แถลงออกมาเรียบร้อยแล้วครับ ธุรกิจดาวเด่นและดาวร่วงในปีหน้า 2561 จากการคาดหมายของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ดำเนินการวิจัยและแถลงผลให้ทราบมาเป็นประจำหลายปีแล้ว
เริ่มจาก “ดาวเด่น” 10 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและอุปกรณ์ (ผู้ให้บริการโครงข่ายหรือค่ายมือถือ)
อันดับ 2 ธุรกิจทางการแพทย์และความงาม อันดับ 3 ธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ อันดับ 4 ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว อันดับ 5 ธุรกิจด้านปิโตรเคมีและพลาสติก และธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
อันดับ 6 ธุรกิจโมเดิร์นเทรด (ห้างค้าปลีกสมัยใหม่) ธุรกิจบริการด้านการเงิน และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแนวใหม่ อันดับ 7 ธุรกิจร้ายขายยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อันดับ 8 ธุรกิจด้านการศึกษาและธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
อันดับ 9 ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านความเชื่อ เช่น หมอดู โหราศาสตร์ เครื่องราง และอันดับ 10 ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจเสริมสวย
โปรดตรวจสอบธุรกิจของท่านด้วยนะครับว่าอยู่ใน 10 อันดับนี้หรือเปล่า ถ้าอยู่ก็ถือว่ามาถูกทาง ขอให้เดินหน้าต่อไป
สำหรับธุรกิจประเภท “ดาวร่วง” นั้น ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็ประกาศออกมา 10 อันดับเช่นกัน ได้แก่ อันดับ 1 ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีดีไซน์และนวัตกรรม อันดับ 2 ธุรกิจด้านการผลิตเหมืองแร่ อันดับ 3 ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และธุรกิจร้านเช่าหนังสือ
อันดับ 4 ธุรกิจผลิตและจำหน่ายซีดีและดีวีดี อันดับ 5 ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน อันดับ 6 ธุรกิจเคเบิลทีวี อันดับ 7 ธุรกิจผลิตสินค้าเกษตร ยาง ปาล์ม ข้าว อันดับ 8 ธุรกิจร้านขายมือถือมือสอง
...
อันดับ 9 ธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิม และอันดับ 10 ธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ต
ผมอ่านรายชื่อดาวร่วงทั้งหลายแล้วก็ใจหายครับ เพราะกว่าครึ่งเป็นธุรกิจที่ผมรู้จักคุ้นเคย เคยสัมผัส เคยใช้ประโยชน์ เคยอุดหนุนจุนเจือมานาน 20 ปีบ้าง 30 ปีบ้าง บางธุรกิจเกือบครึ่งชีวิตเลยด้วยซํ้า
เริ่มจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายซีดี และดีวีดีที่เคยให้ความสุขความสำราญแก่ผมมากกว่า 20 ปีแล้วกระมัง สุขกับการดูหนังฟังเพลงจากแผ่นซีดีและดีวีดีต่างๆ ซึ่งหากย้อนไปอีกถึงยุคเทปทั้งม้วนใหญ่ ม้วนเล็ก และวีดิโอเทปด้วยแล้ว ก็อาจจะไม่ต่ำกว่า 30 ปีด้วยซ้ำ
เครื่องเล่นดีวีดีของผมยังตั้งอยู่เลยครับ แต่ก็ดูเหมือนจะเสียเรียบร้อย ซึ่งผมก็ไม่ได้ยกไปซ่อมแต่อย่างใด เพราะไม่ได้เล่น ไม่ได้ใช้มาหลายปี หันมาดูมาฟังจากยูทูบแทนในขณะนี้
ใจหายที่สุดก็คือ ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสารนั่นแหละครับ โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทนิตยสารต่างๆ ทั้งรายสัปดาห์ รายเดือน ต่างก็ทยอยปิดตัวเองมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา
ล่าสุด ก็มีข่าวว่า “ดิฉัน” อำลาแล้ว ส่วน “คู่สร้างคู่สม” ของ ดำรง พุฒตาล ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นนิตยสารที่ขายดีที่สุดของประเทศไทย ฉบับหนึ่งก็เริ่มมีข่าวลือโน่นนี่ว่าจะอำลาเช่นกัน
ผมขอเอาใจช่วยขอให้เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น และที่พูดกันว่า ดำรง พุฒตาล จะแถลงข่าวใหญ่วันนี้ พรุ่งนี้ คงไม่ใช่ข่าว “คู่สร้างคู่สม” โบกมือลานะครับ
ขอแสดงความเห็นใจอีกครั้ง สำหรับธุรกิจดาวร่วงทั้งที่อยู่ใน 10 อันดับของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยหรือไม่อยู่ใน 10 อันดับก็ตาม
ก็คงต้องทำใจละครับ...เพราะการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมดาของโลกอยู่แล้ว ที่สำคัญโลกเราต้องก้าวไปข้างหน้า ต้องมีการเปลี่ยนแปลงและได้เปลี่ยนแปลงมาตลอด
มนุษย์โลกก็จะมี 2 ฝ่ายเสมอคือ ฝ่ายที่เจ็บปวด เพราะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง กับฝ่ายที่ร่าเริงยินดี เพราะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ
ถ้าเรารู้ตัวมีสติและยอมรับความจริง เราก็จะเจ็บปวดน้อย เมื่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงมาถึง
ส่วนคนที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง ก็อย่าดีใจจนถึงขั้นชะล่าใจและควรมีสติเช่นกัน เพราะสักวันหนึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆเข้ามาแทนที่ และฝ่ายเจ็บปวดร้องไห้ในอนาคต อาจจะเป็นท่านบ้างก็ได้ ต้องหัดทำใจล่วงหน้าเอาไว้นะครับ.
“ซูม”