เรื่องย่อละคร
พุทธศักราช ๒๕๕๐ (ปัจจุบัน)
‘นายแพทย์ทินกฤต’ (เจมส์ มาร์) และ ‘แพทย์หญิงพิมพ์พิศา’ (ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันต์) เป็นคู่รักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์ด้วยกัน จนกระทั่งเรียนจบ พิมพ์พิศาก็มาทำงานเป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลที่บิดาของทินกฤตเป็นเจ้าของ ทั้งสองคนรักกันดี แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะแต่งงานกัน ทุกครั้งที่พิมพ์พิศาเอ่ยถึงเรื่องนี้ ทินกฤตก็จะปฏิเสธเรื่อยไปโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จนกระทั่งเมื่อทั้งคู่ขึ้นมาดูที่ดินที่เชียงใหม่ ทินกฤตก็รู้สึกว่าตนเองมีความผูกพันกับที่ดินผืนนั้น เขาฝันถึงอดีตบ่อยๆ และทุกครั้งจะมีกลิ่นดอกกาสะลอง (ดอกปีบ) อบอวลไปทั่ว เช่นเดียวกับพิมพ์พิศาที่ได้รับปิ่นจากชายลึกลับผู้มาเจรจาเรื่องที่ดิน ก็รู้สึกว่าปิ่นเงินอันนั้นรบกวนจิตใจเธออย่างบอกไม่ถูก บางครั้งก็ฝันประหลาดจนเสมือนว่าตัวเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
ทินกฤตตัดสินใจซื้อที่ดินผืนนั้นอย่างไม่ลังเลเพื่อปลูกบ้านส่วนตัว มิใช่ปลูกเป็นเรือนหออย่างที่พิมพ์พิศาเข้าใจ เมื่อทินกฤตใส่ใจกับการดูแลบ้านหลังใหม่มากกว่าเรื่องอื่นใด พิมพ์พิศาก็เริ่มจะรู้สึกว่าคู่รักเปลี่ยนไปมากขึ้น แม้ว่าทินกฤตจะไปมาหาสู่ที่บ้านของเธอบ่อยๆ แต่เขาไม่ได้ไปเพื่อพบเธอ แต่กลับตั้งใจไปพบนาง 'บัวเกี๋ยง' (พิศมัย วิไลศักดิ์) ย่าของพิมพ์พิศา ผู้ซึ่งพิมพ์พิศาปักใจเชื่อว่าย่าไม่รักหล่อน จนอาจถึงขั้นเกลียด สำหรับนางบัวเกี๋ยงนั้น แม้จะมีอาวุโสมาก แต่เมื่อทินกฤตไปพบ นางก็จะทำตัวยำเกรงชายหนุ่มประดุจตนเองเป็นผู้น้อยอยู่ตลอดเวลา
‘นายแพทย์ภาคภูมิ’ (ป๊อบ - ฐากูร การทิพย์) คือเพื่อนสนิทของทินกฤต กำลังจีบ ‘วิจิตรา’ (ฝ้าย - นันทนัช โล่ห์สุวรรณ) โปรดิวเซอร์สาวซึ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นเพื่อนกับพิมพ์พิศาสมัยเรียนมัธยม ภาคภูมิช่วยประสานงานให้กองถ่ายของวิจิตรามาใช้สถานที่ถ่ายทำในโรงพยาบาลของทินกฤต ทำให้คนทั้งหมดมาเจอกันและมีแผนเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยกัน โดยไม่มีใครรู้ว่าทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกันมาจากอดีตชาติ และการไปเชียงใหม่ครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไป...
