ตอนที่ 1

โรม วชิรวัฒน์ ทนายหนุ่มหล่อจบโทจากเคมบริดจ์ ผ่านเจอรถแท็กซี่ประสบอุบัติเหตุ เขาโทร.แจ้งศูนย์จราจรช่วยผู้ป่วยโรคหัวใจ โทร.เรียกรถมูลนิธิมารับแล้วจึงขับรถออกจากจุดรถติดมุ่งหน้าไปที่ร้านกาแฟเก๋ๆชิกๆในย่านธุรกิจทันที

ในร้านกาแฟ ลูกค้าในร้านทุกคนก้มหน้าก้มตาอยู่กับโลกโซเชียล มีแต่โรมที่เพิ่งเข้ามาไปนั่งอ่านหนังสือการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจฆ่าเวลาอยู่ ครู่เดียวเสียงมือถือของโรมดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์อันเล็กที่ใช้รับและโทร.ออกเท่านั้นขึ้นมากดรับท่ามกลางผู้คนในร้านที่พากันมองเป็นตาเดียว แต่โรมรับสายไม่สนใจ

“มานั่งรอตั้งนานแล้วโว้ย แกนั่นแหละใกล้มาถึงรึยัง”

โรมนัดพบแดน เมื่อโทร.ถามและเห็นกันแล้วก็มานั่งคุยกัน โรมให้แดนช่วยเช็กที่อยู่ของบางคนให้

แดนบ่นว่าเมื่อไหร่เขาจะเปลี่ยนโทรศัพท์ที่มันทำอย่างอื่นได้นอกจากรับเข้าโทร.ออกเสียที

“เวลาคุยกันฉันชอบมองตาไม่ใช่เอาแต่ก้มหน้า ก้มตาพิมพ์ข้อความคุยกันไปมา”

“โอ้โห ไอ้หล่อเลือกได้ เพราะเล่นตัวแบบนี้ไง มิน่าล่ะ โสดค้างปีไม่มีใครเอา”

“เฮ้ย...หยุดเลยไอ้แดน ก่อนจะดูถูกกันแกเองก็แผลเหวอะหวะอยู่นะโว้ย หมาตัวไหนที่อกหักทีก็ร้องไห้ฟูมฟายจะโดดหอไอเฟลตายให้ได้ วุ่นวายให้ฉันเสียเวลาพักร้อน”

แดนถูกย้อนเลยตัดบท เอาที่อยู่ที่โรมขอให้บอกว่า ที่อยู่ของหมอนั่น ธุระของตนจะได้เสร็จเสียที มีคดีใหญ่ที่ฝรั่งเศสต้องรีบไปจัดการด้วย โรมถามว่าคดีอะไร แดนไม่บอกเพราะเป็นความลับของตำรวจสากล

คุยธุระเสร็จแล้ว ทั้งสองมองลูกค้าในร้านต่างก้มหน้า ก้มตาพิมพ์ข้อความรัว แดนดูแล้วบอกโรมว่า

“สมัยนี้รอแต่จ้องตาอย่างเดียว หาให้ตายก็ไม่เจอ คนรู้ใจมันต้องจ้องจอด้วยโว้ยถึงจะเจอ ไม่งั้นชาตินี้แกได้แก่ตายคาบ้านพักคนชราแน่ ฮ่าๆๆ”

โรมเลยตบก้นแดนที่ลุกขึ้นแล้วหอมฟอดหนึ่ง เมื่อแดนเดินไปแล้ว โรมนั่งลงตามเดิมจ้องมือถือตัวเองพึมพำ

“จ้องแค่จอแล้วจะเจอคนรู้ใจได้ไงวะ...ไร้สาระ”

ooooooo

ที่ห้องคอมพิวเตอร์ในบริษัทคิวปิดฮัท แพรวพราว ก้มหน้าก้มตาตรวจการแชตของสมาชิกตามหน้าที่ประจำ เธอแนะนำตัวเองว่า

“ฉันแพรวพราวค่ะ หนึ่งในกามเทพสาวคิวปิดฮัทที่คุณคงเห็นฉันผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว ใช่ค่ะ...นอกจากหน้าที่กามเทพ งานหลักของฉันก็คืองานจ้องแต่จอ นี่แหละค่ะ...ฉันดูแลเว็บไซต์และระบบไอทีของคิวปิดฮัทรวมทั้ง ‘2 Become 1’ โปรแกรมจับคู่แม่นที่สุดในประเทศไทย Application Cupids Room ที่ให้สมาชิกเข้ามาทำความรู้จักกัน...วิธีใช้งานก็ไม่ยากค่ะ ไม่ได้แตกต่างจากเฟซบุ๊กที่คุณๆคุ้นกันดี”

ระหว่างนั้นเสียงเตือนที่มือถือดังขึ้น หน้าจอมีรูปกามเทพคิวปิดน้อยอยู่ในวงกลมคาดว่าห้าม!!

“กติกางดคำหยาบ งานฝากร้าน มักถูกลองดีเสมอๆ ฉันเลยต้องมีมาตรการเด็ดขาดลบสถานภาพสมาชิกออกจากคิวปิดรูมทันที ยุคนี้จะให้รอเจอหน้าแล้วรักกันมันคงไม่ทันใจ การจ้องจอเพื่อหาคนรู้ใจจึงเป็นงานที่ฉันทำแล้วมีความสุข และรู้สึกอัศจรรย์ว่าเรามาถึงจุดนี้แล้ว...แค่จ้องจอคุณก็เจอคนรู้ใจได้ค่ะ”

ที่ร้านกาแฟ...โรมลุกจากโต๊ะอ่านข้อมูลในกระดาษที่แดนเขียนให้ทบทวนอีกครั้งก่อนพับใส่กระเป๋าเดินไปขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์ของตัวเองที่จอดอยู่ แต่พอสตาร์ตก็ชะงักเมื่อเห็นใบปลิวเสียบอยู่ที่ก้านปัดน้ำฝน เขาหยิบอ่าน...

“บริษัทจัดหาคู่ที่จะทำให้ชีวิตคุณไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ไม่ว่าคู่คุณจะอยู่ซีกไหนของโลก เราจะพาคุณให้ได้พบกับรักที่คุณตามหา เพียงแค่โทร.หรือเข้าเว็บไซต์เรา”

อ่านแล้วโรมส่ายหน้าอย่างเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ กำลังจะเอาไปทิ้งถังขยะ แต่โทรศัพท์มือถือดังขึ้นจึงกดรับสาย

“ถึงแล้วหรือครับ ได้ครับ...ผมอยู่ไม่ไกลจะรีบไปเดี๋ยวนี้” โรมวางแผ่นใบปลิวไว้ข้างๆแล้วขับรถออกไป

ooooooo

พราวไปพบนิดลูกค้าที่เธอเป็นคนจับคู่ให้สำเร็จแต่เวลานี้มีปัญหากับสามี พราวเข้าไปในล็อบบี้โรงแรม ใช้โปรแกรม Find my friend บนมือถือของนิดหาพิกัดจนรู้ว่าสามีอยู่ที่โรงแรมนี้แน่นอน

พอนิดจะเล่าเรื่องสามีให้พราวฟังน้ำตาก็เอ่อท้นจนพูดไม่ออก

“พี่นิดคะ...พี่ต้องเข้มแข็ง พี่เป็นคู่ที่พราวภูมิใจที่สุดตั้งแต่ทำงานมา เพราะพี่ไม่ต้องการเดตกับคนหน้าตาดี แต่ขอเลือกคนที่นิสัยใจคอตรงกันเท่านั้น”

นิดร้องไห้บอกว่าเขาคงเบื่อตนแล้ว กลับบ้านไม่ตรงเวลา ถามอะไรก็ไม่ยอมพูด ชอบแอบไปพูดโทรศัพท์ไม่ให้ตนรู้ พราวถามว่าแน่ใจว่าเอกสามีเธอมีกิ๊กแน่ ใช่ไหม นิดพยักหน้าบอกว่าตนไม่เคยเห็น แต่กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยกว่า เด็กกว่า นิดร้องไห้หนักบอกพราวว่า “พี่ทำใจไม่ได้ว่าพี่ถูกหลอกให้เชื่อเรื่องพรหมลิขิตมาตลอด”

“พี่นิดไม่ต้องโทษตัวเองนะคะ พราวยังเชื่อด้วยสัญชาตญาณผู้หญิงที่เคยโดนดูถูกเรื่องหน้าตามาตลอด คู่ของพี่คือคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดแล้ว นังมือที่สามนั่นต่างหากที่ผิด” พราวพูดอย่างเจ็บใจแทนนิด

“น้องพราวสวยอย่างกับนางเอก อย่างน้องเนี่ยนะจะเคยโดนดูถูกเรื่องหน้าตา”

“สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป พราวเจ็บมาเยอะค่ะ ไปค่ะพี่ ไปดูหน้านังนั่นแล้วเดี๋ยวพราวจะจัดการให้เอง”

พราวกับนิดเดินไปที่ห้องอาหารริมสระว่ายน้ำ พราวเห็นเอกสามีของนิดนั่งคุยอยู่กับชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวภูมิฐาน พราวคาดว่าคงเป็นคนขายประกัน พราวชวนนิดซุ่มดูถ้าผู้หญิงคนนั้นโผล่มาได้เจอดีแน่

ที่แท้ชายหนุ่มคนนั้นคือโรม ท่าทางทั้งสองคุยกันอย่างสนิทสนมเห็นอกเห็นใจ เมื่อคุยงานเสร็จเอกลุกขึ้นแต่เซจะล้ม โรมประคองไว้อย่างใกล้ชิด ทั้งพราวและนิดต่างตะลึงคิดว่าโรมกับเอกคบกัน โดยเฉพาะนิดตกใจมากถึงกับร้องไห้เสียงดังแล้ววิ่งหนีไป เอกได้ยินวิ่งตามไป โรมเห็นจะวิ่งตามบ้าง ถูกพราวขวางไว้ที่ริมสระว่ายน้ำ ชี้หน้าด่า

“ผู้ชายคนนั้นเขามีเมียแล้ว แล้วเขาก็รักกันมากด้วย ถ้าคุณยังไม่หยุดเป็นมือที่สามทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก คุณกับฉันมีเรื่องกันแน่!!” โรมชี้แจงว่าเอกเป็นลูกค้าของตน พราวยิ่งอึ้ง “ลูกค้า!...นี่ทำเป็นธุรกิจเลยเหรอ อาชีพอื่นไม่มีทำมาหากินแล้วรึไง หน้าตาก็ดี ทำไมถึง...”

