ตอนที่ 11
ชาวจิตอาสาทำงานกันอย่างมีความสุข ขณะเดียวกัน รอมก็แนะนำการดูแลสุขภาพให้ทุกคนไปด้วย
“หลักๆการดูแลสุขภาพ ป้องกันโรคง่ายๆมีอยู่สามอย่าง พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบห้าหมู่ที่สำคัญล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนกินอาหาร เดี๋ยวเราจะพักกันก่อนแล้วเราจะเขียนการ์ดกันต่อนะครับ”
ระหว่างพักนั่นเองบุญสิตาลุกไปเข้าห้องน้ำ พุฒิเมธลุกตามไปถามว่า
“คุณจะหลบหน้าผมไปถึงไหน...อย่าเสียเวลาหนีผมเลย เพราะยังไงคุณก็หนีผมไม่พ้นหรอก” ถามว่า “คุณเป็นแบบนี้เพราะเรื่องวันนั้นใช่ไหม”
บุญสิตาอายไม่อยากให้พูดถึงเรื่องนั้นอีกบอกว่าตนไม่คิดว่าจูบเขานะ พุฒิเมธพูดขำๆมันไม่ใช่เรียกว่าจูบสักหน่อย น่าจะเรียกหอมมากกว่า แต่จริงๆแล้ววันนั้นก็ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง มันคืออุบัติเหตุต่างหาก
“จะไม่ใช่ได้ยังไง” บุญสิตาเสียงเข้ม พุฒิเมธเลยจู่โจมหอมแก้มเธอฟอดใหญ่บอกว่าหอมต้องเป็นแบบนี้ต่างหากแล้วเดินไปเลย บุญสิตาตกใจโวยวายตามหลังว่า “คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?!” แล้วตามไปให้มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน พุฒิเมธเห็นท่าเธอโกรธจริงๆเลยขอโทษ บอกว่าตนล้อเล่น ก็แค่อยากให้เธอรู้ตัวว่า...
พุฒิเมธพูดไม่ทันจบเจนนี่ก็เข้ามาขัดจังหวะ บอกว่าทีมงานให้มาตามไปเขียนบัตรอวยพรได้แล้ว พลางเหล่มองบุญสิตาเขม่นๆ แล้วเกาะแขนพุฒิเมธไปเลย
“กำลังลุ้น จะมาทำไมเนี่ย ลำไยจริงๆ” ณฤทธิ์ที่ตามลุ้นทั้งสองอยู่บ่นอย่างขัดใจ
ทุกคนตั้งใจ คิดหาสิ่งดีๆที่ถูกต้องมาอวยพรกัน ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งดีๆ เช่นให้ดูแลรักษาสุขภาพ การจัดสรรเวลาในการใช้ชีวิตทั้งด้านการงาน การพักผ่อนและอาหาร เมื่อเขียนอวยพรคนอื่นแล้วต่างก็มาดูตัวเอง ศรันย์บอกว่า
“ฉันอวยพรเขาแต่ฉันเป็นหมดเลย”
“สรุปสิ่งที่พวกเราทำอยู่น่ะเรากำลังทำร้ายตัวเองกันอยู่ใช่ไหม” พุฒิเมธถาม
“ใช่” ณฤทธิ์ตอบทันที แม้ทุกคนจะไม่ได้ยิน แต่ความจริงที่คิดได้ทำให้ทุกคนต่างเศร้า...
ศรันย์ถามเพื่อนๆว่าเราทำงานหนักเพื่ออะไรกัน ทุกคนตอบตามเป้าหมายของตนว่าเพื่อครอบครัว เพื่อตัวเอง เพื่อเงิน บุญสิตาบอกว่า “เอาเงินไปใช้หนี้” ส่วนพุฒิเมธบอกว่า “ทำตามความฝัน” จัสตินบอกว่า “ทำแล้วมีความสุข มันเป็นงานที่เรารัก”
“แล้วมันตอบโจทย์ชีวิตพวกเราจริงๆได้ไหม” พุฒิเมธถาม ศรันย์พูดถึงตัวเองว่า
“ฉันทำงานหนักเพื่อพ่อแม่ ฉันกลับไม่ได้เจอหน้าพวกท่านเลย”
“ฉันได้เงินมา แต่กลับไม่มีเวลาใช้เงินเลย” จัสตินบ่น
โหน่งบอกว่าตนนอนวันละสี่ชั่วโมงเอง เจนนี่บอกว่ากินข้าวก็ไม่ตรงเวลาแถมกินเยอะไม่ได้ด้วย สุดท้าย
ศรันย์พูดถึงความจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่า “ทำงานหนัก หาเงินมาแล้วก็ต้องเอามารักษาตัวเองแบบฉัน”
