

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าพูดอะไรออกมา”

“ลูกคิดดีแล้วเจ้าข้า ถึงแม่ทัพไชยสิงห์จะเป็นเชลยศึกแต่ก็สืบเชื้อเครือวงศ์มาแต่เจ้าเมืองปัตตนครองค์ก่อน แทนที่เจ้าพ่อจะประหารชีวิต เหตุใดจึงไม่เก็บแม่ทัพผู้นี้ไว้เป็นกำลังสำคัญเพื่อแผ่ขยายอาณาจักรของเราเล่าเจ้าข้า”

“เจ้าจักให้พ่อไว้ใจศัตรูได้เยี่ยงไรกรรเจียก”

“ยิ่งเป็นศัตรู ยิ่งต้องเก็บไว้ใกล้ตัวเจ้าข้า”

“ก็ได้...พ่อจักเว้นโทษตายให้แก่มัน”

“กษัตริย์เอ่ยแล้วห้ามคืนคำนะเจ้าข้า”

อาญาสิทธิ์ของพระเจ้านิรุทธราชทำให้ไชยสิงห์ได้รับการปล่อยตัวหลังจากนั้น กรรเจียกรีบไปรับหน้าหวังให้เขาซึ้งในความดีความชอบของเธอ แต่แม่ทัพหนุ่มก็หารู้สึกไม่ เพราะยังห่วงเสนาบดีทั้งสี่

“ถึงข้าจักออกจากตรุแต่ก็หาออกพ้นนอกเขตกำแพงเมืองมรุกขนครได้ไม่”

“ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ในมรุกขนคร ข้าจักดูแลเจ้าแลเหล่าบริวารของเจ้าเป็นอย่างดี”

“เจ้าพ่อขององค์หญิงคงมีกลศึกในใจถึงได้ยอมปล่อยตัวข้า”

“หามิได้...ข้าเป็นคนขอให้เจ้าพ่องดโทษเจ้าเอง”

ไชยสิงห์ตะลึง ไม่ต่างจากพิมพาวดีที่แอบได้ยินทุกอย่างโดยบังเอิญ ช้ำใจมากที่พี่สาวต่างมารดารักชายคนเดียวกัน กรรเจียกไม่สนว่าใครจะรู้เห็นบ้าง สารภาพรักเสียงหวาน

“ไชยสิงห์...ตั้งแต่ข้าพบเจ้า ข้าก็รู้ทันทีว่าเจ้าคือคนที่ข้ารอคอยมาชั่วชีวิต...ข้ารักเจ้านะไชยสิงห์”

“ข้าซาบซึ้งในเมตตาที่องค์หญิงประทาน แต่ข้ามีคนรักอยู่แล้ว”

“เจ้ามีคนรักอยู่แล้ว นางเป็นใคร!”

ภาพใบหน้าตะลึงงันของสองธิดาที่ได้รู้ว่าไชยสิงห์มีคนรักแล้วค่อยๆเลือนหาย คำแก้วหลุดจากภวังค์ของอดีตชาติหลังจากนั้น พร้อมความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ถูกลำเจียกทำร้ายกำเริบอีกครั้ง...

ooooooo

ขณะที่คำแก้วกระเสือกกระสนหนีจากตำบลนาคหนี ลำเจียกก็แล่นไปฟ้องเมืองอินทร์ว่าคำแก้ว หญิงชาวบ้านที่เธอปักใจว่าเป็นบริวารของเจ้าแม่นาคีกลับชาติมาเกิดบุกเดี่ยวมาตามทศพลดังคาด

“มันกล้ามาเหยียบถึงนาคหนีเชียวเหรอวะ”

“ใช่...นังงูผีมันตามมาแย่งผัวฉันถึงนี่ นังงูผีนั่นเหมือนปีศาจสิ้นฤทธิ์ ฉันตบมันเกือบตาย มันยังไม่กล้าสู้ฉันเลย ถ้าผัวฉันไม่ห้ามไว้ก่อน ฉันคงถลกหนังหัวมันออกมาแล้ว”

“เอ็งนี่มันกล้าบ้าบิ่นเสียจริง ไม่กลัวฤทธิ์มันบ้างหรือไง”

“ฉันไม่กลัวหรอกฉันมีแหวน...”

ลำเจียกชะงักคำพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะโวยเสียงดังเมื่อเห็นว่าแหวนพิรอดหายไป เมืองอินทร์มองมาด้วยสีหน้าสมเพช พอจะคาดเดาบางอย่างได้ แกล้งถามเสียงเรียบ

“เอ็งแน่ใจนะว่าไม่ได้ผิดลูกผิดผัวเขา”

คนงามบ้านดอนไม้ป่ายิ้มแหยเหมือนจะยอมรับกลายๆ เมืองอินทร์ถึงกับส่ายหน้าอ่อนใจ

“ข้าล่ะปวดหัวกับเอ็งจริงๆ ต่อให้ของศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน คนไม่มีศีลไม่มีธรรมก็เสื่อมได้ทั้งนั้น”

ลำเจียกหน้าชาเหมือนถูกตบแต่ก็ยังไม่สำนึก โอ่ว่าเล่นงานคำแก้วจนหนีกระเจิงไปแล้ว แต่เมืองอินทร์กลับไม่ยินดีด้วย โกรธจนควันออกหู ตวาดลั่น

“อีโง่! แล้วทำไมเอ็งไม่จับมันมัดเอาไว้ ป่านนี้มันหนีไปไหนต่อไหนแล้ว”

พูดจบก็ผละกลับอาศรม ลำเจียกกลัวหมอผีหนุ่มจะไม่ช่วยกำจัดเจ้าแม่นาคีเลยตามไปปะเหลาะเอาใจ แต่เมืองอินทร์ยังเคือง หงุดหงิดเพราะพลาดโอกาสแสดงฝีมือ

“นังงูผีมารนหาที่ตายถึงนี่แต่เอ็งกลับปล่อยมันไป ประเวณีตีงูให้หลังหัก สักวันมันจะย้อนมาทำร้ายเอ็ง”

“เรื่องมันก็แล้วไปแล้ว จะฟื้นฝอยหาตะเข็บทำไม ฉันว่าเรามาช่วยกันคิดหาทางกำจัดเจ้าแม่นาคีดีกว่า”

เมืองอินทร์นิ่งเงียบไม่ตอบ ลำเจียกเลยแกล้งแหย่ “หรือว่าพ่อหมอกลัว”

“คนอย่างข้าไม่เคยกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น”

ลำเจียกแสยะยิ้มร้าย ยุใหญ่ “ถ้าไม่กลัว พ่อหมอก็รีบไปปราบมันสิ ถ้าใครรู้เข้าว่าอาจารย์เมืองอินทร์เอาแต่มุดหัวอยู่ในกระดอง อีกหน่อยชาวบ้านที่ไหนจะนับถือ”

“นังลำเจียก...เอ็งดูถูกฝีมือข้าเกินไปแล้ว ถ้าข้ารู้ว่านังงูผีมันกบดานอยู่ที่ไหน ข้าไม่ปล่อยมันไว้แน่”

“แต่ฉันรู้ว่าตอนนี้นังงูผีมันอยู่ที่ไหน...”

ooooooo

ลำเจียกรู้ดีว่าคำแก้วต้องกลับไปตั้งหลักที่ดอนไม้ป่า แล้วก็จริงดังคาด คำแก้วหอบร่างสะบัก สะบอมหนีและเกือบจะถูกโจรป่าข่มขืนแล้ว โชคดีที่ออกนอกเขตนาคหนีได้เสียก่อน เลยใช้พลังนาคไล่โจรป่าไปได้

แต่ถึงจะรอดชีวิตไปถึงดอนไม้ป่า คำแก้วก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะคิดถึงทศพล คำปองได้แต่

มองมาด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากปลอบให้ทำใจ

สุภัทรก็เป็นกังวลเรื่องทศพลไม่ต่างกันแต่ใจแข็งทำเป็นไม่สนใจ และตัดสินใจกลับไปสำรวจถ้ำใต้เทวาลัยอีกครั้ง โดยมีแก๊งเพื่อนของลูกชายคนเดียวช่วยเขียนแผนผังถ้ำให้

ด็อกเตอร์หนุ่มคนดังสำรวจถ้ำใต้เทวาลัยด้วยความตื่นตาตื่นใจ แล้วก็ถึงกับตาโตเมื่อค้นพบแผ่นจารึกโบราณอีกครึ่ง วัชระปราการกลัวเจ้าแม่นาคีจะเดือดร้อนเลยจะฆ่าสุภัทร แต่เลื่อมประภัสกับฉัตรสุดาก็ตามไปห้ามไว้

