ตอนที่ 12
ที่มุมสวยงามในไร่ พุฒิเมธถูกศรันย์กับจัสตินซักไซ้จับผิดกันอยู่ ศรันย์ถามว่าตกลงสองคนหายไปไหน กันมา พุฒิเมธบอกว่าหลงไปติดฝนอยู่ในไร่แล้วก็เผลอหลับ
“แค่นั้นจริงๆเหรอ” จัสตินถามจับผิด พุฒิเมธปรามว่าไม่ต้องมองแบบนั้นเลย ไม่มีอะไรจริงๆ
เมื่อพุฒิเมธเดินเลี่ยงสองคนมา ก็เจอกับสมบัติและวรรณนา ทั้งสองถามว่าเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนี้ วรรณนาถามว่าตกลงหายไปกับหนูซินจริงหรือเปล่า
พุฒิเมธรับว่าไปด้วยกันแต่ไม่มีอะไรเสียหายอย่างที่ทุกคนคิด สมบัติถามดักคอแซวๆว่า
“ถ้าจะให้พ่อไปสู่ขอให้เมื่อไหร่ก็บอกนะ” เขาย้อนถามว่าจะขอได้ไงยังไม่ได้คบกันเลย สมบัติแซวอย่างไฟเขียวเต็มที่ว่า “ไม่เป็นไร งานเลี้ยงคืนนี้ยังมีโอกาสทำคะแนน”
ทั้งพุฒิเมธและวรรณนาต่างอยากรู้ว่าใครชนะ แต่สมบัติอำไว้ไม่ยอมบอกให้รอคืนนี้ก่อน
ปาร์ตี้คืนนี้จัดเลี้ยงแบบคาวบอย เมื่อได้เวลาสมบัติเดินไปหน้าเวทีประกาศผลการแข่งขันท่ามกลางความตื่นเต้นของทุกคน แต่พอประกาศออกมายังความแปลกใจผิดหวังแก่ทุกคนอย่างมาก เพราะผู้ที่ชนะคือซิน ณฤทธิ์เองก็ยังงงว่าเป็นไปได้ยังไง
เพื่อความโปร่งใสสมบัติจึงเปิดคลิปการตัดสินให้ดู ตามกติกาการแข่งขันที่ว่า “วัดกันที่เสียง เรียงตามความดังเสียงกรี๊ด จากที่ไม่ร้องไม่กลัว จนใครที่ร้องดังที่สุด คนนั้นจะแต้มน้อยที่สุด”
เมื่อเปิดคลิปดู ปรากฎว่าทุกคนอ่อนเปลี้ยเป็นลมและร้องเสียงหลงตกใจกัน มีแต่บุญสิตาคนเดียวที่ไม่ร้องสักแอะเดียวเพราะเป็นลมไปก่อน จึงเป็นผู้ชนะ
“แบบนี้ก็มีด้วย” ศรันย์โวย
สมบัติบอกว่าถูกต้องแล้วเพราะซินมีเสียงร้องน้อยที่สุด วรรณนาบอกซินว่าจะสั่งอะไรทุกคนก็สั่งได้เลย
ซินที่ยังงงๆบอกว่าตนไม่รู้จะขออะไร ซันเลยจะขอแทน จัสตินรีบเบรกว่าไม่ต้อง บุญสิตาจึงขอให้ทุกคนกลับไปดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย
ณฤทธิ์ขัดคอว่าให้พรทั้งที สั่งอย่างอื่นที่ตื่นเต้นหน่อยสิ บุญสิตาจึงขอใหม่ว่า ให้ทุกคนสามารถขอพรจากใครก็ได้คนละ 1 ข้อ สมบัติแถมอีก 1 ของขวัญพิเศษสำหรับทุกคนคือสมาชิกฟิตเนส 1 ปีทำงานไปด้วยออกกำลังกายไปด้วยจะได้แข็งแรง และทำงานบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ
“คืนนี้ ขอให้ทุกคนปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานนะจ๊ะ” วรรณนาเอ่ยแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะกับสมบัติ
ส่วนบรรดาหนุ่มสาวต่างก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นคาวบอยกัน บุญสิตามีกิ๊บน่ารักติดผมด้วย
ooooooo
บุญสิตาถามณฤทธิ์ว่าอยากเข้าร่างตนไปสนุกสนานกับครอบครัวกับเพื่อนๆไหม ณฤทธิ์บอกว่าดีเหมือนกันจะได้ไปปั่นหัวกันต์ซะหน่อย เธอเตือนว่าถ้าเอาร่างตนไปทำอะไรแปลกๆอีกก็จะไม่ให้ยืมร่างแล้ว
