เป็นเรื่องของคนหาเช้ากินค่ำที่เป็นเหยื่อบริษัทที่เปิดบริการเงินผ่อน ชักชวนให้ทำประกัน แล้วสุดท้ายตกเป็นเหยื่อ ทั้งที่จ่ายค่าเบี้ยประกันรายเดือน
บอกว่าเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ใช้บริการเงินผ่อนของบริษัทสินเชื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย วันดีคืนดีมีคนโทรศัพท์มาเชิญชวนทำ
ประกันในวงเงินค่าเบี้ยประกันเดือนละ 500 บาท
เห็นว่าบริษัทมีความมั่นคงก็สนใจที่จะทำ แล้วในที่สุดตกเป็นเหยื่อ
เมื่อชำระค่างวดสินค้ามีบิลเก็บเงินค่าประกันแนบมา แต่เป็นอีกบริษัท
ซึ่งเอาข้อมูลจากบริษัทใหญ่มาหากิน เลยต้องจ่ายไปงวดแรก พันกว่าบาท แล้วขอยกเลิกประกัน
มันไม่สิ้นสุดแค่นั้น พอเดือนถัดมาจ่ายค่างวดปกติ บริษัทไม่ยอมรับ ต้องจ่ายเงินค่าประกันเพิ่มอีกพันกว่าบาทอีก เดือนต่อๆไปไม่รู้ว่าจะเก็บอีกหรือเปล่าทั้งที่ยกเลิกโดยมีหนังสือยืนยันมาแล้ว
สคบ.ทำอะไรอยู่
บริษัทใหญ่แบบนี้หากินกับความเดือดร้อนของประชาชน
คนที่ร้องบอกว่า ไม่ใช่ตนคนเดียวที่โดน แต่เกิดขึ้นกับหลายๆคนที่รู้จักต้องเสียเงินในลักษณะนี้
รัฐบาลจะมีวิธีการกำกับบริษัทประกันแบบพวกนี้อย่างไร
ที่ใช้แค่โทรศัพท์ ไม่ได้พบหน้าตากัน ไม่ต้องลงชื่อนามสกุลยืนยันทางโทรศัพท์
อาศัยโทรศัพท์มาพูดคุย อ้างเป็นตัวแทนบริษัทใหญ่ๆที่มีเครดิต หลอกล่อให้เข้าร่วมทำประกันเป็นลูกหนี้เงินผ่อนหลากหลายรูปแบบ
ที่คิดกันมาได้ในช่วงที่คนหาเช้ากินค่ำ คิดหาหลักประกันหรือหาเงินมาใช้ชั่วคราว
เลยตกเป็นเหยื่อของบริษัทเหล่านี้ บริษัทแต่ละที่มีข้อเสนอแลกกับผลตอบแทนดีๆ
เรียกว่าสุดคุ้มค่า
ไม่ใช่แค่บริษัทเดียวที่มีอยู่ แต่มีอีกนับไม่ถ้วน เพราะมีการซื้อขายข้อมูลประวัติลูกค้า
...
เอาไปขายแลกเปลี่ยนเป็นข้อมูล เพื่อใช้มาติดต่อหาประโยชน์
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแรก เป็นเรื่องที่เสียมารยาท ไม่เคารพสิทธิคนอื่น และเรื่องที่ 2 ที่เป็นปัญหาหนัก ข้อมูลที่นำมาชักชวนลูกค้าไม่ได้เป็นจริงทั้งหมด
ส่วนใหญ่ผิดเงื่อนไข ไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขที่เสนอกันมาหลายคนที่ต้องเป็นเหยื่อคนกลุ่มนี้
โดยมีบริษัทใหญ่ๆคอยหนุนอยู่ข้างหลัง
กินค่าหัวคิว.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th