“พวกเจ้ามาห้ามข้าทำไม”

“ชายผู้นั้นเป็นพ่อของแม่ทัพไชยสิงห์”

“แต่มันมาขโมยแผ่นศิลานั่นไป แค่ลูกชายของมันก็ทำให้เจ้าแม่เสียใจมากพอแล้ว”

“ท่านไม่ควรเอ่ยถึงคนรักของเจ้าแม่เช่นนั้น”

“ในเมื่อมนุษย์นั่นไม่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าแม่ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิตวงศ์วานว่านเครือของมัน”

“เขาเป็นแค่นักโบราณคดี ไม่ใช่หมออาคมชั่วช้า ถึงจะได้แผ่นศิลานั่นไปก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ถ้าท่านฆ่าเขา เจ้าแม่ต้องไม่ให้อภัยท่านแน่”

“แล้วพวกเจ้าต้องเสียใจที่คิดเยี่ยงนี้!”

คำแก้วไม่ได้สำเหนียกว่าภัยจากเมืองอินทร์กับ ลำเจียกจะถึงตัวในไม่ช้า มัวตรอมใจเพราะเป็นห่วงทศพล คำปองเห็นลูกสาวทุกข์ใจก็อดบ่นไม่ได้

“ตั้งแต่เอ็งกลับมาจากนาคหนี ข้าวสักคำ น้ำสักหยด เอ็งก็ไม่แตะ ระวังจะเป็นลมเป็นแล้งเอา”

“ฉันกินไม่ลง เป็นห่วงคุณทศพล แค่ไม่กี่วันที่ไปอยู่นาคหนี สภาพของเขาก็แทบไม่ต่างจากซากศพเดินได้”

“อีลำเจียกมันเจ้ายาแฝดแปดยาช้าง หาทางแย่งผัวเอ็งไปจนได้”

“มนต์เสน่ห์ที่ลำเจียกทำใส่คุณทศพลมันช่างรุนแรงเหลือเกิน ขืนปล่อยไว้ ถ้าไม่ตายก็ต้องเป็นบ้า”

“เอ็งอย่าคิดมากไปเลย คู่กันแล้วต้องไม่แคล้วกัน ถ้าฟ้าลิขิตให้เขาเป็นของเอ็ง สักวันเขาก็จะต้องกลับมา”

คำปลอบใจของคำปองกลายเป็นความจริงในเวลาต่อมาเมื่อลำเจียกพาทศพลมาเย้ยถึงบ้าน คำแก้วถลาจะไปกอดเขา แต่ก็ต้องผงะเมื่อเขาตวาดเสียงกร้าว

“ฉันเกลียด...เกลียดเธอ นังปีศาจงู! ไปให้พ้น ฉันรักลำเจียกคนเดียว”

เสียงหัวเราะเย้ยหยันของลำเจียกทำให้คำแก้วช้ำแทบกระอักต้องไปหลบหลังบ้านเพราะไม่อยากเจอหน้าใคร เมืองอินทร์ที่แอบในมุมลับตาเห็นดังนั้นก็ยิ้มร้าย ล้วงใบขนครุฑออกจากย่าม

“นังคำแก้ว...เอ็งเป็นคนหรือเป็นงู ใบขนครุฑจะเป็นเครื่องพิสูจน์ มีแต่งูเท่านั้นที่จะถูกใบขนครุฑนี่เล่นงาน!”

ooooooo

อิทธิฤทธิ์ใบขนครุฑของเมืองอินทร์ทำให้คำแก้วล้มทั้งยืน ถูกใบไม้ปักอกจนเดินไม่ไหว คำปองเห็นลูกสาวทุรนทุรายก็จะช่วยแต่ไม่ว่าพยายามแค่ไหนก็ดึงไม่ออก

คำแก้วรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายขอให้แม่พาไปเทวาลัยเจ้าแม่นาคี สองแม่ลูกประคองกันออกจากบ้านอย่างทุลักทุเล โดยไม่รู้เลยว่าเมืองอินทร์มองตามจากมุมเดิมด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม

“จริงของนังลำเจียก นังผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่ต่อให้เอ็งจะเป็นงูผีนรกขุมไหนจำแลงมา ข้าก็จะจับเอ็งถลกหนังให้ได้!”

