“วัดจะดีมีรากฐานเพราะบ้านช่วย บ้านจะสวยเพราะมีวัดขัดนิสัย
บ้านและวัดผลัดกันช่วยยิ่งอวยชัย ถ้าขัดกันก็บรรลัยทั้งสองทาง”
O O O
“ชุมชนบ้านแม่กำปอง”...มีที่มาจากการตั้งชื่อตามดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งก็คือ “ดอกกำปอง” บวกกับบริเวณที่ตั้งชุมชนมีแม่น้ำไหลผ่านจึงมีคำว่า “แม่” อยู่ด้านหน้าสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ กลายมาเป็นชื่อชุมชน “บ้านแม่กำปอง” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองเชียงใหม่
ชุมชนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “วัดคันธาพฤกษา (แม่กำปอง)” ที่ยังคงความสวยงามและมีมนต์ขลัง วิหารสร้างด้วยไม้สักทอง แกะสลักลวดลายวิจิตรงดงาม โบสถ์ไม้เก่าที่ใครได้มาเยือนเหมือนต้องมนต์
สัมผัสได้ถึงความเย็นกาย สบายหัวใจ สงบเย็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อรุณ อุ่นเรือน ชาวชุมชนแม่กำปอง เล่าว่า ดั้งเดิมวัดแห่งนี้เป็นอาศรมตั้งอยู่เชิงเขาห่างจากหมู่บ้านราวๆ 300 เมตร เมื่อปี 2468...จากนั้นก็ย้ายมาตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน แต่เดิมมีถนนผ่านด้านทิศเหนือเท่านั้น แต่ปัจจุบันความเจริญมากขึ้นก็มีถนนตัดผ่านด้านทิศใต้ของวัด
ที่มาชื่อ “วัดคันธาพฤกษา” ชาวบ้านเอาฉายาของครูบาอินสม คนฺธรโส ท่านเป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นบนที่ดินของพี่สาวท่าน และอยู่ท่ามกลางพฤกษา คือป่าเขาลำเนาไพร จึงมีชื่อว่า “วัดคันธาพฤกษา แม่กำปอง”
...
“จุดเด่นที่น่าสนใจของวัดนี้ นั้นก็คือมีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ มีวิหารที่ทำด้วยไม้สักทองทั้งหลัง แกะสลักลวดลายอันวิจิตรงดงาม เป็นงานสถาปัตยกรรมที่สำคัญของชุมชนบ้านแม่กำปอง ซึ่งวัดคันธาพฤกษาแห่งนี้ยังถือเป็นวัดประจำหมู่บ้านแม่กำปองอีกด้วย”
O O O
“วิหารไม้สักทอง” ในส่วนของหลังคาได้ชื่อว่าอยู่บนที่สูงสุดของขุนเขา อากาศเย็นชื้นตลอดทั้งปี จึงถูกปกคลุมด้วยมอสสีเขียวเต็มทั้งหลังคา อย่างสภาพที่เห็นดูสงบเย็นสบายใจ
ที่สำคัญวัดที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆในอำเภอแม่ออนแห่งนี้ ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านแม่กำปองมาเป็นเวลายาวนาน เนื่องจาก “วัดคันธาพฤกษา” ได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2473
วันเวลาผ่านมาถึงวันนี้ก็มีอายุมากถึง 87 ปีเข้าไปแล้ว
บนเนื้อที่ 2 งาน 55 ตารางวา แม้จะไม่มากเท่าใดนัก แต่ก็เป็นศูนย์รวมใจชาวแม่กำปองสืบมาจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากวิหารเหนือฟ้าที่มีมนต์ขลัง ที่แห่งนี้ยังมี “พระอุโบสถ” ที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาประกอบพิธีกรรมต่างๆ และยังได้ชื่อว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์ ด้วยตั้งอยู่กลางลำธารแห่งสายน้ำแม่กำปองที่ไหลผ่านหมู่บ้าน
สายน้ำแห่งนี้...เป็นสายน้ำธรรมชาติที่เกิดจากแหล่งต้นน้ำบนเทือกเขาสูง
สืบสาวราวเรื่องสาเหตุที่อุโบสถตั้งอยู่กลางลำธาร เนื่องมาจากดำริเจ้าอาวาสรูปแรกให้สร้าง ตามพุทธหลักการ...คือให้มีลำน้ำล้อมรอบแทนใบเสมาเหมือนวัดโดยทั่วไปและทั้งหมู่บ้านแม่กำปองมองทางไหนก็เห็นเป็นสีเขียวสบายตา วันเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้วอาจจะเก่า ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ยังคงความสวยงาม...มีมนต์ขลัง เป็นที่น่าเลื่อมใส เชื้อเชิญให้ผู้คนที่มีโอกาสได้แวะเวียนผ่านไปพิสูจน์ศรัทธาไม่เสื่อมคลาย
O O O
“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เมื่อมนุษย์มีศรัทธา ก็อาจทำอะไรที่ประสบความสำเร็จได้ แม้จะไม่มีความชำนาญหรือประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆอย่างลึกซึ้งก็ตามที
ศรัทธา...นำมาซึ่งกำลังใจ พรั่งพร้อมพลังที่จะก้าวเดิน ผู้ไม่มีศรัทธา...ความสำเร็จจะยิ่งห่างไกลตัวเข้าทุกขณะเวลา
...
“ศรัทธา”...เชื่อในกฎแห่งกรรม เชื่อว่าเวรกรรมมีอยู่จริง เมื่อทำอะไรโดยมีเจตนาคือจงใจทำทั้งรู้ ย่อมเป็นกรรม...เป็นความชั่วความดีมีขึ้นในตน เป็นเหตุปัจจัยก่อให้เกิดผลดีผลร้ายสืบเนื่องต่อไป
การกระทำไม่ว่างเปล่า เชื่อว่า...ผลที่ต้องการจะสำเร็จได้ด้วยการกระทำ มิใช่ได้มาด้วยการอ้อนวอน นอนคอยโชคชะตา เชื่อวิบาก ...ผลของกรรมที่ทำนั้นมีจริง “กรรม” ที่ทำแล้วย่อมมีผล ผลดีเกิดจากกรรมดี...ผลชั่วเกิดจากกรรมชั่ว
วัดคือสถานที่พักจิตใจใครสูงต่ำ แม่น้ำแห่งศีลธรรมนำสดใส
กำหนดกฎแห่งกรรมจำใส่ใจ ปองสุขใดมโนยึดประพฤติธรรม.
รัก–ยม