ตอนที่ 11
“ใช่ค่ะ ฉันเห็นเหตุการณ์วันที่มิคกับพวกของเขาฆ่าใครสักคน แต่ฉันไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร” ผู้กำกับถามว่าจำไตรภพได้คนเดียวหรือ ลวิตารับว่าใช่ คนอื่นๆยังนึกไม่ออก
“ใครจะไปคิดว่าพระเอกในจอจะกลายเป็นผู้ร้ายนอกจอ เรื่องนี้มันอันตรายมาก คนพวกนี้ถ้าลองรู้ว่าใครทำให้เสียผลประโยชน์ มันจะฆ่าตัดตอนทันที พวกคุณสามคนกำลังแหย่เท้าเข้าไปในดงเสือแล้วรู้ตัวไหม”
“พวกเราทราบ แต่ถ้าจะให้พวกเราปิดหูปิดตาทำเป็นไม่รู้เรื่อง มันก็ทำไม่ได้ครับ”
ทรงพลเสริมต่อปวัตร “คนตัวเล็กๆอย่างพวกเรา คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เราถึงต้องมาขอคำปรึกษาจากท่าน”
“ผมเข้าใจ เท่าที่ฟังแก๊งนี้น่าจะมีขาหลายขา เผลอๆ
อาจจะมีการแทรกซึมอยู่ทุกวงการ ไตรภพคงเป็นหนึ่งในหัวหน้าสาขาของแก๊งนี้ เรื่องนี้จะไม่มีวันจบง่ายๆ อาจจะกินเวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปีในการหาหลักฐานเพื่อรวบรวมแก๊งนี้ทั้งหมด”
“ท่านคิดว่าเราควรจะจัดการยังไงต่อไปดีคะ”
“สิ่งสำคัญตอนนี้ คุณต้องรีบหาธัมบ์ไดรฟ์นั้นให้เจอและเอามาให้ผม ต่อจากนั้นผมจะเป็นคนจัดการเอง”
ทั้งสามคนรับคำ ผู้กำกับประชารับรองจะต้องถอนรากถอนโคนพวกนี้ให้ได้ ถ้ามีอะไรติดต่อตนได้โดยตรง
ปวัตรรับคำ...ทั้งสามคนกลับออกมาจากบ้านท่านด้วยความรู้สึกสบายใจไปเปลาะ เพราะเชื่อว่าผู้กำกับประชาเป็นข้าราชการซื่อตรง ต้องช่วยพวกตนได้แน่
ooooooo
ที่บ้านมยุราถูกคนของเสี่ยมนูญบุกจับแม่บ้านมัดไว้แล้วขึ้นไปค้นห้องลวิตาจนกระจัดกระจาย มยุรากลับมาเจอแม่บ้านถูกมัดก็ตกใจมาก ย่องขึ้นไปดูข้างบนเห็นคนร้ายกำลังรื้อค้นก็รีบโทร.แจ้ง 191 คนร้ายได้ยินกลับลงมาจับมยุรามัดอีกคน แล้วค้นห้องรับแขกกระจุย
เมื่อไม่พบธัมบ์ไดรฟ์ก็จะทำการเผา โดยราดน้ำมันตรงหน้าประตูทางเข้าบ้าน มยุราตาเหลือกร้องอู้อี้ ทันใด
นั้นเองปวัตรกับทรงพลเข้ามาจัดการคนร้ายและจับตัวไว้ได้สองคน ลวิตาเข้ามาช่วยแก้มัดให้แม่และแม่บ้าน เธอเห็นรอยสักที่ข้อมือคนร้ายคนที่กำลังหนี เธอตกใจมาก
ตำรวจมาถึงจับคนร้ายคนที่มีรอยสักไม่ทัน
มันหนีไปได้ จึงรวบสองคนที่เหลือไปโรงพัก ทรงพลไม่มั่นใจว่าจะไว้ใจตำรวจกลุ่มนี้ได้หรือไม่ ลวิตาเสนอให้โทร.บอกผู้กำกับประชาเรื่องนี้ เผื่อท่านมีลูกน้องที่ไว้ใจได้ สองหนุ่มเห็นด้วย
ปวัตรขอให้มยุรากับลวิตาย้ายไปอยู่ที่คอนโดเพราะอยู่ที่บ้านไม่ปลอดภัยอีกต่อไป โดยให้อยู่ห้องทรงพลและให้ทรงพลมาอยู่กับตนแทน ลวิตาเกรงใจแต่มยุรากลับเห็นดีด้วย