เจ้าแม่นาคีในร่างคำแก้วถอดจิตมาดึงใบขนครุฑออกทันทีที่เข้าเขตเทวาลัย พร้อมกับความจริงที่ว่าเมืองอินทร์ก็คือเจ้าอินทร์ หมอผีคู่ปรับของเจ้าแม่นาคีในชาติที่แล้ว

คำแก้วกับคำปองตื่นจากสลบไสลหลังจากนั้น เมื่อเห็นว่าอาการเจ็บปวดเพราะใบขนครุฑหายไป สองแม่ลูกก็ก้มกราบเทวรูปเจ้าแม่นาคีด้วยความศรัทธาสุดหัวใจ

“แม่ยกฉันให้เป็นลูกเจ้าแม่ เจ้าแม่เลยคุ้มครองให้ฉันรอดพ้นจากไอ้ใบไม้นรกนั่น”

“ไอ้ใบไม้ผีนั่นมันมาจากไหน ต้องมีใครปล่อยคุณไสยสกปรกใส่เอ็งแน่ๆ ไอ้หมออ่วมใช่ไหม”

คำปองตั้งท่าจะไปเอาเรื่องแต่คำแก้วก็ห้ามไว้ ไม่อยากก่อเวรก่อกรรมอีก

“อย่าเลยจ้ะแม่...กฎแห่งกรรมไม่เคยเข้าข้างคนชั่ว คนเลวหรอก มันทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลกรรมสักวัน!”

ลำเจียกชะล่าใจคิดว่าเมืองอินทร์คงกำจัดคำแก้วได้ ควงทศพลไปรอบเมืองเพื่อประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่ามีผัวแล้ว หนุ่มเมืองกรุงตกในมนต์ดำของหมอผีจากนาค-หนีไม่ขัดขืน แต่กระนั้นก็คาใจเรื่องคำแก้ว

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นงูจริงๆเหรอ”

ชื่อศัตรูหัวใจทำให้ลำเจียกเบิกตาโพลง ใส่ไฟใหญ่ “ไม่ใช่แค่งูธรรมดาแต่เป็นถึงบริวารเจ้าแม่นาคี อีคำแก้วมันเป็นนางปีศาจสารพัดพิษ คุณทศพลต้องระวังมันไว้ให้ดี อย่าอยู่ใกล้มันเด็ดขาดจำไว้”

ทศพลพยักหน้ารับแบบไม่รู้ตัวนัก แต่ไม่ทันขยับ ไปไหน พิมพ์พรก็โผล่มาอาละวาดใส่ลำเจียกด้วยความหึงหวง

“นังหน้าด้าน ไร้ยางอาย ทศพลเป็นของฉัน แกไม่มีสิทธิ์!”

“แต่ตอนนี้คุณทศพลเป็นผัวฉัน เขาดั้นด้นตามฉัน ไปอยู่ที่นาคหนี นอนกกฉันทั้งวันทั้งคืนจนฟ้าเหลืองเชียวล่ะ”

“ตอแหล! ทศพลไม่ตาต่ำคว้าผู้หญิงแพศยาชิงหมาเกิดอย่างแกมาเป็นเมียหรอก”

“ชะ...อีหูแหก! แกไม่เชื่อก็ลองถามคุณทศพลดูสิว่าจริงรึเปล่า”

ทศพลยืนยันว่ามีลำเจียกเป็นเมียรักคนเดียว พิมพ์พรถึงกับเต้นผ่าง ตั้งท่าจะไปตบลำเจียกให้หายแค้น แก๊งเพื่อนๆของทศพลเห็นท่าไม่ดีเลยรีบแยกทุกคน

จากกันแต่ก็เหมือนไม่ค่อยได้เรื่อง สุภัทรซึ่งทนดูสถานการณ์น่ารังเกียจนี้ต่อไปไม่ไหว ชักปืนยาวคู่ใจมายิงขึ้นฟ้า!

ooooooo

ทศพลในสภาพหน้าซีด ตาดำเหมือนคนซังกะตายเพราะยังอยู่ในมนต์ดำของเมืองอินทร์ถูกสุภัทรเรียกไปตำหนิหลังจากนั้น และท่าทางไม่ยี่หระเหมือนไม่รู้สึกผิดของลูกชายคนเดียวก็ทำให้โมโห ตบจนหน้าหัน

“พ่อตบผมทำไม”

“ยังมีหน้ามาถาม ฉันไม่เคยเลี้ยงแกมาให้เป็นผู้ชายมักมากเห็นแก่ตัวแบบนี้”

“พ่อเคยเลี้ยงผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่แม่ตาย ผมก็อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด พ่อนั่นแหละที่สอนให้ผมเห็นแก่ตัว ตอนนี้ผมจะเป็นหรือตาย จะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกมันก็เรื่องของผม พ่อไม่เกี่ยว!”

