ตอนที่ 11
“ผู้ชายอีกคนที่จับตัวฉันไปอาจจะเป็นเสี่ยมนูญ”
“เรื่องนี้เราจะพูดลอยๆโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้ เราต้องหาทางพิสูจน์”
ลวิตานึกได้ว่าจะพิสูจน์อย่างไร...ขณะที่เสี่ยมนูญกำลังดูมีนาอยู่ในห้อง ลวิตาโทร.เข้ามาหา ทำทีถามอาการมีนาว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เสี่ยตอบว่าให้กินยาแล้ว อาการดีขึ้น ขอบใจที่เป็นห่วง ลวิตาจึงฝากความห่วงใยถึงมีนาแล้ววางสายไป
ลวิตาหันมาบอกปวัตรว่าได้อัดเสียงเสี่ยมนูญไว้แล้ว ปวัตรรับโทรศัพท์จากลวิตามาจะเอาเสียงเข้าแอปเปลี่ยนเสียง แล้วให้ลองฟังดูว่าใช่เสียงคนที่จับเธอไปหรือเปล่า
พอลวิตาได้ฟังประโยคที่เสี่ยมนูญพูดเป็นเสียงแหบๆ เพราะผ่านแอปเปลี่ยนเสียง เธอหลับตาฟังสักครู่ก็กลืนน้ำลายเอื๊อกยืนยัน
“เสี่ยมนูญกับผู้ชายที่จับตัวฉันไปเป็นคนเดียวกัน...”
ขณะเดียวกันเสี่ยมนูญไถลปืนไปบนโต๊ะตรงหน้าลูกน้องที่มีรอยสักที่ข้อมือ สั่งให้เก็บลวิตากับปวัตรเสีย ลูกน้องรับคำเก็บปืนแล้วเดินออกไป เสี่ยมนูญแววตากร้าว...
ค่ำวันนั้นลูกน้องเสี่ยมนูญเข้ามาในห้องคอนโด เห็นไฟมืดมิดก็เข้าใจว่าลวิตาหลบมาอยู่ที่นี่ จึงตรงเข้าไปยิงคนที่นอนบนเตียง ทุกอย่างสงบนิ่งจึงเปิดผ้าห่มออกดู เห็นว่าเป็นตุ๊กตาหมีก็ตกใจ และมีกระดาษแปะไว้ว่า...แกถูกหลอกแล้ว
ไฟในห้องสว่างพรึ่บขึ้น ปวัตรพุ่งเข้าแย่งปืน ทรงพล สว่างและโฉมฉายช่วยกันล้อมจับ เค้นถามว่าใครส่งเขามา เมื่อคนร้ายเงียบไม่ตอบ สว่างขู่จะกระทืบ แต่โฉมฉายแย้งว่าแบบนี้ต้องทรมานด้วยการเอาน้ำร้อนใส่กะละมังแล้วจับมือคนร้ายจะจุ่มลงไป คนร้ายขืนตัวสุดฤทธิ์
“บอกแล้วบอกแล้ว...” ทุกคนรอฟัง “คนที่ส่งฉันมาเก็บแกสองคนคือคุณไตรภพ เสี่ยมนูญไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย คนที่อยู่แก๊งค้ายาคือคุณไตรภพคนเดียวเท่านั้น คืนนั้นที่คุณตกลงมาจากคอนโดก็เป็นฝีมือของคุณไตรภพ เขาพยายามฆ่าคุณหลายต่อหลายครั้ง แต่คุณก็รอดไปได้”
“แกไปบอกรายละเอียดเรื่องนี้กับตำรวจเถอะ” ปวัตรเข่นเขี้ยว
“คิดว่าตำรวจจะช่วยพวกคุณได้เหรอ ไม่มีใครช่วยพวกคุณได้หรอก ลองคิดดูให้ดี ว่าทำไมคุณไตรภพถึงอยู่อย่างสบายมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะมีเส้นสายจากคนผู้มีอิทธิพลคอยช่วย”
“แล้วเสี่ยมนูญไม่สงสัยอะไรบ้างเลยเหรอ”
“สงสัยสิ แต่เสี่ยทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐาน”
ทุกคนฟังแล้วสิ้นหวัง คนร้ายฉวยโอกาสสะบัดตัวหนีออกไปได้ แล้ววิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์หน้าคอนโด ราวกับเตรียมการไว้พร้อม ลวิตาเครียดจนเป็นลมล้มพับ
ooooooo