พราวขวางและด่าไม่หยุด โรมดันพราวจะเลี่ยงไปจนพราวจะตกสระน้ำ โรมจึงคว้าข้อมือไว้ดึงจากขอบสระ พอพราวตั้งหลักได้ก็ด่าต่อ ซ้ำถีบโรมลงสระว่ายน้ำแล้วจะเดินไป ผลีผลามจนชนบริกรที่เดินมาพอดี ตัวเองเลยตกสระว่ายน้ำไปด้วย ลงไปทะเลาะกันต่อในสระ พราวปีนขึ้นมาได้ก็เดินหนีไป เห็นนิดกับเอกยืนร้องไห้กันอยู่ก็จะไปหา

โรมตามมาขวางด่าว่า เธอด่าตนแต่ตัวเองจุ้นจ้านยิ่งกว่า กลายเป็นสองคนยืนทะเลาะกัน ทันใดเสียงนิดร้องไห้โฮโผกอดเอกแน่น โรมเดินไปบอกเอกว่าทำถูกแล้ว ยังไงสักวันภรรยาเขาก็ต้องรู้ความจริง พราวด่าว่ายังมีหน้ามาพูดอย่างนี้อีก

“พอทีเถอะคุณ!! ถ้าไม่รู้ความจริงก็หุบปาก ผมเป็นทนายของคุณเอก เขาจ้างให้ผมช่วยว่าความเรื่องที่ดินที่มีปัญหากับญาติ เพราะเขาอยากเก็บไว้ให้ภรรยาหลังจากที่เขาต้องจากโลกนี้ไป”

พราวชะงัก โรมบอกว่าเอกเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่เขาไม่อยากให้ภรรยารู้กลัวจะทำใจไม่ได้ แต่วันนี้เธอทำให้ทุกอย่างไม่เป็นความลับอีกแล้ว หันมาถามว่าเธอคือใคร แต่พราวหายไปแล้ว เพราะอายเกินกว่าจะอยู่สู้หน้าโรมได้

โรมตามไปเห็นพราวกำลังจะขึ้นแท็กซี่ก็ดึงไว้บอกว่าเรายังคุยกันไม่จบ เธอทำร้ายตน ทำโทรศัพท์ตนพัง ขอนามบัตรเธอไว้เพื่อจะได้ติดต่อเรียกร้องค่าเสียหายได้

พราวด่าว่าเขาหัวหมอ ถามว่าโทรศัพท์รุ่นนั้นจะเท่าไหร่กัน ควักเงินให้ห้าพันบาท ให้ไปซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่กว่านี้ที่เหลือให้เป็นค่าซักแห้งกับค่าทำขวัญ

โรมมองเงินนิ่งบอกว่าตนแค่ตามมาขอนามบัตรเธอ พราวหัวเราะเยาะบอกว่าตนไม่มีนามบัตร และอย่าคิดว่าตนไม่รู้เท่าทันวิธีตามจีบขอนามบัตรดื้อๆแบบนี้ ถ้าเขาไปถามจากนิดและโทร.หาตนก็เตรียมว่าความให้ตัวเองก็แล้วกัน ด่า...“พวกโรคจิต” แล้วขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดส่งผู้โดยสารพอดีไปเลย

“จีบ!! นึกแล้วเจอทีไรเป็นอย่างนี้ทุกคน พวกสวยแล้วชอบเข้าข้างตัวเอง” โรมส่ายหน้าอย่างระอา

ooooooo

กลับถึงคิวปิดฮัท พราวถูกภีมเอากระดาษรายงานผลการทำงานของสาวๆกามเทพมาชี้ให้ดูผลการทำงานของพราวอยู่รั้งท้าย ที่หนึ่งเป็นหรรษาและที่สองคือหอมหมื่นลี้

“คุณเห็นไหม!” ภีมจิ้มที่กระดาษแรงๆ “ทั้งหนูษา ทั้งคุณหอม พอมีแฟนปุ๊บก็เข้าใจความรักมากขึ้น ผลงานถึงได้ดีขึ้นมาก ส่วนคุณ!! ไม่ใช่แค่บ๊วยสุดไม่ขยับไปไหนมาเป็นปีแล้วเท่านั้น แต่เพราะคอมเมนต์ลูกค้าที่ส่งตรงเข้าเมลผมด้วย ทำให้ผมต้องเอาจริงกับคุณเสียที”

“ก็เมนต์เรื่องเดิมๆนั่นแหละค่ะบอส พราวก็อธิบายไปทุกครั้งแล้วว่า...”

“คนเราต้องรักกันที่จิตใจไม่ใช่หน้าตา” ภีมขัดขึ้นอย่างทนฟังไม่ได้ แต่พราวกลับยิ้มระรื่น ชี้แจงว่า

“ใช่ค่ะบอส...ผู้ชายรวยควรคู่กับผู้หญิงฉลาดเขาจะได้รู้ว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง ส่วนผู้หญิงสวยสมองกลวงก็ควรคู่กับผู้ชายที่สอนให้เธอรู้ว่า เงินทองกับรูปร่างหน้าตาไม่ได้มีค่าเท่ารักที่แท้จริง”

“แต่คุณเคลลี่เขาไม่อยากได้แพทย์อาสาตัวดำ ไม่อยากได้ด็อกเตอร์ตัวอ้วนที่ต้องคอยไปวิ่งตามช่วยหมาจรจัด”

“พราวรู้ค่ะว่าเขาต้องการสเปกผู้หญิงแบบไหน หน้าเป๊ะ นมเด้ง ขาเรียว แต่มันถูกแล้วหรือคะบอสที่เราจะปล่อยให้ผู้หญิงดีๆ ต้องไปคู่กับผู้ชายขี้แพ้และไม่มีใครเอาเท่านั้น”

ภีมตบโต๊ะปังจ้องหน้าพราวที่เถียงคำไม่ตกฟากเขม็ง พูดเกือบเป็นตวาดว่า

“หยุดโลกสวย หน้าสวย แล้วยอมรับความจริงเสียที ผู้ชายหล่อๆรวยๆ ยังไงเขาก็ไม่มองผู้หญิงขี้เหร่”

“ไม่จริงค่ะบอส!!” พราวลุกพรวดเสียงดังยิ่งกว่า “พราวไม่ใช่ผู้หญิงสวยที่มองโลกแง่ดี แต่พราวมองโลกผ่านสายตาของผู้หญิงขี้เหร่อยู่ต่างหาก!!”

“ผู้หญิงขี้เหร่ ... คุณหมายความว่ายังไง” ภีมย้อนถาม

พราวหยุดกึก รู้ตัวว่าเผลอพูดปมในอดีตของตัวเองออกมา จังหวะนั้นเองที่หน้าจอมือถือระบบแอนดรอยด์ของพราวแสดงข้อความและเสียงเตือนแบบไซเรนดังลั่น พราวหยิบมือถือดูแล้วตกใจ บอกว่า

“บอสคะ...แย่แล้วค่ะ พราวต้องรีบไปห้องคอมพ์เดี๋ยวนี้” ภีมบอกว่าตนยังพูดไม่จบ “รอไม่ได้ค่ะบอสพราวอธิบายศัพท์เทคนิคไปตอนนี้บอสก็ไม่เข้าใจ ขอตัวนะคะ” พูดแล้วลุกไปเลยท่ามกลางความงุนงงของภีม

ที่แท้คิวปิดฮัทถูกชายลึกลับในคอนโดหรูแฮ็กข้อมูลลูกค้าระดับเกรด A++ ของคิวปิดฮัท พราวของขึ้นเหมือนถูกล้วงคองูเห่า จ้องเขม็งไปที่หน้าเว็บไซต์คิวปิดฮัทคำราม

“คิดจะลองดีแฮ็กข้อมูลลูกค้าของคิวปิดฮัทเหรอ...ได้เลย!! ไม่รู้จักแพรวพราวซะแล้ว” พราวหักนิ้วกร๊อบอย่างนักเลง แล้วรัวแป้นคีย์บอร์ดเปลี่ยนจากหน้าของเว็บไซต์เป็นหน้าจอ DOS เข้าสู่สนามการต่อสู้ทางไซเบอร์เต็มตัว!