ลำเจียกเห็นท่าไม่ดี กลัวพ่อผัวไม่ยอมรับเลยช่วยไกล่เกลี่ย แต่ก็ถูกตอกกลับหน้าหงาย

“ฉันไม่ใช่พ่อเธอ แล้วก็เลิกยุ่งกับลูกชายฉันเสียที”

คนงามบ้านดอนไม้ป่าถึงกับหงอ ขยับไปเคล้าคลออ้อนผัวจนทศพลต้องประกาศกร้าว

“ลำเจียกเป็นเมียผม”

“เมียแกคือคำแก้ว กลับไปหาคำแก้วเดี๋ยวนี้!”

ทศพลสบตาพ่ออย่างไม่กลัว สวนเสียงแข็ง “ผมไม่กลับ! พ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผม ผมเกลียดผู้หญิงชื่อคำแก้ว ผมรักลำเจียกคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครที่จะพรากเราสองคนจากกันได้”

อาการหลงเมียแบบไม่ลืมหูลืมตาของทศพลทำให้ทุกคนเริ่มสงสัย โดยเฉพาะพิมพ์พรที่คิดว่าลำเจียกต้องทำบางอย่างแน่เพื่อแย่งเขาจากคำแก้ว ส่วนสุภัทร... รู้สึกผิดมากจนต้องไปขอโทษคำปองกับคำแก้วถึงบ้าน

“ฉันต้องขอโทษแทนเจ้าทศพลด้วยที่ทำตัวเหลวไหลแบบนี้ สำหรับฉัน...การแต่งงานมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไหนๆเจ้าพลก็เลือกจะแต่งงานอยู่กินกับหนูคำแก้ว มันก็ต้องดูแลรับผิดชอบให้ดี ไม่ใช่ไข่ทิ้งไข่ขว้าง มักมากแบบนี้”

คำปองถอนใจ เข้าใจสถานการณ์ดี “คนรักกันเพราะมีวาสนาต่อกัน คู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้ ด็อกเตอร์อย่าคิดมากเลย หากยังไม่สิ้นชาติสิ้นวาสนาต่อกัน พ่อทศพลก็จะกลับมาเอง”

สุภัทรส่ายหน้า ระอาใจเหลือเกินกับพฤติกรรมลูกชาย “ลูกมันเลี้ยงได้แต่ตัว เลี้ยงหัวใจมันไม่ได้ ฉันผิดเองที่ไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีให้ลูกมันได้ภูมิใจสักครั้ง ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ใครๆต่างยกย่องสรรเสริญไม่ได้ช่วยให้ครอบครัวฉันมีความสุขเลยสักนิด กว่าจะรู้ว่าครอบครัวสำคัญแค่ไหน มันก็สายเกินไปเสียแล้ว”

“คนเป็นพ่อเป็นแม่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกได้สบายทั้งนั้น วันใดที่พ่อทศพลมีลูก เขาจะเข้าใจหัวอกของด็อกเตอร์ว่าห่วงใยเขามากแค่ไหน”

คำแก้วซึ่งนั่งฟังอยู่ไม่ไกลกันนั้นสะเทือนใจมาก สุภัทรเวทนาปลอบเสียงอ่อน “หนูคำแก้ว...อย่าเสียใจไป

เลยนะ สักวันไอ้ทศพลมันหูตาสว่าง รู้ว่าอะไรเป็นเพชร อะไรเป็นกรวด มันก็จะกลับมาเอง”

“จ้ะพ่อ ฉันจะรอวันนั้น”

ooooooo

ระหว่างที่คำแก้วเฝ้ารอทศพลอย่างมีความหวัง เมืองอินทร์ก็เดินหน้าหาวิธีจัดการเจ้าแม่นาคีและคนแรกที่เขาไปหาข้อมูลก็คือสัปเหร่อคง ซึ่งมีหน้าที่ขุดหลุมฝังศพที่ถูกเจ้าแม่นาคีฆ่า

