ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยลดลง หลังนักลงทุนระมัดระวังก่อนการประชุมเฟด โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,566.32 จุด ลดลง 0.24% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 12.92% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 41,211.54 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 577.47 จุด ลดลง 0.84% จากสัปดาห์ก่อน

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ (2-5 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,545 และ 1,530 จุด แนวต้านที่ 1,575 และ 1,590 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ การประชุมผู้นำยุโรปเกี่ยวกับประเด็น Brexit และการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องชี้ภาคการผลิต และเครื่องชี้ตลาดแรงงาน อาทิ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่ ดัชนี PMI ของญี่ปุ่นและยูโรโซน

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

...

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ที่ 34.64 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสัญญาณขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดย ธปท.ระบุว่า ธปท.จะต่ออายุมาตรการปรับลดวงเงินการออกพันธบัตรระยะสั้น อายุ 3 เดือน และ 6 เดือนออกไปอีกในเดือน พ.ค. โดยพบว่าการดำเนินการดังกล่าวช่วยลดเงินทุนระยะสั้นที่ไหลเข้ามาพักในตลาดการเงินไทย ซึ่งเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ 34.59 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้ (2-5 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.35-34.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในวันที่ 2-3 พ.ค.60 นี้ รวมถึงการหารือของผู้นำยุโรปเกี่ยวกับประเด็น Brexit และช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสองของฝรั่งเศส นอกจากนี้ นักลงทุนน่าจะยังคงรอติดตามตัวเลขจีดีพีของยูโรโซน และสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิดด้วย.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด