ตอนที่ 1
ทรงพลมาเพื่อจะขอเป็นแฟนกับนรี เพราะเห็นว่าเป็นน้องสาวจึงขออนุญาตก่อน ปวัตรเหมือนถูกกรีดดวงใจถามกลับว่านรีคิดอย่างไร แล้วได้ยินคำบอกกล่าวที่บาดใจ
“ถ้าฉันไม่ได้เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ฉันคิดว่ารีมีใจให้ฉันเหมือนกัน”
ทรงพลเห็นปวัตรนิ่งก็คิดว่าไม่ตกลง ปวัตรพยายามพูดว่าอย่าทำให้น้องตนเสียใจก็พอ ทรงพลดีใจกลับไป ปวัตรยืนน้ำตาไหลเจ็บปวดจนรำพึงออกมา
“การรักใครซักคนโดยไม่อาจครอบครอง ถือเป็นความทุกข์ใจที่แสนสาหัส จนผมอยากจะหนีหายไปจากโลกใบนี้”...
ค่ำคืนเดียวกันลวิตาเดินเล่นจนกลับมาที่โฮมสเตย์เลยสี่ทุ่ม ประตูบ้านปิด เธอตกใจที่เข้าไม่ได้ พอดีลุงป่านออกมารับและแปลกใจที่ทำไมเธอลืมว่าที่นี่ถ้ากลับหลังสี่ทุ่มจะต้องไปเข้าประตูหลัง หญิงสาวทำหน้าเก้อเออออไปว่าลืมทั้งที่ความจริงเธอจำอะไรที่นี่ไม่ได้เลย...ลวิตาแปลกใจที่ลุงป่านพูดภาษากลางได้ชัด เขาบอกว่าเขาเป็นคนกรุงเทพฯ ภรรยาเป็นคนที่นี่ พอเธอเสียจึงเอากระดูกกลับบ้าน แล้วเกิดติดใจบรรยากาศที่นี่จึงใช้ชีวิตอยู่ตลอดมา
ลวิตาน้ำตาซึมซาบซึ้งกับความรักของลุงป่าน ลุงป่านถือโอกาสแสดงความเห็นใจลวิตาเรื่องที่เธอประสบมา และขอให้เธอได้เจอคนดีๆที่รักเธอจริง ลวิตายิ้มอย่างซึ้งใจ
รุ่งเช้าปวัตรโผล่มาขอทำงานกับลุงป่านสองสามเดือน ลุงดีใจเพราะปวัตรเป็นลูกของเพื่อนรัก แต่ก็เหน็บว่าครูเปียโนจะปูที่นอนเป็นหรือ เขาสวนทีช่างซ่อม เปียโนยังเปิดโฮมสเตย์ได้ ลุงป่านหัวเราะที่หลานยอกย้อนไม่เปลี่ยน แต่เอะใจว่าหรือเขาหนีอะไรมา ปวัตรกลบเกลื่อนว่าเคลียร์งานได้อยากพักผ่อนและว่าพ่อฝากบอกให้เพื่อนรักไปหาบ้าง ลุงป่านโวย
“ถ้าข้าไปหาพ่อเอ็งก็แสดงว่าข้าตายไปแล้วสิวะ ไอ้นี่ มาถึงไม่ทันไรก็แช่งกันเลย”
ปวัตรหัวเราะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น พอดีมีแขกโทร.สั่งน้ำ เขาจึงขอเริ่มทำงานเอาน้ำไปส่งให้แขกเอง...ลวิตาเปิดประตูออกมาเจอหน้าปวัตร ต่างคนต่างตกใจ ลวิตาโวยว่าซวยจริงๆอยากอยู่อย่างสงบก็ไม่ได้! คว้าขวดน้ำแล้วพลาดทำหล่นใส่เท้าเขา เกิดการถกเถียงกันยกใหญ่ ลุงป่านต้องมาเคลียร์ แล้วก็รู้สึกว่าความสงบกำลังจะจากไปเสียแล้ว
ooooooo