“ศพที่เป็นเครื่องสังเวยเจ้าแม่นาคีจะถูกแยกมาฝังต่างหากที่ป่าช้าผีดิบนี้”

“คนตายแล้วก็เป็นผีเหมือนๆกัน จะต้องแยกฝังให้ยุ่งยากทำไม”

“เป็นธรรมเนียมของหมู่บ้านดอนไม้ป่า เชื่อกันว่าคนที่ถูกงูฉกตายจะต้องกลายเป็นบริวารเจ้าแม่นาคีจนกว่าจะมีตัวตายตัวแทน แน่ใจนะว่าคืนนี้จะพักแรมที่นี่”

“ต่อให้เฮี้ยนกว่านี้ข้าก็เคยนอนมาแล้ว”

ท่าทางผยองของเมืองอินทร์ทำให้สัปเหร่อคงอดเตือนด้วยความหวังดีไม่ได้

“คนที่ลบหลู่ท้าทายเจ้าแม่นาคีไม่เคยตายดีสักคน ยังหนุ่มยังแน่น ริจะต่อกรกับเจ้าแม่นาคี คิดดีแล้วเหรอ”

เมืองอินทร์แสยะยิ้มร้าย แววตาหมายมาดเอาชนะ “ข้าเรียนไสยศาสตร์มาจากหลายสำนัก ร้อนวิชาต้องออกตระเวนไปทั่ว ทั้งผีโป่ง ผีป่า ผีตายห่าตายโหง...ข้าเคยปราบมาแล้วทั้งนั้น”

“แล้วพ่อหมอมาที่ดอนไม้ป่านี่ทำไม อย่าบอกนะว่า...”

ไม่ใช่แค่เมืองอินทร์ที่เตรียมกำราบเจ้าแม่นาคี พวกกำนันแย้มซึ่งบุกป่าฝ่าดงถึงภูพระนางก็เอาเหล็กไหลมาจนได้ หมออ่วมกำเหล็กไหลในมือแน่น ก่อนประกาศจะใช้ดาบเหล็กไหลปราบเจ้าแม่นาคี

“ข้าจะเอาเหล็กไหลก้อนนี้ทำพิธีตีดาบศักดิ์สิทธิ์ คราวนี้ต่อให้มีงูบริวารเจ้าแม่นาคีอีกกี่ตัว ข้าก็จะฟันมันให้ยับ”

“ข้าอยากเห็นนังงูผีถูกดาบเหล็กไหลบั่นคอเสียวันนี้วันพรุ่ง วิญญาณเจ้าเลื่องจะได้ตายตาหลับไปผุดไปเกิด”

“อีกไม่นานเกินรอหรอกกำนัน เลือดนังงูปีศาจจะต้องสังเวยคมดาบของข้า!”

คำแก้วไม่ได้ยี่หระว่าอันตรายจะถึงตัว บุกไปค้นบ้านลำเจียกเพื่อหาวิธีจะถอนมนต์ดำจากตัวทศพล แต่ไม่ทันเจอของต้องสงสัย เมืองอินทร์ก็โผล่มาขัดขวางและเล่นงานเธอจนต้องหนีไปตั้งหลัก

ลำเจียกนอนกกกอดกับทศพลบนบ้านไม่รู้เรื่อง แต่เสียงละเมอเพ้อถึงคำแก้วของเขาก็ทำให้โกรธจัด

“หน็อย...นังงูผี! มันคงอยากแย่งคุณทศพลไปจากลำเจียกจนตัวสั่น ขนาดในความฝันมันยังตามมาราวี”

“ผมไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ชื่อคำแก้วจะเป็นงู”

“นังคำแก้วมันเกิดวันสุริยคราส นาคราชกลืนดวง ตะวัน งูบริวารเจ้าแม่นาคีเลยเข้าสิงร่างนังคำแก้วตั้งแต่เด็ก ทำให้มันมีสภาพครึ่งคนครึ่งงู มีอิทธิฤทธิ์กลายร่างเป็นงูเผือกมีหงอนได้”

“งูสิงร่างคน ไม่น่าเป็นไปได้”

“ลำเจียกบอกว่าเป็นก็เป็นสิ ทำไมคุณทศพลถึงไม่เชื่อ หรือว่าคุณทศพลไม่รักลำเจียกแล้ว”