“แล้วเราจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปจริงๆหรอ” พุฒิเมธถามเพื่อนๆทุกคนที่เริ่มคิดกัน
“คุณมาร์คเขาก็คงไม่อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตทำร้ายตัวเองแบบนี้” บุญสิตาอ้างมาร์คที่ทุกคนรักและถือเป็นแบบอย่างในการทำงานของตัวเอง แล้วทุกคนก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของตัวเอง ไม่ทำร้ายตัวเองต่อไป จัสตินก็จะลดคิวงานลง
“แต่ผมขอใช้ชีวิตเหมือนเดิมนะ ผมจัดสรรชีวิตตัวเองได้” ดนุดลมั่นใจ ณฤทธิ์ฟังแล้วยิ้มปลื้มชมว่าดีแล้ว ตายไปจะได้ไม่เสียดายแบบตน
“งั้นเรานัดลาพักร้อนดีไหม ทำเพื่อบริษัทมาร์คไปทำไม มาร์คก็ตายไปแล้ว” ศรันย์เสนอ
ณฤทธิ์ที่กำลังยิ้มปลื้มดนุดลหุบยิ้มหันขวับจิกตามองศรันย์เคืองๆ
เมื่อเสร็จจากงานจิตอาสา ทุกคนแยกย้ายกันกลับ บุญสิตาเดินกลับบ้านกับณฤทธิ์ตามเคย ระหว่างนั้น ณฤทธิ์บอกว่าตนรู้แล้วว่าทำไมตนถึงเข้าร่างเธอได้ทั้งที่ไม่ได้มีใครคิดสั้น บุญสิตาถามว่าเพราะเราช่วยเพื่อนๆเขาหรือเปล่า
“ใช่ ถึงเขาจะไม่ได้คิดสั้นเหมือนรายอื่นๆที่ผ่านมา แต่การที่เขาไม่ดูแลตัวเองแบบนี้ ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายทางอ้อม โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว”
“ก็จริงของคุณ...ทุกคนเอาแต่ทำงานหาเงินจนไม่ดูแลตัวเองเลย สุดท้ายเงินที่ได้มาก็เอามาใช้รักษาตัวเอง”
ทั้งบุญสิตาและณฤทธิ์ถอนใจพร้อมกันที่ทุกคนมองเห็นปัญหาและแก้ปัญหาของตัวเองอย่างถูกต้อง แต่พอศรันย์ดูใบเสร็จโรงพยาบาลที่จัสตินเอามาให้ก็ถึงกับกรี๊ด ถามว่าแค่แอดมิทวันสองวันแพงขนาดนี้เลยเหรอ นี่เงินพิเศษทั้งเดือนของตนเลยนะ บ่นว่า
“แพงขนาดนี้ ฉันขอดับอนาถคางานยังจะดีซะกว่า”
“ค่าครีมบำรุงหน้า ที่ฉันอดหลับอดนอน โหมงานจนสิวขึ้นก็แพงไม่ต่างกันหรอก” โหน่งเปรียบเทียบ แล้วทั้งสองก็เข่าอ่อนเมื่อคิดถึงรายจ่ายของตัวเอง
หลายวันต่อมา ภาพข่าวบันเทิงที่แชร์กันในเว็บไซต์กระปุกก็ปรากฏภาพพุฒิเมธ เจนนี่ จัสติน ดนุดลถ่ายรูปร่วมกับทีมงานโรงพยาบาลที่ไปทำงานจิตอาสาด้วยกัน พาดหัวข่าวว่า
“พุฒิเมธ เจนนี่ จัสติน ดนุดล ยกทีมย่องเงียบช่วยจิตอาสา”
เจนนี่ให้สัมภาษณ์ว่าปกติพวกเราก็ทำงาน
จิตอาสาอย่างนี้กันอยู่แล้วแต่ก็ไปกันเงียบๆ ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวแบบนี้
ณฤทธิ์เห็นการให้สัมภาษณ์ของเจนนี่แล้วหมั่นไส้ บอกว่าตนเห็นนางเอารูปโพสต์สร้างกระแสให้นักข่าวเห็น บุญสิตาบอกว่าก็ดีแล้ว เจนนี่จะได้ลบภาพแย่ๆก่อนหน้านี้ไปได้ ณฤทธิ์บอกว่างานนี้ต้องขอบคุณเธอที่พาทุกคนไปทำอะไรดีๆ เธอบอกว่าตนไม่ได้พามา ทุกคนสมัครใจมากันเองทั้งนั้น
“ก็นั่นแหละ ถ้าเธอไม่ออกไอเดีย ทุกคนก็คงไม่ยกแผงตามกันมาหมดแบบนี้หรอก ปกติเด็กพวกนี้ไม่อยากมางานอะไรพวกนี้ ฉันเลยได้โปรโมตบริษัท แถมยังสร้างภาพบวกๆให้เด็กๆด้วย” ณฤทธิ์สวมกอดบุญสิตาเอ่ยจากใจ “แม่ตัวนำโชคของฉัน”
แม้บุญสิตาจะเขินแต่ก็อดภูมิใจไม่ได้