ทินกฤตยอมให้วิจิตรามาชมบ้านใหม่ของเขา ทั้งที่เขาหวงนักหนา ทำให้พิมพ์พิศาคิดว่าทินกฤตมีใจให้กับวิจิตรา ยิ่งทินกฤตแอบกลับไปพักที่บ้านใหม่ของเขาทั้งที่จองที่พักในเมืองไว้แล้ว ยิ่งทำให้พิมพ์พิศาคิดฟุ้งซ่าน ขับรถตามไปอย่างฉุนเฉียวจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น พิมพ์พิศารถคว่ำ คนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทินกฤต ภาคภูมิ และวิจิตรา กลับได้รับคำตอบว่า พิมพ์พิศากลับกรุงเทพไปแล้วโดยไม่บอกใคร ซ้ำรถที่พิมพ์พิศาเช่ามาขับก็มิได้เกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด ไม่มีใครรู้ว่า ทั้งหมดนี้เกิดจากการบันดาลของ "วิญญาณกาสะลอง"
หลังจากอุบัติเหตุรถคว่ำ วิญญาณของกาสะลองเข้ามาสิงในร่างของพิมพ์พิศาหรือ ‘ซ้องปีบ’ ในอดีตชาติ บางครั้งพิมพ์พิศาจึงได้รู้ได้เห็นเหตุการณ์ในอดีตอย่างคนนอก แต่บางครั้งก็รู้สึกเสมือนทำด้วยตนเอง ทินกฤตมีโอกาสได้พบพิมพ์พิศาเพียงครั้งเดียวที่กรุงเทพ แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอมิใช่พิมพ์พิศาคนเดิมที่เขารู้จัก หากเป็นใครอีกคนที่เขาคุ้นเคยในความฝัน ในที่สุดทินกฤตจึงชวนพิมพ์พิศากลับไปเชียงใหม่อีกครั้ง ทั้งๆ ที่นัดหมายกันเป็นอย่างดี แต่วันเดินทาง มารดาของพิมพ์พิศาบอกว่าหล่อนล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เมื่อทินกฤตไปถึงบ้านที่เชียงใหม่ก็พบว่า พิมพ์พิศาคอยอยู่ที่นั่นแล้วจริงๆ ทว่าหล่อนอยู่ในเครื่องแต่งกายที่แปลกออกไป คล้ายกับการแต่งกายของชาวล้านนาในอดีต
ภาคภูมิและวิจิตราร่วมทางมาเชียงใหม่ด้วย แต่จู่ๆ ก็พลัดหลงกับทินกฤตและพิมพ์พิศาที่งานสงกรานต์ ตามหาเท่าไรก็ไม่พบ สุดท้ายจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ ก็พบพิมพ์พิศาเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่บ้าน ส่วนทินกฤตก็หายตัวไปจริงๆ...ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นฝีมือของ ‘กาสะลอง’
มณฑลพายัพในอดีต (พ.ศ.๒๔๖๗ ปลายรัชกาลที่ ๖ ต่อรัชกาลที่ ๗)
‘ทรัพย์’ (เจมส์ มาร์) นายหมอหนุ่มเชื้อสายจีนนั่งเรือหางแมงป่องที่ขนสินค้าจากกรุงเทพมาขายที่เชียงใหม่เพื่อทำงานในโรงพยาบาลของคณะมิชชันนารี ในเช้ามืดวันที่เรือจะเข้าเทียบท่านั้นเอง เรือติดแก่ง ลูกถ่อทั้งหลายจึงต้องช่วยกันประคองเรือไม่ให้คว่ำ ในความสลัวนั้นนายหมอหนุ่มก็เห็นว่า มีหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังเก็บดอกไม้ที่ท่าน้ำ และมองตลอดเวลาที่เรือโคลงเคลง เขาประทับภาพนั้นไว้ในความทรงจำตั้งแต่แรกเห็นเรือเทียบท่าเมื่อฟ้าสางขณะที่นายหมอทรัพย์เดินผ่านตลาดเพื่อไปยังที่พัก เขาได้เห็นหญิงสาวผู้เก็บดอกไม้ที่ท่าน้ำ แต่ ‘นางเหมย’ (ฝ้าย - นันทนัช โล่ห์สุวรรณ) ผู้ติดตามหญิงสาวผู้นั้นเห็นเข้าเสียก่อน จึงกันนายสาวออกไปเสีย เมื่อถึงที่พักนายหมอทรัพย์ก็ได้พบ ‘บัวเกี๋ยง’ (อันดา - กุลฑีรา ยอดช่าง) เด็กหญิงตัวน้อยมาคอยเขาอยู่ในห้องพัก
กาสะลองขาวนวลผ่องเหน็บเกศา
เข้าปลดมาให้พี่เชยรำลึกได้
หอมบุปผาฤาจะเทียบหอมกลิ่นกาย
อกเรียมร่ำจะวางวายด้วยกลิ่นนวล
ความคำนึงถึงสาวที่ท่าน้ำ ทำให้นายหมอทรัพย์สอบถามจากผู้คนในตลาด ได้ความว่า นางชื่อ ‘ซ้องปีบ’ เป็นลูกสาวของ 'นายแคว้นมั่ง' (มนตรี เจนอักษร) ผู้เกลียดชังฝรั่งและคนจีนหนักหนา แต่ถึงกระนั้น นายหมอทรัพย์ก็ยังมาที่ท่าน้ำและได้พบหญิงสาวคนเดิม ได้พูดจากันบ้าง นางมิได้บอกว่าชื่ออะไร เพียงแต่พยักหน้าไปทางดอกปีบที่ร่วงอยู่ ซึ่งดอกปีบนั้น เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า กาสะลอง