พูดจบก็ค้อนควัก ทศพลต้องง้อเพราะยังอยู่ในอำนาจของมนต์ดำ

“รักสิครับ ผมรักลำเจียกคนเดียว จะให้ผมตายเพื่อคุณก็ยังได้”

“ถ้างั้น...ทำให้ลำเจียกเห็นสิจ๊ะว่าคุณทศพลรักลำเจียกมากแค่ไหน...”

ooooooo

เพลงรักของทศพลกับลำเจียกบรรเลงตลอดคืน หลังจากนั้น โดยมีเมืองอินทร์เฝ้าระวังตลอด เลื่อมประภัส กับฉัตรสุดาเจ็บใจแทนคำแก้วที่ถูกทำร้ายปางตาย เลยไปตามวัชระปราการมาล้างแค้น

เมืองอินทร์เห็นวัชระปราการในร่างมนุษย์ปรากฏตรงหน้าก็แสยะยิ้ม

“มึงเป็นบริวารของนังเจ้าแม่นาคี แน่จริงก็กลายร่างเป็นงูสิวะ กูจะได้ถลกหนังมึงอีกตัวไอ้หัวหงอน!”

“ไอ้หน้าตัวเมีย รังแกได้กระทั่งผู้หญิง หมอผีทุศีลอย่างมึงอยู่ก็หนักแผ่นดิน เดรัจฉานวิชาจักพาให้มึงฉิบหาย”

ท่าทีแข็งกร้าวของวัชระปราการไม่ได้ทำให้เมืองอินทร์หวั่นเกรงแม้แต่น้อย หัวเราะลั่น

“มึงฆ่าคนสังเวยไปแล้วกี่ศพวะ ถึงได้มีฤทธิ์เดชจำแลงร่างเป็นมนุษย์ได้”

“จักกี่ศพก็ช่าง แต่ศพต่อไปจักเป็นมึง ไอ้หมอผีชั้นต่ำ!”

“กูเคยกำราบนายมึงจนกลายเป็นงูไร้พิษสงต้องเลื้อยหนีหัวซุกหัวซุนมาแล้ว ทำไมคราวนี้กูจะจับบริวารชั้นต่ำอย่างมึงแล่เนื้อถลกหนังไม่ได้วะ”

“ที่นั่นมันนาคหนี แต่ที่นี่ดอนไม้ป่าจะเป็นป่าช้าฝังศพเจ้า...เจ้าอินทร์!”

“อยากลองดีกับกูก็เข้ามา”

ขาดคำหมอผีหนุ่มก็คว้าไม้ตะพดกลดนาคอาวุธคู่ใจฟาดงูใหญ่ในร่างมนุษย์ไม่ยั้ง วัชระปราการสู้ไม่ถอย และเกือบพลาดท่าถูกฆ่า ถ้าจะไม่ตัดสินใจพ่นไฟใส่ไม้ตะพดจนหักสองท่อน เสื่อมอาคมในที่สุด!

หลังทำลายอาวุธคู่ใจของหมอผีหนุ่มจากนาคหนี วัชระปราการก็กระเสือกกระสนหอบร่างสะบักสะบอมกลับถึงถ้ำใต้เทวาลัย เลื่อมประภัสกับฉัตรสุดาเจ็บใจมาก หาทางจะล้างแค้น แต่การสู้ซึ่งหน้าคงทำอะไรเมืองอินทร์ไม่ได้ เลยคิดจะใช้เล่ห์กลและมารยาร้อยเล่มเกวียนของอิสตรีแทน...

คำแก้วก็แค้นเมืองอินทร์หรือเจ้าอินทร์คู่ปรับจากอดีตชาติไม่แพ้กัน และคืนนั้นเอง เธอก็เกิดนิมิตถึงเหตุการณ์ในอดีตต่อเนื่องจากคราวก่อน เมื่อกรรเจียกตรอมใจเพราะรู้ว่าไชยสิงห์มีคนรักแล้ว

หมอหลวงถูกตามตัวมาตรวจธิดาคนโตของพระเจ้านิรุทธราช แล้วก็พบว่าเธอมีไข้ทางใจเพราะรักไม่สมหวัง กรรเจียกร้องไห้น้ำตานองหน้า ก่อนจะสารภาพว่าหลงรักไชยสิงห์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น