ชายลึกลับที่กำลังรอข้อมูลลูกค้าคิวปิดฮัทไหลเข้าเครื่องตน หัวเราะในลำคอเมื่อเห็นรูปสาวๆหน้าตาดีถูกดูดเข้ามา แต่แล้ว!! ข้อมูลเหล่านั้นก็ถูกดูดกลับไปอย่างรวดเร็ว พร้อมข้อความ Wamjng สีแดงรูปกะโหลกไขว้ขึ้นเตือนที่หน้าจอ ชายลึกลับเจ็บใจกำหมัดแน่นปัดแก้วกาแฟตกพื้นแตกเพล้ง!!

“เยสสส!! ให้มันรู้กันบ้างว่าใครเป็นใคร” พราวสะใจที่ดึงข้อมูลมาจากแฮกเกอร์กลับมาได้สำเร็จ

พราวอธิบายให้ภีมกับวราลีฟัง ภีมถามว่าแฮกเกอร์อะไร มันโจมตีเว็บไซต์บริษัทหาคู่ของเราทำไม พราวบอกว่าตนเช็กข้อมูลแล้ว ถ้าไม่ใช่บริษัทคู่แข่งก็ต้องเป็นพวกโรคจิตเพราะมันเลือกแฮ็กเอาแต่ข้อมูลลูกค้าสาวๆสวยๆ ของเราทั้งนั้น

“แม่เจ้า...แล้วมันได้ไปรึเปล่า” วราลีตกใจ

“รางวัลเหรียญเงินคอมพิวเตอร์โอลิมปิกสมัยเรียนค่ะเจ๊ อย่าให้โม้มากกว่านี้เลย” พราวยิ้มกริ่ม

พราวกับชายลึกลับยังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายทางไซเบอร์ จนกระทั่งหน้าจอของชายลึกลับดับวูบดำมืดไป!

วราลีชมพราวว่าสุดยอด ภีมชื่นชมความสามารถในหน้าที่ผู้ดูแลระบบ แต่พูดหน้าขรึมว่า

“แต่ผมไม่ได้จ้างมาให้ทำหน้าที่นี้อย่างเดียวหน้าที่กามเทพต่างหากที่ผมอยากเห็นผลงานมากกว่า” พราวจะเถียง ถูกภีมยกมือห้าม “อย่ามาชวนผมเถียงเรื่องหน้าตากับความรัก ผมสนแค่...ถ้าคุณจับคู่ให้กลุ่มลูกค้าของคุณไม่ได้ละก็...คุณได้นั่งมองคนอื่นสอยโบนัส 1 ล้านไปต่อหน้าต่อตาแน่ๆคุณพราว!” พูดแล้วเดินออกไปเลย พราวถอนใจเซ็ง

“มีเจ้านายเผด็จการแบบนี้ต้องทำใจนะพราว...เจ๊ว่าพราวต้องทำได้ เจ๊เอาใจช่วย” วราลีให้กำลังใจ

ooooooo

ที่โชว์รูมรถหรู...ไมค์ชายหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาดีแต่งสูทราคาแพง เข้าไปดูรถซุปเปอร์คาร์อย่างสนใจ สาวสวยเข้ามาถามว่าสนใจคันไหนเป็นพิเศษไหม ไมค์ถามว่าตนสามารถออกรถวันนี้ได้เลยไหม ตนพร้อมจ่ายเงินสดได้ทันที

พอสาวสวยเดินไปหาผู้จัดการ โรมก็โผล่มาบอกว่า

“ท่านประธานเตือนคุณมาตลอดไม่ใช่หรือไมค์ เรื่องใช้รถแรงๆแบบนี้...เวลาพักผ่อนของคุณหมดแล้วไมค์ ถึงเวลาที่เราต้องคุยกันจริงๆจังๆซะที” ไมค์หันมองตาขวางไล่ให้โรมกลับไปเสียอย่ามายุ่งกับตน “ไมค์!! มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผมต้องมาเตือนคุณ”

ไมค์ไม่พอใจเดินหนีไปที่บริเวณช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ โรมตามไปพยายามมองหาไมค์ พอเห็นไมค์ โรมตกใจเพราะเห็นชายในชุดดำใส่แว่นดำเดินตามไมค์ไปอย่างไม่น่าไว้ใจ โรมรีบเดินตามไป

แต่พอไมค์เดินลงบันได ชายชุดดำก็เข้าประกบอย่างแนบเนียน สั่งไมค์

“อยู่เฉยๆแล้วไปกับพวกเรา...” ไมค์ถามว่าพวกเขาเป็นใคร “คุณจะไม่เจ็บตัวแน่ ถ้าไม่คิดทำอะไรโง่ๆ”

ชายทั้งสามประกบและล็อกแขนไมค์พาออกไปลานจอดรถ โรมตามมาถึงไม่เห็นไมค์แล้ว เขาเครียดตามไปที่ลานจอดรถเห็นพวกมันกำลังจะเอาถุงดำครอบหัวไมค์และรถตู้ของพวกมันก็เคลื่อนเข้ามา

ไมค์แทงศอกซัดหมัดใส่พวกมันจนตัวงอแล้ววิ่งหนี ถูกพวกมันคว้าตัวไว้ซัดที่ลิ้นปี่จนไมค์จุกแต่ยังฮึดสู้ พวกมันรุมกันเข้ามาอัดไมค์จนสะบักสะบอมเลือดกบปาก หนึ่งในนั้นชักปืนออกมาขู่ไมค์

ทันใดนั้นโรมพุ่งเข้าชาร์จและแย่งปืนมันได้ จ่อปืนใส่มันสั่งให้ถอยไป พวกมันชะงัก โรมเข้าพยุงไมค์ถามว่าลุกไหวไหม ไมค์พยักหน้า โรมกวาดปืนใส่

พวกมัน พยุงไมค์ออกไป แต่พวกชายชุดดำยังไม่ยอมง่ายๆ ตามไปอีก โรมพาไมค์เข้านั่งในรถแล้วหันไปทุบสัญญาณเตือนไฟไหม้จนดังลั่น โรมขับรถพุ่งเข้าใส่พวกมันจนแตกกระเจิงแล้วพาไมค์หนีไปได้อย่างปลอดภัย...

ooooooo

โรมพาไมค์ไปโรงพยาบาลดำรงราษฎร์ หมอภรทิพย์ทำแผลให้บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก เหลือแค่รอ ผลตรวจว่าได้รับการกระทบกระเทือนอะไรบ้างหรือเปล่า ไม่น่าจะมีอะไรมาก พรุ่งนี้น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

เมื่อหมอออกไปแล้ว โรมเข้าไปคุยกับไมค์ว่าถ้าฟังคำเตือนตนก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ไมค์ถามว่าพวกมันเป็นใคร

“เอาไว้ออกจากโรงพยาบาลค่อยคุยกันดีกว่า

คืนนี้ผมอยากให้คุณพักอยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่ากลับไปที่อยู่ของคุณ”

“สภาพแบบนี้ ฉันคงไม่ไปไหนหรอกและก็จะไม่ยอมกลับไปตามที่เขาสั่งคุณมาพาผมกลับไปด้วย”

ไมค์พูดแค่นั้นแล้วนอนไม่สนใจอะไร โรมถอนใจเบาๆ บอกให้เขาพักผ่อนเสียตนไม่รบกวนแล้วเดินออกไป

พิณ...แม่ของพราวเป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลนี้ วันนี้พราวไปรับแม่ทานข้าวกัน แต่พิณติดเคสสำคัญหมออยากให้อยู่ช่วย พราวบ่นงอนๆ ว่าตนได้บัตรลดจากลูกค้ามาอยากให้แม่ได้กินอาหารอร่อยๆฝีมือเชฟมิชลินบ้าง ก็ถูกจิระศักดิ์หรือจีจี้ผู้ช่วยพยาบาลร่างใหญ่ตุ้งติ้งที่รู้จักกับพราวและแม่ดี เสียบเข้าลากพราวไปร้านอาหารฝรั่งเศสมีเชฟสุดหล่อที่จีจี้คลั่งไคล้อยู่

พราวเห็นโรมอยู่ในร้านอาหารก็หลบ สะกิดจีจี้กระซิบ...

“พี่จีจี้คะ...เห็นผู้ชายตรงนั่นไหมคะ วันก่อนพราวเจอหมอนั่นตามตื๊อ พราวเกลียดขี้หน้าเขาค่ะ” ทันทีที่จีจี้มองไปก็เพ้อว่าหล่อวัวตายควายล้มขนาดนี้ถามพราวว่าป่วยหรืออารมณ์ไม่คงที่กันแน่ถึงเกลียดได้ลง “หน้าตาดีแต่นิสัยแย่แถมหัวหมออ้างว่าเป็นทนาย สำหรับพราวไม่ไหวจะเคลียร์”

โรมเห็นพราวพอดี พราวขอร้องให้จีจี้ช่วยตนแล้วจะพาไปกินอาหารฝีมือเชฟมิชลิน โรมเห็นพราวก็ตรงเข้ามาทัก พราวเกาะแขนจีจี้ทำเป็นกลัว จีจี้แอ๊บแมนสุดฤทธิ์เข้าไปจิกหน้าโหดใส่โรมอ้างว่าพราวเป็นเด็กของตน อย่ามาตามตื๊ออีก

โรมมองอย่างสังเกตเห็นจีจี้แอ๊บแมนชี้หน้าด่าตนแต่ปลายนิ้วก้อยก็เด้งโด่ออกมาด้วย พราวรู้ตัวสะกิดให้จีจี้พอแล้วและรีบชวนกันไป โรมมองตามอย่างสงสัย ยิ่งเห็นจีจี้เดินบิดสะโพกไปก็ยิ่งสงสัย

ooooooo

กันโรมไปได้แล้ว พราวทำตามสัญญา พาจีจี้ไปนั่งใกล้ครัวเปิดที่มองเข้าไปเห็นเชฟที่จีจี้คลั่งไคล้ พราวพูดขำๆว่าจ้างร้อยเดียวเล่นเป็นแสน แต่เขาคงไม่กล้ามายุ่งกับตนอีกแล้ว มื้อนี้ถือว่าตนเลี้ยงตอบแทนก็แล้วกัน

จีจี้นั่งเก้าอี้ไม่ทันร้อนก็ส่งสัญญาณกับเชฟหนุ่มปิ๊งปั๊งกัน จีจี้ทนไม่ไหวขอตัวไปกับเชฟเลย

โรมนัดกับพ่อ...ลักษณ์ อัครเมศวร์ ไว้ พอเขาเดินเข้ามาผู้จัดการก็เชิญไปยังโต๊ะที่ลักษณ์จองไว้แต่เจ้าตัวยังไม่มา โรมเข้าไปนั่งมองไปเห็นพราวอยู่อีกโต๊ะหนึ่งเห็นเธอนั่งกระสับกระส่ายเพราะจีจี้ยังไม่กลับมา

ครู่หนึ่ง ผู้จัดการมาหาโรมที่โต๊ะบอกว่าคุณลักษณ์โทร.มาบอกว่าติดธุระมาไม่ได้ โรมจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาพ่อแต่ติดต่อไม่ได้จึงโทร.อีกเบอร์ พอติดเขาถามเสียงไม่พอใจ...

“พ่อฉันล่ะไอ้จู๊ด เขานัดฉันออกมากินข้าวแต่อยู่ๆก็แคนเซิล เขาไปไหน...ว่าไงนะ...บอกว่าออกมาหาฉัน...แค่นี้นะ” พอวางสายจากจู๊ดก็บ่น “พ่อนะพ่อ...เอาอีกแล้ว”

เมื่อพ่อไม่มา โรมจึงลุกไปหาพราวที่โต๊ะถามประชดว่ามองหาว่าที่พ่อของลูกหรือแล้วนั่งเลย บอกว่าอย่าเสียเวลารอเลย ตนเห็นเขาออกจากร้านไปกันแล้ว โรมเตือนพราวว่าให้มีสติหน่อย ตนขอนามบัตรไม่ได้หมายความว่าตนจะจีบเธอจนต้องหาคนมาอ้างว่าเป็นแฟนและขู่ตนไม่ให้ยุ่งกับเธอ

“ฉัน...ฉันไม่ทำอย่างที่คุณว่าสักหน่อย” พราวแก้ตัวเหวอๆ

“อาการแบบนี้เขาเรียกว่าจำนนต่อหลักฐานจนไปไม่เป็น...ศาลเห็นใจถือว่าเป็นความผิดแค่ลหุโทษ ขอตัดสินว่าแค่นั่งทานอาหารกับผมแทนการเสียค่าปรับก็พอ”

“เกินไปแล้วไอ้คนหัวหมอ ฉันไม่มีทางนั่งร่วมโต๊ะกับคนอย่างคุณหรอก” พราวลุกพรวดไปไม่ทันมองเลยชนพนักงานเสิร์ฟที่ยกถาดเครื่องดื่มเข้ามาเครื่องดื่มคว่ำทั้งถาด พราวรีบขอโทษ โรมบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวตนเคลียร์เอง พูดกับพราวต่ออีกว่า

“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ แค่อยากชี้แจงว่า ผมไม่ได้คิดจะจีบคุณ เพราะฉะนั้นอย่าโทษว่าเป็นความผิดของผม คุณควรระวังมากกว่านี้”

“นี่น่ะเหรอไม่ได้จีบ ไอ้คนหัวหมอ!! เก็บมุกไว้ใช้กับผู้หญิงอื่นเถอะ” พราวพูดใส่หน้าแล้วเดินปึงปังไปเลย

“เฮ้อ...อธิบายขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีก” โรมส่ายหน้าบ่นงึมงำ

ooooooo

โรมกลับไปที่บ้านพ่อเป็นบ้านเก่าปลูกมา 20– 30 ปีแล้วอยู่ในชุมชนหมู่บ้านรุ่นเก่าแต่ยังดูดี

ลักษณ์เพิ่งกลับมา เขาขับรถมินิรุ่นเก่าเท่ๆแบบ คลาสสิก ลักษณ์ใส่เสื้อลายดอกบ่งบอกถึงความแก่แต่เก๋าของเขา ลักษณ์เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้ามา พลันก็ชะงักกับเสียงขุ่นๆของโรม...

“เที่ยวนี้คาราโอเกะหรือว่าโคโยตี้ละครับพ่อ”

ลักษณ์ถามว่ามาดักรอเลยหรือ อีก 5 นาทีเที่ยงคืนยังไม่พ้นเคอร์ฟิว โรมถามว่ายังกล้าอ้างเคอร์ฟิวอีกหรือ

“เออ...แล้วเอ็งจะทำไมพ่อวะ” ลักษณ์ถามกวนๆ แล้วเดินผ่านโรมเข้าบ้านไปเลย โรมตามไปนั่งคุยในบ้าน

ลักษณ์บ่นโรมว่าตนไม่ใช่นักโทษนะถึงจะให้อยู่แต่บ้าน โรมอ้างว่าพ่อเป็นโรคหัวใจ ลักษณ์โต้ว่าโรคหัวใจเขาเป็นกันครึ่งค่อนประเทศ ถ้าดูแลดีๆมันก็ใช้ชีวิตปกติได้

“ใช้ชีวิตปกติเหมือนอย่างที่ทำให้แม่ต้องตรอมใจตายใช่ไหมพ่อ” โรมโพล่งถามอย่างสุดทนจนลักษณ์เรียกปราม “ผมนึกว่าหลังแม่ตาย พ่อจะเปลี่ยนแปลงอะไรให้มันดีขึ้นบ้าง แต่ก็เปล่าเลย พ่อยังทำทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนพ่อไม่เคยใส่ใจแม่มาตลอด!!”

ลักษณ์ไม่พอใจตรงเข้าผลักโรม “หุบปากแกไปเลยไอ้โรม ฉันไม่ได้ขอให้แกมาจุ้นกับชีวิตฉัน ไปเลย...กลับไปหาไอ้คนที่แกเรียกเขาว่าผู้มีพระคุณมากกว่าพ่อแท้ๆ ของแกเลย ไป!!”

โรมบอกว่าตนพยายามมีเหตุผลกับพ่อแล้วนะ ลักษณ์ตวาดว่าเก็บเหตุผลของเขาไปใช้กับงาน ไม่ต้องเอามาใช้กับตน แล้วเรียก “ไอ้จู๊ดหล่อ...ไอ้จู๊ดหล่อโว้ย...ส่งแขก” สั่งจู๊ดแล้วลักษณ์เดินไปไม่สนใจโรมเลย

เมื่ออยู่กันสองคน จู๊ดยิ้มแหยบอกโรมว่า ตนไม่ผิด ตนห้ามแล้ว แต่...โรมชี้หน้าจู๊ด ปรามว่า

“ถ้าปล่อยให้พ่อฉันออกไปเที่ยวอีกละก็...ฉันส่งแกกลับบ้านนอกแน่”

จู๊ดยืนเซ็ง ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง

ooooooo

ลักษณ์เข้าไปในห้องนอนที่มีตู้ปลา เขาเลี้ยงปลารักเร่สีดำไว้สองตัวแหวกว่ายอยู่ในตู้ เอาอาหารให้และบ่นกับปลา...

“ตั้งแต่มันกลับมาจากเมืองนอก มันบ่นฉันยิ่งกว่าแม่มันเสียอีก ว่าหน้าเหมือนแล้วนิสัยยังเหมือนอีกพวกแกว่าไหมวะไอ้หลินปิงหลินฮุ่ย”

คุยระบายความหงุดหงิดกับปลาแล้วนึกอะไรได้ เข้าไปเปิดลิ้นชักหยิบใบปลิวของคิวปิดฮัทออกมาอ่านอย่างสนใจ...“บริษัทจัดหาคู่ที่จะทำให้ชีวิตคุณไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ไม่ว่าคู่คุณจะอยู่ซีกไหนของโลก เราจะพาคุณให้ได้พบกับรักที่คุณตามหา เพียงแค่โทร.หรือเข้าเว็บไซต์เรา”

ลักษณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ หันไปเล่าให้ปลารักเร่ฟังว่า

“วันก่อนฉันเจอใบปลิวนี่ตกอยู่ในรถโรมมัน ในเมื่อไอ้ลูกชายจอมเฮี้ยบมันอยากให้ฉันอยู่แต่บ้านพักงั้นฉันก็ต้องจัดให้มันตายใจสักหน่อย...พวกแกว่าไงวะ”

ooooooo

บ้านพราวเป็นบ้านจัดสรรมีบริเวณบ้านเล็กๆ มีรั้วเตี้ยๆกั้นบ้านกุ๊กไก่ที่อยู่ติดกัน วันนี้พราวเอางานมานั่งทำที่ซุ้มในสวนพยายามหาคู่ให้ลูกค้าในกลุ่มตามที่บอสสั่ง โทรศัพท์มือถือดังขึ้น พราวกดรับทักอย่างแปลกใจ

“สวัสดีค่ะเจ๊...เจ๊โทร.มาวันหยุดแบบนี้อย่าบอกนะคะว่า...” หยุดฟังปลายสายแล้วบ่น “เฮ้อ...บอสโดนอีเมลร้องเรียนจากลูกค้าพราวอีกแล้วเหรอคะ ค่ะเจ๊...ฝากบอกบอสด้วยว่า พราวจะแก้ปัญหานี้ให้ค่ะ ต่อไปนี้ลูกค้าอยากได้อะไรพราวจะจัดให้...ขอบคุณค่ะเจ๊”

พราวกดตัดสายเซ็งจนแทบจะฟุบหน้าลงที่โน้ตบุ๊กบนโต๊ะ แต่ต้องหันไปบ้านติดกันเมื่อกุ๊กไก่ทักมาว่า

“วันหยุดแท้ๆยังต้องมาเครียดเรื่องงานอีกเหรอพราว...มีอะไรปรึกษาเราได้นะ”

กุ๊กไก่เป็นสาวห้าวหน้าหวาน กำลังซ้อมมวยกับกระสอบทราย พราวเดินไปเกาะรั้วคุยความไม่สบายใจให้ฟัง

“ฮึ่ย! ฟังแกเล่าแล้วของขึ้นว่ะไอ้พราว อย่าให้เจอเจ้านายแกนะโว้ย จะขอซัดสักหมัด เกลียดนักไอ้พวกเหยียดเพศเนี่ย” พราวบอกให้ใจเย็น บอสตนไม่ได้เป็นพวกเหยียดเพศ “ทำไมจะไม่ใช่ มีอย่างที่ไหนสั่งให้หาแฟนแลกเงินโบนัส หวังแต่ทำกำไรเข้าบริษัท ไอ้ผู้ชายที่ชี้นิ้วทุบโต๊ะสั่งให้ผู้หญิงทำเรื่องแบบนี้ ไอ้พวกเหยียดเพศเต็มตัว!”

“ไปว่าเขาเหยียดเพศ...แล้วตัวเองล่ะจะเป็นเพศไหน เอาให้แน่ก่อนเถอะ...กู๊กกู๋” เสียงพร้อมพลลูกพี่ลูกน้องของพราวที่อยู่กับพราวทำงานเป็นช่างโรงงานประกอบอะไหล่ เพิ่งกลับจากทำโอทีแทรกขึ้น กุ๊กไก่มองขวับตาขวาง

“ไอ้พล!! มาถึงก็หาเรื่องอยากเป็นกระสอบทรายให้ฉันนักใช่ไหม...งั้นโดนแน่”

“ไม่เอาน่ากุ๊กไก่ เจอกันทีไรกัดกันทุกที พี่พลเลิกปากหมาแล้วเข้าบ้านไป” พราวหย่าศึก

พร้อมพลถูกด่าปากหมาก็ฉุน ลำเลิกว่าอย่าลืมว่าพราวยังเป็นหนี้ตนอยู่ กุ๊กไก่บอกพราวว่าเดี๋ยวจะจัดการไอ้หน้าปลวกนี่ให้เลือดกบปากเลย พร้อมพลยั่วว่าระวังเถอะหน้าปลวกแบบนี้แหละจะกินบ้านแกให้เรียบ พลางมองผ้ารัดหน้าอกกุ๊กไก่ที่รัดจนหน้าอกแบนราบ ทำให้กุ๊กไก่ยิ่งโมโห คำราม “ไอ้พล...มึงตาย!!”

กุ๊กไก่กระโดดข้ามรั้วมาเตะผ่าหมากพร้อมพลที่ไม่ทันระวังตัวถึงกับกุมเป้าหน้าเขียวทรุดลง เท่านั้นไม่พอกุ๊กไก่ยังตะบันหมัดลุ่นๆเข้าเบ้าตาอย่างจังอีกด้วย

ooooooo

พอพราวพาพร้อมพลเข้าบ้านเขาก็คว้าไม้กอล์ฟ ประกาศว่าลูกผู้ชายอย่างไอ้พลไม่ยอมเสียเชิงชายง่ายๆ

พราวเตือนสติว่า ถึงกุ๊กไก่จะเป็นทอมแต่มันก็ยังเป็นผู้หญิงนะ ลูกผู้ชายแบบไหนเอาไม้กอล์ฟหัวเหล็กไปแพ่นกบาลทอม รู้ถึงไหนอายถึงนั่น พร้อมพลสบถหัวเสียว่านั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ แล้วจะปล่อยให้มันซัดเบ้าตาตนอย่างนี้หรือ พราวบอกว่าเขาไปกวนกุ๊กไก่ก่อน

“พี่ต้องเบรกมันบ้างโว้ย เพราะไอ้กุ๊กไก่มันหวังเคลมแกอยู่ ไม่รู้ตัวเลยรึไง”

พราวถามว่าทำไมจะไม่รู้ ตนกับกุ๊กไก่เล่นด้วยกันตั้งแต่ผูกคอซองโดดหนังยางไม่เห็นมันจะจีบตนเลย เพิ่งจะมาแสดงอาการตอนหันมาเป็นทอมนี่แหละ ตนเลยปล่อยๆไป อาจเพราะกุ๊กไก่กำลังอยู่ในช่วงสับสนก็ได้

พร้อมพลบ่นว่าเพราะคิดอย่างนี้แหละพราวถึงได้อดหาแฟน ชวดเงินล้าน ถูกพูดแทงใจดำพราวเลยไม่อยากพูดด้วยปลีกตัวไปทำงาน พร้อมพลโวยว่าไม่ได้ พราวเคยบอกว่าขอไปคิดก่อนไม่ใช่หรือ ต้องได้คำตอบซิ!

“เงินล้านฉันก็อยากได้มาใช้หนี้พี่อยู่หรอก แต่หาแฟนไม่ใช่เดินเข้าเซเว่นสั่งไส้กรอก เอาไว้หักเงินเดือนฉันผ่อนจ่ายพี่เป็นงวดๆไปก็แล้วกันนะ”

พราวตัดบทแล้วเดินออกไปเลย พร้อมพลมองตามคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว!

แล้วพร้อมพลก็บอกพราวว่าตนติดหนี้พนันบอล ทีแรกก็กะเล่นขำๆกับเพื่อน แต่เล่นไปเล่นมาขำไม่ออก จากแค่ไม่กี่หมื่นก็ทบเป็นหลายแสนจนเกือบล้านแล้ว ถ้าเดือนสองเดือนนี้ไม่มีจ่ายคืนพวกโต๊ะบอลตนต้องโดนหนักแน่ พราวตกใจถามว่าตนยืมเงินไปซ่อมบ้านน้ำท่วมแค่ห้าแสนเอง

พร้อมพลคุกเข่าพนมมืออ้อนวอนพราวว่า ถ้าพราวหาแฟนได้ก็จะได้โบนัสพิเศษหนึ่งล้าน อ้อนวอนให้ช่วยตนด้วย

“หาแฟนนะพี่พล มันง่ายเสียที่ไหนล่ะ”

“โธ่เอ๊ย...ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนหน้าแกยังไม่เป็นแบบนี้ พี่คงไม่มาขอร้องแกหรอก แต่ดูหน้าแกซิ...ดูชัดๆ เลยไอ้พราว...อีแก้วหน้าม้าคนก่อนมันไม่อยู่แล้ว เหลืออยู่แต่กามเทพสาวสวยโคตรๆเห็นไหม” พร้อมพลจับพราวหันไปส่องกระจก พราวโกรธมาก “ขอโทษว่ะไอ้พราว...ลืมไปว่าแกเกลียดฉายาสมัยนั้น พี่แค่จะบอกแกว่า ตอนนี้แกไม่ใช่ตัวเลือกใครอีกแล้ว แต่แกคือพวกสวยเลือกได้ พวกลูกค้าในแฟ้มประวัติบริษัทแกไง เลือกมาสักคน รับรอง...ไม่ถึงเดือนแกฟันเงินล้านแน่”

“จะบ้าเหรอ ขืนไปยุ่งกับลูกค้า บอสรู้เข้าไม่ใช่แค่เสียโบนัสแต่จะโดนไล่ออกด้วยน่ะสิ”

“แกก็อย่าให้บอสรู้สิวะ แกเองก็คุมระบบคอมพ์ของบริษัทอยู่แล้ว เข้าโปรแกรมจับคู่แล้วเลือกไปเลย ไอ้ที่หล่อๆรวยๆโปรไฟล์ดีๆนอกจากช่วยได้แล้ว ยังช่วยให้แกจะได้มีแฟนกับเขาซะทีด้วย นะ...นะ...น้า...ไอ้พราว”

ooooooo

โรมเป็นทนายความอายุน้อยที่สุดในบริษัท “มาร์คอินเตอร์เทค” มีมาร์ค อินเตอร์เทค ลุงของไมค์เป็นซีอีโอและมีบุญคุณกับโรม มาร์คขอร้องให้โรมช่วยดูแลไมค์ระหว่างอยู่เมืองไทย เขาทำหน้าที่อย่างเข้มงวดจริงจัง

วันนี้เขาพาไมค์ไปบ้านที่จัดให้ไมค์อยู่ขณะอยู่เมืองไทยบอกว่า

“ผมโทร.ปรึกษาท่านประธานแล้ว ถ้าคุณยังยืนยันที่จะอยู่พักผ่อนเมืองไทยต่อ ท่านพร้อมจะอนุญาตให้อยู่ได้ตามต้องการ แต่มีเงื่อนไขว่าคุณต้องยอมอยู่ภายใต้การดูแลของผม ห้ามทำอะไรโดยที่ผมไม่รู้เห็นเด็ดขาด ถ้าคุณทำผิด
ข้อตกลงเขาจะพาตัวคุณกลับเอง”

“ได้...อย่างน้อยนายก็ช่วยชีวิตฉันเอาไว้...เอาเป็นว่า ฉันโอเคกับบ้านหลังนี้”

ขณะนั้นเองเสริมสุขเข้ามาถามโรมว่าข้าวของส่วนตัวของไมค์มาถึงแล้วจะให้ไว้ที่ไหน โรมจึงแนะนำกับไมค์ว่าเสริมสุขคือพ่อบ้านที่นี่ เขาจะช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินและอำนวยความสะดวกให้ ไมค์หัวเราะในลำคอถามว่าถึงกับต้องมีคนคอยประกบตนตลอดเวลาเลยหรือ ตบไหล่โรมพูดประชดว่า

“สมกับเป็นทนายมือหนึ่งคู่คิดคนสำคัญของท่านประธานจริงๆนายโรม ข้อตกลงที่ท่านประธานให้ฉันทำตามเป็นอันตกลง แต่ก็ต้องมีข้อตกลงระหว่างฉันกับนายด้วย เวลาฉันทำงานห้ามใครมายุ่งกับฉันเด็ดขาด”

“ผมได้รับคำสั่งให้ดูแลคุณ ไม่ได้มีคำสั่งว่าให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวหรือจำกัดเสรีภาพคุณ” ไมค์ขอบคุณแล้วไป แต่พอโรมอยู่กับเสริมสุขเขาฝากให้ช่วยดูเป็นหูเป็นตาให้ด้วย ย้ำว่า “ไมค์เขาฉลาดรู้ทันผมทุกอย่าง ถ้ามีอะไรที่น่าสงสัยก็โทร.หาผมได้ตลอด 24 ชั่วโมง เบอร์โทรศัพท์นายเบอร์อะไร พอดีมือถือเครื่องเก่าฉันตกน้ำเพิ่งซื้อเครื่องใหม่มา”

เสริมสุขให้เบอร์ของตนให้โรมเมมไว้ พอเห็นโทรศัพท์ก็บ่นว่าโทรศัพท์แค่รับเข้าโทร.ออกได้แบบนี้จะไปจีบสาวไม่อายหรือ โรมหัวเราะพูดสมเพชว่า

“หึ...ประเภทเช้ามาก็ทักไลน์ สายหน่อยก็ทักเฟซ บ่ายก็เฟซไทม์ ตกดึกก็ชวนเซลฟี่อัพไอจีแล้วก้มหน้าก้มตาจ้องแต่จอ คุยกันผ่านมือถือไม่มองหน้ากันน่ะเหรอ งั้นผมขอเป็นมนุษย์ถ้ำโบราณโลว์เทคแบบนี้ดีแล้วเสริมสุข”

ooooooo

ตอนที่ 2

พราวขับรถไปทำงาน ระหว่างทางก็อดคิดคำพูดของพร้อมพลที่ขอให้ช่วยหาเงินมาใช้หนี้โต๊ะบอลไม่ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด เช่นเดียวกับโรมเมื่อแยกกันแล้วเขาก็อดคิดถึงหน้าสวยๆของพราวที่เธอคิดว่าตนตามจีบไม่ได้

รถพราวพุ่งออกจากซอย รถโรมวิ่งทางตรง เขาเบรกรถสนั่นแต่ก็ยังชนกันเล็กน้อย โรมลงจากรถไปดูก็โวยใส่ว่าขับรถยังไงไม่ดูสัญญาณไฟ พราวขอโทษบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจ แต่พอเห็นหน้าคู่กรณีพราวก็ของขึ้นด่าว่า ตามจองเวรกันแบบนี้โรคจิตเกินไปแล้ว

ทั้งสองเถียงกันหน้าดำหน้าแดง พราวหาว่าเขาคิดจะเอาคืนตนเลยขับรถมาขวาง ลงไปดูแล้วบอกว่า เป็นรอยนิดเดียว แล้วๆกันไปเถอะ โรมบอกว่าตนเรียกประกันไม่ได้ถ้าไม่มีคู่กรณี พราวตัดปัญหาจะยอมจ่ายถามว่าเขาจะเรียกเท่าไหร่

ทั้งสองเถียงกันขรม โรมยืนยันต้องยึดตามกฎระเบียบ พราวด่า “ไอ้หัวหมอ” สุดท้ายยอมให้เรียกประกันแต่ตนไม่ลงจากรถไปเจรจา รอให้ประกันมาคุยกันเอง แล้วขึ้นนั่งในรถกดล็อกทั้งกระจกและประตูโทรศัพท์หาประกัน

เมื่อประกันสองฝ่ายมาเจรจากันแล้ว โรมยังขอพูดอะไรกับเธอสักอย่าง พราวนิ่งฟังแต่ไม่มองหน้า

“ผมว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา คนไม่รู้จักกันมาเจอกันครั้งแรกเป็นเรื่องปกติ เจอกันครั้งที่ 2 คำว่าบังเอิญก็ใช้ได้ไม่ผิดอะไร แต่ถ้ามีครั้งที่ 3 และ 4 และต่อมาอีก นั่นก็หมายความว่า...”

“หยุด!!! ถ้าจะพูดคำว่าพรหมลิขิตล่ะก็...ช่วยเก็บมุกจีบเห่ยๆนั่นไว้ใช้กับคนอื่นเลย” พราวหันกลับไปที่รถทันที

“แต่คุณว่ามันไม่แปลกเหรอ ถ้าหยุดคิดว่าผมพยายามจะจีบคุณแล้วเรามาทำความรู้จักกันดีๆ บางทีเจอกันครั้งหน้าเราอาจเป็นเพื่อนกันก็ได้”

“ไม่มีครั้งหน้าแน่นอน!! และที่ผ่านมาก็ไม่ใช่พรหมลิขิตด้วย แต่ฉันขอเรียกว่าเจอเจ้ากรรมนายเวร สาธุ...ว่างเมื่อไหร่จะทำบุญไปให้ จะได้ไม่ต้องใช้เวร ใช้กรรมกันอีก” พูดเสร็จก็ปิดประตูปัง

“แรง!!! อย่าให้บังเอิญเจอกันอีกแล้วกัน จะทำให้เชื่อให้ได้ว่าเป็นพรหมลิขิต”

พราวปิดประตูรถแล้วจะเดินไปฝั่งคนขับ แต่ชายเสื้อถูกประตูรถหนีบทำให้เซจะล้ม โรมเข้าประคองไว้เตือนให้ระวังหน่อยจะชนทั้งรถทั้งคนเลยหรือไง พราวเสียงแข็งบอกว่าขอบใจแล้วยังจะมาว่าอีก สุภาพบุรุษหน่อยสิ โรมเปิดประตูรถเอาชายเสื้อออกให้ถามว่าแบบนี้ สุภาพบุรุษพอหรือยัง พอพราวเดินอ้อมมาจะขึ้นรถฝั่งคนขับก็ตกใจเมื่อเห็นยางรถแบน

“ไม่ต้องห่วง ผมมีเครื่องมือ เดี๋ยวผมจัดการให้”

ระหว่างที่โรมเปลี่ยนยางให้นั้นแดดร้อนมากพราวกลัวหน้าละลายหยิบกระจกส่องดูหน้า ถูกโรมประชดว่าห่วงสวยจริงนะ พราวรับว่าใช่ เห็นเขาเปลี่ยนยางรถเสร็จ เสื้อเขาเปื้อน โรมบอกว่าไม่เป็นไร มีเสื้อเปลี่ยนในรถ แล้วไปถอดเปลี่ยนที่ท้ายรถ

พราวแอบมองเขินๆ จนกระทั่งไปถึงคิวปิดฮัทก็ยังเขินจนเดินชนภีมเข้าอย่างจัง ภีมยกนาฬิกาดู ตำหนิว่ามาสาย แสดงว่าเธอไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรเลยใช่ไหม พราวบอกว่ามาสายเพราะเกิดอุบัติเหตุ ภีมยกมือห้ามขัดขึ้นทันที

“ผมไม่อยากฟังคำอธิบาย...สายก็คือสาย กฎของบริษัทมีไว้ยังไงก็ต้องทำไปตามนั้น แต่ที่ต้องกำชับเน้นๆ ก็คือ” ภีมแบมือยื่นไปตรงหน้าพราว “ไหน...ลูกค้าคนใหม่ที่คุณต้องจับคู่ให้คุณเคลลี่ ผมขอตรวจดูก่อนส่งไปให้คุณเคลลี่เลือก”

พราวชะงักอึกอัก ถูกภีมดักคอว่าอย่าบอกนะว่ายังไม่ได้ พราวกำลังเข้าตาจนก็พอดีวราลีเข้ามาช่วยบอกภีมว่าพราวกำลังเลือกอยู่ พราวผสมโรงว่าใช่ ตัวเลือกคราวนี้เยอะเสียจนเลือกไม่ถูก แต่รับรองว่าถูกใจคุณเคลลี่แน่

“บอสคะ” วราลีรีบพูดแทรก “มีเอกสารต้องรีบเซ็นอยู่บนโต๊ะ...ลีต้องรีบใช้ด่วนนะคะ” ภีมมองหน้าวราลีพูดเหน็บว่าเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ ย้ำปรามก่อนไปว่า “ผมจะคอยดูนะคุณพราว”

พอภีมไปพราวขอบคุณเจ๊ที่มาช่วยได้ทันเวลา

วราลีบอกว่าพอดีตนกำลังตามหาตัวเพราะมีจดหมายของพราวส่งมาที่ออฟฟิศ พราวรีบไปดู เป็นการ์ดเชิญไปงานเลี้ยงรุ่นรำลึกความทรงจำของงานคืนสู่เหย้าชาววิทย์-คอมพ์ สถาพรรุ่น 54 พราวยิ้มโล่งอกนึกว่าเป็นจดหมายทวงหนี้บัตรเครดิต แล้วพราวก็หน้าเสียเมื่อเห็นภาพวาดการ์ตูนที่ด้านหลังการ์ดเป็นแก้วหน้าม้ายิงฟันเหยิน บนหัวแก้วหน้าม้ามีลูกโป่งเขียนว่า “ขี้เหร่เลือกได้...ฮี้...กับๆ”

พราวด่า “ไอ้บ้า!!” วราลีตกใจถามว่ามีอะไรหรือ ชะโงกดูเห็นรูปการ์ตูนแก้วหน้าม้าบอกว่าน่ารักดี พราวรู้สึกตัวรีบกลบเกลื่อนว่าไม่มีอะไรแล้วขอตัวไปเลย พอพ้นหน้าวราลี พราวก็ด่า “แก้วหน้าม้า!! เล่นบ้าๆอีกแล้ว!!”

พราวนึกถึงอดีตที่เจ็บปวดที่เพื่อนๆมักหาเรื่องล้อเธอว่าเป็นแก้วหน้าม้า พอพราวจะเอาเรื่องก็ตะแบงว่าพวกตนหมายถึงแก้วที่ซื้อมาเป็นหน้าม้าต่างหาก หาว่า พราวกินปูนร้อนท้องไปเอง เพื่อนๆขณะนั้นที่มีเชอรี่เป็นหัวโจกพากันหัวเราะดังขึ้นๆ พราวโกรธจนแก้วน้ำที่เพิ่งซื้อมาในมือสั่นระริก ก้มหน้าวิ่งเตลิดออกไปเลยชนเข้ากับโรมที่เป็นนักศึกษาคนละมหาวิทยาลัยที่มาหา เชอรี่ที่เป็นแฟน น้ำหกเลอะเสื้อโรม

พราวตกใจรีบขอโทษ เชอรี่โวยวายว่าเสื้อโรมเปื้อนหมด เป็นตัวที่ตนซื้อให้ด้วย ด่าพราวลั่น...

“นังแก้วหน้าม้า หน้าตาอั๊กลี่แล้วยังซุ่มซ่ามอีก”

“ไม่เป็นไรหรอกเชอรี่...อุบัติเหตุมากกว่า” โรมบอกเชอรี่หันมองพราวที่วิ่งไปไกลแล้ว

ooooooo

พราวบอกหอมว่างานนี้เชื่อว่าต้องเป็นฝีมือเชอรี่แน่ จนป่านนี้หลายปีแล้วยังตามมาจองเวรกันอีก แล้วจะเอาการ์ดเข้าเครื่องทำลายเอกสาร แต่เครื่องไม่ทำงาน พราวนึกว่าเสีย แต่ที่แท้เธอหงุดหงิดจนลืมเสียบปลั๊กเอง

หอมดึงการ์ดไปบอกพราวว่าไม่ต้องทำแบบนี้หรอก ที่พวกเพื่อนเอาปมด้อยของเธอมาล้อเพราะพวกนั้นไม่รู้ว่าตอนนี้เธอไปโมหน้าใหม่แล้ว บอกพราวให้ไปงานเลี้ยงรุ่นให้พวกเขาเห็นแล้วหงายเงิบกันให้หมด

สะคราญยืนอยู่แถวนั้น พอรู้ว่าพราวสวยด้วยมีดหมอก็อยากสวยบ้าง เล่าให้เบนกับทรงพลฟัง ทั้งสองไม่เชื่อ สะคราญบอกว่างั้นต้องพิสูจน์!

ที่มุมหนึ่งในคิวปิดฮัท หอมแย่งการ์ดเชิญไม่ยอมให้พราวทำลายทิ้ง บอกพราวให้ภูมิใจตัวเองตอนนี้มากกว่าจะไปพะวงเรื่องเก่าๆ ให้ไปงานโชว์หน้าตัวเองเอาให้พวกนั้นหน้าแตกไปเลย

ขณะทั้งสองกำลังยื้อแย่งการ์ดเชิญกันนั้น เบนยื่นมือเข้ามาแย่งการ์ดไปดู สะคราญถามพราวว่าหมอที่ไหนช่วยโมให้หรือ แนะนำตนด้วยเผื่อหนังหน้าตนจะได้งามเป๊ะอย่างพราวบ้าง พราวยิ่งเสียหน้าดึงการ์ดจากมือเบนแล้วปึงปังออกไปทันที

พราวเดินไปเจอภีมเข้าจนได้ ภีมขอคุยด้วย มองหน้าพราวอย่างสำรวจว่าทำอะไรมาบ้าง ชมว่าทำแล้วสวยดี ย้ำกับพราวว่า ยอมรับอุดมการณ์ของเธอ แต่ยังไงความต้องการของลูกค้าก็ต้องมาเป็นอันดับแรก ย้ำว่า

“ลูกค้าระบุว่าไม่ต้องการสเปกเพอร์เฟกต์เมื่อไหร่ผมจะให้คุณจัดการเต็มที่ แค่นี้แหละ” พอจะเดินไปนึกได้ก็หันมาบอกพราวว่า “อ้อ...ลืมบอกไป ทำแล้วสวยแบบนี้ เป็นผม ผมภูมิใจนะ ไม่จำเป็นต้องปกปิดหรอก”

ooooooo

ที่สปอร์ตคลับ...วันนี้โรมเจออัทธ์ เขาเล่าเรื่องพราวให้อัทธ์ฟังและให้อัทธ์เมมเบอร์ใส่เครื่องของตน อัทธ์บ่นว่าสาวสวยเอาเงินให้แล้วยังซื้อโทรศัพท์รุ่นที่มีแค่รับเข้าโทร.ออกอยู่อีก น่าเสียดาย

“ผมยอมรับว่าสวยถูกใจแต่พอเถียงกันกลายเป็นอีกคนไปเลย นึกถึงทีไร...อารมณ์เสียทุกที” แล้วหันไปหยิบนวมชกมวยในล็อกเกอร์บอกอัทธ์ว่า “สงสัยวันนี้ต้องหนักๆหน่อย”

อัทธ์บอกว่าวันนี้ตนสภาพไม่พร้อม พอดีเห็นปีมงคลเดินสะพายนวมเข้ามาพอดี อัทธ์เลยบอกว่าปีบ่นๆ อยู่ว่าอยากได้คู่ซ้อมเลยให้โรมซ้อมกับปี และตนขอเป็นกรรมการดีกว่า

พราวคิดหนักชวนหอมไปกินปิ้งย่างร้านญี่ปุ่นกัน กินปิ้งย่างไม่สะใจ พราวสั่งสาเกมารินให้ทั้งตัวเองและหอม หอมถามว่าออกตัวแรงไปไหมเนี่ย คืนนี้ตนมีนัดดูหนังกับปีมงคลด้วย เห็นพราวเริ่มเมาหอมหยิบโทรศัพท์ไลน์บอกปีมงคลว่า

“รีบมาด่วนเลยนะคะที่รัก เพื่อนรักงอแง หอมรับมือคนเดียวไม่ไหว คิดถึงตะจุ๊บๆ”

ปีมงคลกำลังซ้อมมวยกับโรม ถูกโรมต่อยหน้าเข้าจังๆ มาถูกซ้ำอีกตอนเสียสมาธิหยิบโทรศัพท์อ่านไลน์ของหอมอย่างจังเพราะโรมยั้งมือไม่ทัน โรมขอโทษ ปีบอกว่าไม่เป็นไร จะได้เอารอยไปอ้อนแฟนตอนดูหนัง แล้วหัวเราะกันครื้นเครง

เลิกซ้อมแล้วโรมขับรถไปส่งปีมงคลที่ร้านปิ้งย่างญี่ปุ่น เจอหอมกำลังพาพราวที่เมามากแล้วออกมาอย่างทุลักทุเลพอดี หอมรีบเรียกปีมงคลให้มาช่วย

