จบไปแล้วเมื่อวานนี้ งาน Thailand Focus 2018 “The Future Is Now โอกาสการลงทุน...ไม่ต้องรอ” จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์ ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ มีกองทุนจากทั่วโลก 161 กองทุนเข้าร่วมฟัง ดร.ภากร ปิตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า เป็นจำนวนกองทุนสูงสุดตั้งแต่มีการจัดงานมา โดยเชื่อมั่นว่า หลังจากจบงานแล้ว จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้ไหลกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น
เซสชั่นส่งท้ายเมื่อวานนี้เป็นการเสาวนาเรื่องการเมืองในหัวข้อ “Political Roadmap : The Election Ahead การเมืองไทย ถนนสู่การเลือกตั้ง” ที่นักลงทุนต่างชาติสนใจ มี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณจาตุรนต์ ฉายแสง พรรคเพื่อไทย คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมเสวนา เสียดายที่ไม่มี ตัวแทน คสช. เข้าร่วมด้วย
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นประธานเปิดงาน และต้องแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “แผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศไทย” แต่ ดร.สมคิด คงจะเห็นว่าเป็นภาพที่เล็กเกินไป จึงร่ายยาวถึง แผนยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในระดับภูมิภาค ตั้งแต่ อาเซียน CLMVT ACMECS ไปจนถึง RCEP รองนายกฯสมคิดชี้ให้ผู้จัดการกองทุนเห็นว่า ประเทศไทยได้เปรียบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ CLMVT คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย เลยทำให้ อาเซียน และ CLMVT กลายเป็น ศูนย์กลางการค้าการลงทุนของเอเชีย ที่มีประชากรกว่า 200 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยปีละ 6-8%
ดร.สมคิด กล่าวว่า ล่าสุดไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม ACMECS (ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศในลุ่มน้ำอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง 5 ประเทศ ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม) ได้มีการประกาศ Master Plan แผนแม่บทการพัฒนาร่วมกันเป็นครั้งแรก ใน 3 เรื่อง คือ การพัฒนาด้านคมนาคม ให้เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ การเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว การคมนาคม การค้า การลงทุน พลังงาน และ มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ร่วมกัน โดยมี ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง แผนพัฒนาครั้งนี้แม้แต่ประเทศขนาดใหญ่ เช่น จีน อินเดีย เกาหลี ออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ก็สนใจจะเข้าร่วม ทำให้ประเทศไทยอยู่ในจุดที่น่าลงทุนสูงสุด เพื่อเป็นช่องทางเข้าสู่ตลาด CLMVT และอาเซียน
...
ดร.สมคิด ยังได้ขาย โครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) แต่ตั้ง รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือน้ำลึกใหม่แหลมฉบัง เมืองการบินสัตหีบ เมืองอัจฉริยะ ฯลฯ ให้กับผู้จัดการกองทุนทั่วโลก โดยระบุว่า ใน 5 ปีแรกจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสูงถึง 1.7 ล้านล้านบาท รวมทั้งการออก กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) เป็นครั้งแรก และการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกับภาครัฐในรูปแบบ PPP ด้วย
มากจนผู้จัดการกองทุนจดกันแทบไม่ทัน
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการเชิญ ผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่จากทั่วโลก มารับฟังโครงการพัฒนาประเทศไทยทุกปี เพื่อให้ได้ข้อมูลตรงในเชิงลึก และได้สัมผัสกับของจริง ผมไม่รู้ว่าเมื่อเสร็จการประชุมสองวันแล้ว ตลาดหลักทรัพย์จะพาผู้จัดการกองทุน 161 กองทุนลงพื้นที่ไปสัมผัสของจริง สูดอากาศเมืองใหม่ในระเบียงเศรษฐกิจหรือเปล่า จะได้สร้างความเชื่อมั่นยิ่งขึ้น
ตลาดหลักทรัพย์ไทย วันนี้ ดร.ภากร ปิตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า มีมูลค่าตลาด 530,000 ล้านดอลลาร์ คูณด้วย 33 บาทก็ตก 17.49 ล้านล้านบาท สูงกว่าจีดีพีประเทศไทยทั้งประเทศ มีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 2,000 ล้านดอลลาร์ 66,000 ล้านบาท มีความแข็งแกร่งสามารถรองรับความไม่แน่นอนจากในประเทศและต่างประเทศได้อย่างสบาย
แม้ งานไทยแลนด์โฟกัส 2018 จะเป็นงานที่ ตลาดหลักทรัพย์ ตั้งใจจะให้ข้อมูลโดยตรงกับผู้จัดการกองทุนจากทั่วโลก แต่ข้อมูลทั้งหมด ผมเห็นว่านักลงทุนไทยก็ควรจะได้รับรู้ด้วย เพื่อประโยชน์ในการลงทุนระยะยาว เลยเก็บมาเล่าสู่กันฟังครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”