“ลูกเอ๋ย...บุรุษหมื่นแสนทั่วทั้งแดนดิน เหตุใดลูกจึงไม่ปองใจใฝ่รัก ใยเจ้าต้องรักไอ้เชลยศึกด้วย”

“หากลูกไม่ได้เขาเป็นคู่ครอง ลูกก็ขอตรอมใจตายเจ้าพ่อ”

พระเจ้านิรุทธราชถึงกับอึ้ง แต่คงไม่เท่าพิมพาวดี ที่แค้นแทบกระอักเมื่อรู้ว่าพี่สาวรักชายหนุ่มคนเดียวกัน!

ooooooo

เพราะความรักลูกแท้ๆ พระเจ้านิรุทธราชเลยยอมจัดพิธีสยุมพรให้กรรเจียก ไชยสิงห์จะปฏิเสธเพราะไม่เคยมีใจปฏิพัทธ์ธิดาคนโตของศัตรู เลยถูกขู่จะฆ่าเสนาบดีทั้งสี่หากไม่ยินยอม

“ตอนนี้ชีวิตเจ้าแลอ้ายขุนทั้งสี่อยู่ในกำมือข้า จักบีบ ก็ตาย จักคลายก็รอด หวังว่าเจ้าคงไม่ปฏิเสธไมตรีจากข้า”

ไชยสิงห์อึดอัดใจมากแต่ไม่วายต่อรองให้ปล่อยตัวเสนาบดีทั้งสี่กลับปัตตนคร แต่พระเจ้านิรุทธราชก็ไม่ยอม

“ในเมื่อข้าเป็นเชลยของท่าน อยากจะทรงทำเยี่ยงใดกับข้าก็เอาเถิด”

“วันใดที่เจ้าทำลูกข้าเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ข้าจักกุดหัวเจ้าและบดขยี้ปัตตนครให้แหลกเป็นเถ้าธุลี จำไว้!”

แม่ทัพใหญ่แห่งปัตตนครตกในสถานการณ์ลำบาก นาคีซึ่งจำศีลในถ้ำใต้บาดาลเหมือนจะรับรู้ เลยตัดสินใจจะหนีไปหาด้วยความรักและคิดถึง เลื่อมประภัสกับฉัตรสุดาปรี่มาห้าม

“พวกเจ้าอย่าห้ามข้าเลย ต่อให้ข้านั่งจำศีลภาวนาที่นี่ ใจของข้าก็ไม่อาจสงบได้ เลื่อมประภัส ฉัตรสุดา...ข้าขอเพียงแค่เห็นหน้าไชยสิงห์อีกสักครั้ง แล้วข้าจักรีบกลับมา”

พูดจบก็ออกจากถ้ำใต้บาดาลอย่างรวดเร็ว ทิ้งสองสาวคนสนิทให้มองตามอย่างไม่สบายใจนัก ก่อนจะฉุกใจคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ...เหตุใดท้าวศรีสุทโธถึงไม่มีโองการให้วัชระปราการมาเฝ้าปากถ้ำ แต่กลับปล่อยให้หลานสาวคนเดียวไปเมืองมนุษย์โดยไม่ขัดขวางเหมือนเคย

ไชยสิงห์ไม่รู้ว่านาคีจะมาหา มัวรับมือกรรเจียกที่ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนน่ารำคาญ

“ข้ามีคนที่ข้ารักอยู่แล้ว มิอาจแปรหัวใจเป็นอื่นได้”

“ถึงอย่างไรวันพรุ่งเจ้าก็ต้องเข้าพิธีสยุมพรกับข้า!”

นาคีมาถึงทันเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และทันทีที่ลับร่างกรรเจียกก็ปรากฏร่างให้ชายคนรักเห็น

“แม่นางไม้...เจ้ามาที่นี่ได้เยี่ยงไร”

“ท่านกำลังเข้าพิธีสยุมพรกับองค์หญิงกรรเจียก ท่านลืมความรักของเราแล้วกระนั้นหรือ”

“มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะแม่นางไม้”

“ไม่ใช่อย่างที่ข้าคิด แล้วมันหมายความว่าอย่างไร ข้าอุตส่าห์เฝ้ารอท่าน เป็นห่วงท่าน แต่ท่านกลับลืมข้าจนหมดสิ้น ท่านทวนคำสัตย์สาบานที่เคยให้ไว้กับข้า ข้าไม่น่าหลงเชื่อท่านเลย!”

ooooooo

นาคี

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด