การจับกุมและออกหมายจับพระเถระผู้ใหญ่ ในข้อหาทุจริตเงินทอนวัด เป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคณะสงฆ์รุนแรงที่สุด ในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากพระเถระที่ถูกกล่าวหา และอาจต้องสละสมณเพศเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ถึง 3 รูป ถูกจับกุมและสละสมณเพศแล้ว 1 รูป พร้อมกับพระเถระผู้ใหญ่ 4 รูป ยังจับกุมตัวไม่ได้อีก 2 รูป

หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าคดีที่อื้อฉาวนี้ จะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่สุด ที่จะมีการปฏิรูปหรือสังคายนาครั้งใหญ่ในวงการคณะสงฆ์ ทั้งการปฏิรูปกฎหมายคณะสงฆ์ ปฏิรูปแนวทางการศึกษาของคณะสงฆ์ แนวทางการประพฤติปฏิบัติปฏิรูประบบการบริหารเงินวัด และการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน

ปัญหาสำคัญและเร่งด่วนที่สุด คือ การบริหารจัดการเงินวัด กฎหมายให้เจ้าอาวาสมีอำนาจสิทธิ์ขาด ในการนำเงินมาใช้จ่าย หรือโอนเงินจากบัญชีของวัดให้บุคคลใดๆ ก็ได้ แม้จะมีคณะกรรมการวัดกำกับดูแล แต่กรรมการส่วนใหญ่คนของเจ้าอาวาส เพราะเจ้าอาวาสเป็นผู้แต่งตั้ง จึงเป็นช่องโหว่ช่องใหญ่ ก่อให้เกิดความโลภและการทุจริตโกงกิน

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวัดประเมินว่า ประเทศไทยมีวัดอยู่ทั่วประเทศเกือบ 4 หมื่นวัดมีทรัพย์สินมูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้านล้านบาท มีเงินบริจาคจากชาวพุทธทั่วไป ประมาณปีละไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท แต่ไม่มีระบบการจัดการทรัพย์สินอย่างโปร่งใส ไร้ระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ เงินไม่เข้าใครออกใคร ผู้ครอบครองเงินจึงเกิดความโลภอยากได้เป็นส่วนตัว

จึงต้องมีกลไกในการตรวจสอบการจัดการเงินวัด อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ก็ต้องปฏิรูประบบการตรวจสอบในการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนวัด ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ด้วย เพราะคดีทุจริตเงินทอนวัด เริ่มต้นด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ พศ. เอาเงินไปล่อพระให้เข้าร่วมการทุจริต

...

เป็นการใช้เงินเป็นเหยื่อล่อพระ ให้ร่วมขบวนการนรกด้วยกัน ด้วยเสนอให้เงินอุดหนุนวัดจำนวนหนึ่ง แต่ขอเงินทอนคืนราว 70-80% เช่นเงินอุดหนุน 10 ล้านบาท ขอคืน 8 ล้านบาท โดยที่พระส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่ามีการทุจริต อมเงินที่ได้รับจาก พศ.

การจับพระผู้ใหญ่สึกและดำเนิน คดีอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ปัญหาการทุจริตในวงการสงฆ์ได้ แต่จะต้องแก้ปัญหาให้ถึงต้นตอ เริ่มตั้งแต่ระบบการปกครองคณะสงฆ์ การควบคุมเงินวัด การศึกษา และการปฏิบัติของคณะสงฆ์ ที่เอนเอียงไปทางไสยศาสตร์โหราศาสตร์ และพุทธพาณิชย์ เพื่อแสวงลาภสักการะ แต่ใครจะเป็นผู้นำในการปฏิรูป.