พราวเมามากเห็นปีมงคลก็จำได้ เห็นโรมยืนอยู่ก็จำกันได้ พราวเปิดฉากด่าทันทีว่าไอ้โรคจิตตามมาถึงนี่ แล้วทำท่าจะอ้วก ทุกคนช่วยกันลุ้นบอกให้กลืนเข้าไปก่อน พราวพยายามกลืนอ้วกเข้าไปแต่ครู่เดียวก็อ๊อกออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ คราวนี้เปื้อนโรมเต็มๆ

ปีมงคลให้หอมพาพราวไปส่งที่บ้าน ตนกับโรมจะขับรถตามไป

กลับถึงบ้านแล้วพราวเมามากยังโวยวายไม่หยุด กุ๊กไก่โผล่มาถามว่าพราวเป็นอะไร พอรู้ว่าเมามากก็ขอบคุณหอมที่พามาส่ง บอกว่าปกติพราวไม่เคยดื่มจนเมาปลิ้นขนาดนี้

“ช่วงนี้ยัยพราวเจอแต่เรื่องให้ปวดหัวด้วยมั้งพี่กุ๊กไก่ ไหนจะงานที่ตามคนอื่นไม่ทัน ไหนจะหนี้ที่ติดพี่พล” หอมแนะนำปีมงคลว่าเป็นแฟนตน ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนของแฟน กุ๊กไก่ได้กลิ่นอ้วกที่โรม พอรู้ว่าถูกพราวอ้วกใส่ บอกให้เขาไปล้างตัวในห้องน้ำ ส่วนตัวเองต้มน้ำไว้ขอกลับไปดูก่อน

ปีมงคลกับหอมส่งพราวถึงบ้านมีคนดูแลแล้วก็จะไปดูหนังกัน แต่พอเดินออกไปก็สะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงพราวร้องกรี๊ด รีบวิ่งกลับไปดู

เห็นพราวกำลังโวยวายหน้าห้องน้ำเพราะไปเจอโรมล้างตัวเสร็จยืนฉี่อยู่ เลยด่าทั้งโรคจิต วิตถาร แล้วตัวเองก็น็อกไปกับพื้น กุ๊กไก่กลับมาถามหอมว่าพราวเป็นอะไร หอมบอกว่าน็อกไปแล้ว

ooooooo

โรมบอกปีมงคลว่าตนอยู่ไม่ได้แล้ว ขืนอยู่มีหวังไม่รอดมือพราวแน่ พอกลับถึงบ้านก็ถอนใจโล่งอกบ่นสยอง...

“เกือบไปแล้วไหมล่ะ...ผู้หญิงสวยๆกับคืนนรกแตก...เฮ้อ...” พอลงจากรถก็มีเสียงโทรศัพท์เข้าเห็นเบอร์แล้วโรมรีบกดรับ “ครับท่านประธาน...ตอนนี้ผมหา
ที่อยู่ใหม่ให้เขาแล้วครับ”

เป็นสายจากมาร์คที่โทร.จากลอนดอน มาร์คขอบใจโรม บอกว่าตนไม่รู้จะพึ่งใครที่ไว้ใจได้อย่างเขาอีกแล้ว ถามว่าตอนนี้ไมค์เป็นยังไงบ้าง โรมบอกว่าบาดเจ็บนิดหน่อยและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“อย่างที่คุยกันไว้นั่นแหละโรม นี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกับชื่อเสียงบริษัทที่ตอนนี้กำลังมีปัญหามากพออยู่แล้ว และกับตัวไมค์ด้วย ถ้าเขารู้ความจริง ผมว่าจะยิ่งควบคุมอารมณ์ลำบาก” มาร์คบอกว่าขอให้โรมอดทนทำเพื่อตน รอให้ตนแก้ปัญหาของบริษัทให้ได้ ก่อนถามว่า “คุณทำเพื่อผมได้ไหม...โรม”

“ครับท่านประธาน ผมรับปากว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดครับ” โรมรับปากอย่างอึดอัดแล้วกดตัดสาย พอดีจู๊ดมาทัก โรมถามว่าพ่อหลับรึยัง ทำอะไรอยู่ จู๊ดบอกว่าตนถามแล้วผลก็คือ...จู๊ดหันหลังให้ดูรอยเท้าที่กลางหลังแทน

ลักษณ์อยู่ในห้องนอนนั่งจ้องอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ก ตัดสินใจลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกของห้องคิวปิดรูม เลือกรูปภาพตัวเองที่แก่แต่เท่ดูดีตั้งเป็นภาพโปรไฟล์ สุดท้ายคือตั้งชื่อตัวเอง นึกได้ว่าสาวๆชอบหมีจึงตั้งชื่อ “ลุงแพนด้า”

โรมเคาะประตูห้องลักษณ์ถามว่าตนเข้าไปได้ไหม ลักษณ์รีบปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กเอาแผ่นใบปลิวของคิวปิด–ฮัทซ่อน หยิบหนังสือคู่มือดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจมาวางแทน แล้วจึงเดินไปเปิดประตู

พอเจอหน้ากันก็ประชดประชันกันตามเคย ลักษณ์ประชดเรื่องผู้มีพระคุณที่โรมทำงานรับใช้เต็มที่ โรมขอร้องพ่อเลิกประชดเป็นเด็กเสียทีเพราะถ้าไม่มีเขาตนก็คงไม่มีโอกาสมาถึงทุกวันนี้

“เออ...พ่อผิดเองที่ส่งเสียแกไม่ได้ ต้องให้คนอื่นส่งเสียแก...พอใจไหม” ลักษณ์ไม่วายประชดแล้วไล่โรมไปเสียตนจะพักผ่อน พอโรมออกไปลักษณ์ก็เปิดโน้ตบุ๊กและหยิบแผ่นใบปลิวของคิวปิดฮัทมาดูแล้วตัดสินใจขั้นสุดท้าย...

ooooooo

พร้อมพลเพิ่งกลับจากโรงงาน ผ่านห้องพราวที่เปิดประตูแง้มอยู่ มองเข้าไปเห็นกุ๊กไก่กำลังถอดเสื้อพราวจะเช็ดตัวให้ก็พุ่งเข้าไปตวาด “เฮ้ย!! หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้กุ๊กกู๋”

กุ๊กไก่ตกใจหงายหลังโครม พร้อมพลพุ่งเข้าหาคิดว่ากุ๊กไก่มอมเหล้าพราวแล้วจะทำมิดีมิร้าย ลากกุ๊กไก่ ออกไปจัดการนอกห้อง

พราวตื่นขึ้นมายังเมาๆ ลุกขึ้นคว้ารีโมตทีวีที่หัวเตียงมากดมั่วๆ บ่นว่าใครมาเปิดละครทิ้งไว้ แล้วไปเปิดโน้ตบุ๊กคิดจะทำอะไรบางอย่างขึ้นมา เปิดโน้ตบุ๊กหัวเราะคิกคักพูดกับตัวเอง

“อยากบังคับพราวให้มีแฟนดีนักใช่ไหมคะบอส งั้นก็อย่าว่าพราวแหกกฎ เงินล้านพราวต้องเอาไปใช้หนี้ค่ะ”

พราวคลิกไปที่ “ลงทะเบียนสมัครสมาชิกใหม่” คลิกไปหาข้อมูลและรูปภาพสำหรับการเป็นสมาชิก จ้องหน้าจอ...

รุ่งขึ้นพราวยังแฮงก์จากเมื่อคืน ขณะเดินเข้าห้องครัว มีเสียงมือถือดังขึ้นพอเปิดดูพบว่าเป็นเสียงเตือนจากแอพพลิเคชั่นคิวปิดรูมทักทาย “ลูกเป็ดขี้เหร่”มามากมาย พราวเอะใจว่าพร้อมพลทำอะไรไว้ ตรงไปที่ห้องนอนเขาที่เปิดประตูแง้มไว้ พรวดเขาไปเรียกให้ลุกขึ้นมา

พร้อมพลนอนคลุมโปงไม่ยอมเปิดให้เห็นหน้า พราวเลยกระชากผ้าห่มออก พอเห็นหน้าเขาฟกช้ำดำเขียวถามว่าไปโดนอะไรมา พร้อมพลบอกว่าถูกกุ๊กไก่ซ้อมเมื่อคืนตอนที่พราวเมาหลับอยู่

“พราวเมาหลับ พี่พลโดนกุ๊กไก่ยำเละ เฮ้ย...พราวงงไปหมดแล้วพี่พล ตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นมั่งเนี่ยเล่าให้พราวฟังให้หมดเลย”

พราวเอาโน้ตบุ๊กมาที่โต๊ะอาหารเปิดเข้าหน้าจอของเว็บไซต์คิวปิดฮัทแล้วต่อไปที่หน้าสมาชิกในห้องคิวปิดรูม พร้อมพลมาช่วยดู พอเห็นรูปดวงตาข้างซ้ายที่วาดด้วยลายเส้นดินสอเป็นเจ้าของสมาชิกในชื่อ “ลูกเป็ดขี้เหร่” ก็ร้องบอก

“หยุดๆๆ นั่นไงไอ้พราว ลูกเป็ดขี้เหร่ที่แกสมัครเข้าไปแชตหาคู่ในคิวปิดรูมเมื่อคืนนี้”

เราใช้คุ้กกี้ 

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookie Policy)

รับทราบ