บุญสิตาเตือนให้ระวังกันต์จะหาทางคุยเรื่องหุ้นกับคุณพ่อเขาด้วยเพราะกันต์มาครั้งนี้เพื่อจะคุยเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เมื่อกันต์ ซาร่ากับเจนนี่มาถึงก็ไปขอนั่งร่วมโต๊ะกับสมบัติ ทักถามกันคำสองคำแล้วกันต์ขอปรึกษาเรื่องหุ้นแต่พอกันต์พูดก็ถูกพุฒิเมธขัดว่ายังไม่เลิกพูดเรื่องนี้หรือ ยังไงคุณพ่อท่านก็ไม่ขายหรอก แต่กันต์ก็ยังหาโอกาสพูดอีก เลยถูกบุญสิตาติงว่าอย่าคุยเรื่องเครียดเรื่องงานเลย เรามาพักผ่อน มากินของอร่อยๆกันดีกว่า
วิญญาณณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาเข้าไปแทรกขัดจังหวะจนกันต์ไม่มีโอกาสพูดเรื่องหุ้นเลย
เมื่อบุญสิตาจะไปเอาอาหารมาเสิร์ฟจึงแกล้งชวนกันต์ให้ไปช่วยถือหวังยั่วให้ซาร่าหึง กันต์ไปกับบุญสิตาเขาต่อว่าเธอที่ขัดไม่ให้เขาพูดเรื่องหุ้นถามว่าเธอทำแบบนี้เพื่ออะไร เธอตั้งหลักไม่ทันตอบอึกๆอักๆว่าแค่อยากเรียกร้องความสนใจ แต่ที่ได้ผลทันตาคือซาร่าตามไปหึงกันต์จนเอาซ่าหริ่มและน้ำแดงสาดกันเลอะเทอะ
บุญสิตาสาดน้ำแดงใส่ซาร่าแล้วประกาศปรามก่อนเดินออกไปว่า
“นี่สำหรับที่แกแกล้งฉันเมื่อตอนกลางวัน และถ้าไม่อยากเละแบบนี้อีกก็อยู่นิ่งๆ สงบปากสงบคำซะ”
ตกกลางคืน ทุกคนก็มานอนเรียงกันดูดาวอย่างมีความสุข พลันบุญสิตาก็เห็นกันต์เดินลับๆล่อๆมา จึงบอกพรรคพวกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วลุกตามกันต์ไป
ที่แท้กันต์นัดพบกับไผ่ บุญสิตาแอบฟังใจระทึก ได้ยินกันต์ด่าไผ่ว่าประเทศออกกว้างขวางทำไมต้องหนีมาหลบอยู่ที่นี่ ซ้ำยังเสนอหน้ามาให้พวกเขาเห็นอีก ไม่รู้หรือว่าตำรวจกำลังตามจับตัวอยู่ ไผ่บอกว่าถ้าได้เงินจากเขาตนก็จะไปจากที่นี่ทันที
กันต์หยิบเงินส่งให้ ไผ่บอกว่าตนแค่ยืมมีแล้วจะเอามาคืน
“ไม่ต้อง แค่แกไม่ต้องโผล่หัวมาให้เห็นหน้าอีก ก็พอ”
“ส่วนเรื่องคดีไม่ต้องห่วง ถึงผมโดนจับก็ไม่มีทางสาวถึงคุณได้หรอก ทุกคนเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครคิดหรอกว่าคุณเป็นคนฆ่าคุณมาร์ค”
บุญสิตาชาไปหมดทั้งตัวเมื่อรู้ความจริงนี้ ภาพความจำกลับมาให้เห็นอีกครั้ง...
วันนั้น...ณฤทธิ์นอนอยู่ในรถเลือดท่วมตัว เขาเห็นเท้าคนหนึ่งเดินมาที่กระจกรถเพื่อมองณฤทธิ์ในรถ ชายคนนั้นพูดโทรศัพท์กับใครบางคนที่ณฤทธิ์ได้ยินแต่เสียงว่า
“ผมทำตามที่สั่งเรียบร้อยแล้ว...ผมกลัว”
ณฤทธิ์พยายามลืมตาดูคนที่ขับรถชนตัวเอง เห็นชายคนนั้นคือไผ่แค่ไม่กี่วินาทีก็หมดสติไป
ooooooo
บุญสิตาตกใจจนเผลอเหยียบกิ่งไม้หักเสียงดัง กันต์หันขวับถาม “ใครน่ะ” พริบตานั้นมีมือมาดึงเธอหลบไป เธอตกใจหันมองจึงเห็นว่าเป็นพุฒิเมธ จะร้องก็ถูกมือปิดปากไว้แน่น
ไผ่เดินมาบริเวณที่เกิดเสียงมองไปรอบๆ บอกกันต์ว่าไม่มีอะไร กันต์จึงบอกให้แยกย้ายกันกลับ แต่พอกันต์เดินไปก็เห็นกิ๊บติดผมของบุญสิตาหล่นอยู่
เขาหยิบขึ้นมาดูแปลกใจ แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร
บุญสิตาถามพุฒิเมธว่ามาได้ยังไง เขาไม่ตอบแต่จ้องหน้าเธออย่างพินิจพิจารณาจนเธอถามว่าจ้องหน้าตนทำไม เขายังคงจ้องหน้าเธอนิ่งก่อนตัดสินใจถามอย่างมั่นใจว่า
“มาอยู่ในร่างซินได้ยังไง เฮีย!” ถามอย่างคาดคั้น “มันเกิดอะไรขึ้นเล่าความจริงมาเถอะ”
บุญสิตาอึ้งที่พุฒิเมธรู้เรื่องราวระหว่างตนกับวิญญาณณฤทธิ์ จึงตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง พุฒิเมธฟังแล้วบอกว่าถ้าไม่ได้ยินจากปากเธอจริงๆก็ไม่อยากเชื่อ
“แล้วคุณรู้ความจริงเรื่องนี้ได้ยังไง” บุญสิตาเป็นฝ่ายถามเขาอย่างสงสัยมาก
พุฒิเมธจึงเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เขาสะกดรอยตามเธอไป เห็นเธอเดินคุยกับใครบางคนแต่เขาไม่เห็นตัว แต่จากการพูดของบุญสิตาเองที่ว่า “คุณอยากเข้าร่างฉันไปสนุกสนานกับครอบครัว กับเพื่อนๆคุณไหม” แล้วยังเตือนเรื่องกันต์จะคุยเรื่องหุ้นกับสมบัติด้วย สุดท้ายปรามว่า
“แล้วก็ถ้าเอาร่างฉันไปที่ไหน ทำอะไรแปลกๆอีกฉันจะไม่ให้ยืมร่างแล้วนะคุณมาร์ค”
นาทีที่ณฤทธิ์เข้าสิงร่างบุญสิตานั้น เธอก็กลายเป็นอีกคนไปทันที พุฒิเมธอึ้ง เพ่งมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย
ทั้งสิ่งที่ตัวเองเห็นและที่ฟังบุญสิตาเล่า พุฒิเมธพูดอย่างอัศจรรย์ใจว่า
“ผมไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เลยสังเกตท่าทางซิน ตอนอยู่ในงานเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นการกิน ก็เป็นเฮียไปหมด ผมเลยคิดย้อนถึงตอนที่เจอซินครั้งแรก จนผมเริ่มมั่นใจ ผมก็เลยตามเฮียมา จนได้ยินเรื่องที่กันต์พูด”
“มันฆ่าฉัน ฉันต้องลากมันเข้าคุกให้ได้” วิญญาณณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาแค้น พุฒิเมธถามว่าตกลงเป็นเฮียจริงๆหรือ “เออสิ...จะให้ย้ำไหมว่าแกมีไฝกี่เม็ดที่ไหนบ้าง..”
ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาสาธยายรายละเอียดของพุฒิเมธจนเขาบอกพอแล้วเชื่อแล้ว ณฤทธิ์ย้ำว่าเวลาซินทำอะไรแปลกๆก็คือเฮีย พุฒิเมธทำหน้าพะอืดพะอมถามว่าแล้วที่ตนจูบเมื่อวานล่ะ? ณฤทธิ์บอกว่า
“ก็ฉันอยากได้น้องสะใภ้คนนี้นี่ ฉันอยากให้นางมีชีวิตที่ดี”
“เรื่องนั้นผมจะช่วยเฮียเอง” พุฒิเมธยิ้มอย่างถูกใจ แล้วถามจริงจังว่า “แล้วเรื่องกันต์เราจะเอายังไงดี”
ณฤทธิ์บอกว่าตนจะลากมันเข้าคุกให้ได้ พุฒิเมธบอกว่าตนจะหาทางช่วยเฮียเอง
รุ่งขึ้นเมื่อทุกคนเดินทางกลับ ณฤทธิ์ขออยู่ต่อเพื่อจะสืบให้ได้ว่าไผ่อยู่ที่ไหนเพื่อนำตำรวจไปจับให้ได้
จากความพยายามของจัสตินและศรันย์ทำให้ซันเห็นความจริงใจของทั้งสองจึงตกลงเซ็นสัญญาเป็นนายแบบกับบริษัท ยังความยินดีแก่ทุกคนมาก
วิญญาณณฤทธิ์ตามไผ่ไปถึงโรงพยาบาลจึงรู้ว่าลูกสาววัย 7 ขวบของไผ่ที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าหญิงนิทรา โดยมีป้าของไผ่ดูแลอยู่ ได้ยินไผ่คุยกับป้าสำนึกผิดที่ตนทำกับณฤทธิ์แต่ไม่กล้ามอบตัวเพราะเป็นห่วงลูก อยากอยู่กับลูกให้นานที่สุดแม้จะรู้ว่าลูกไม่รอดแล้วก็ตาม
เมื่อกลับมาเล่าให้บุญสิตาฟังแล้ว เขาบอกเธอว่า “ฉันทำไม่ลงหรอก” บุญสิตาเองก็สงสารจึงปรึกษากับพุฒิเมธว่าจะทำยังไงดี บุญสิตาเสนอว่าเราควรจัดการกับตัวการที่สั่งให้เขาทำมากกว่า ซึ่งณฤทธิ์เห็นด้วย
ooooooo