หลังจากแอปเปิลเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Apple Watch ซีรีส์ 9 และ Apple Watch Ultra 2 พร้อมกับ iPhone 15 ซีรีส์ ล่าสุดได้วางจำหน่ายในตลาดประเทศ ไทยเป็นที่เรียบร้อย นับเป็นการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้าที่วางจำหน่ายมาหนึ่งปีเต็ม

จุดเด่นที่สำคัญของนาฬิกา 2 รุ่นใหม่นี้คือการใช้ชิป SiP รุ่น S9 แบบใหม่หมด ที่ “แอปเปิล ซิลิคอน” ออกแบบมาให้มีความสามารถใหม่ๆ ขณะที่ของเดิมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งการประมวลผลซีพียู ดูอัลคอร์ ระบบการเรียนรู้ของ Neural Engine แบบ 4 คอร์ เร็วขึ้น 2 เท่า และวิธีการใช้งานนาฬิกาโดยไม่ต้องแตะหน้าจอ

นาฬิกาสองรุ่นใหม่จะเป็นอุปกรณ์ช่วยติดตามข้อมูลและเก็บข้อมูลเชิงลึก พร้อมสามารถแชร์การดูแลสุขภาพให้กับผู้บริการและเพื่อนๆ ได้ดีกว่าเดิม

สั่งงานด้วยแตะปลายนิ้วสองครั้ง

ทีมงานได้รับผลิตภัณฑ์มาทดสอบการใช้งานแล้ว โดยทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นและใช้งานอย่างง่ายๆของนาฬิกา 2 รุ่นใหม่นี้ก็คือ การแตะสองครั้ง หรือ Double Tap การสั่งงานหน้าจอง่ายๆผ่านปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เพื่อใช้รับสายโทรศัพท์ เปิดการแจ้งเตือน เล่นและหยุดเพลง ตอบข้อความได้ทันที หยุดนาฬิกาจับเวลาถอยหลังได้ และอีกมากมายได้

...

นับเป็นฟีเจอร์ที่ออกแบบมาสำหรับเวลาที่มือเราไม่ว่าง ถือของอยู่ หรือจูงสัตว์เลี้ยงเดินเล่น สามารถสั่งงานง่ายๆ เพียงยกข้อมือข้างที่สวมนาฬิกาขึ้นมาเหมือนดูเวลา จากนั้นเพียงแค่จิ้มนิ้วแตะกันสองครั้งเพื่อสั่งให้นาฬิกาทำงาน ทางแอปเปิล ตั้งค่าพร้อมใช้งานทันทีหลังเปิดใช้งานครั้งแรก

ฟีเจอร์นี้รองรับการทำงานแค่ Apple Watch ซีรีส์ 9 และ Apple Watch Ultra 2 ในขณะนี้รองรับ watchOS 10.1 รุ่นเบต้าหรือทดลองใช้ ก่อนที่แอปเปิลจะเปิดให้โหลดตัวเต็มสิ้นเดือน ต.ค.นี้

สำหรับการใช้รีโมตกล้องผ่าน Apple Watch ทำงานได้มากกว่าเดิม ใช้ถ่ายวิดีโอได้แล้ว วิธีการถ่ายเพียงแค่แตะปุ่มชัตเตอร์บน Apple Watch ค้างไว้ จากนั้นเครื่องจะเริ่มบันทึกวิดีโอโดยใช้กล้องของ iPhone หยุดกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เมื่อต้องการสิ้นสุดการบันทึก แต่ไม่สามารถดูพรีวิวผ่านหน้าปัดนาฬิกาได้ จะแสดงเป็นเพียงภาพนิ่งเพียงแค่แตะไอคอนรูปเล็กด้านล่างจอ

การที่ iPhone 15 เปลี่ยนพอร์ตมาเป็น USB-C ทำให้เป็นที่ชาร์จแบตให้กับ Apple Watch ที่รองรับพอร์ต USB-C ได้เลย รองรับการชาร์จสูงสุด 4.5 วัตต์ เพียงแค่สายชาร์จมากับ iPhone เท่านั้น เป็นอีกวิธีการชาร์จใหม่ที่สะดวกแม้ในวันที่เราลืมชาร์จแบตและบริเวณที่อยู่ไม่มีปลั๊กไฟหรือไม่สะดวก

...

บทสรุป

Apple Watch Ultra 2 รุ่นใหม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรดจาก Apple Watch ซีรีส์ปกติ ที่ต้องการอัปเกรดการใช้งานระดับฮาร์ดคอร์ที่รุ่นเดิมไม่สามารถตอบสนองได้ เช่น การใช้แบตได้นานขึ้น รองรับฟีเจอร์ใหม่

สำหรับนักปั่นจักรยานแล้วน่าสนุกยิ่งขึ้นนำ iPhone ไปติดตั้งตรงบาร์แฮนด์จับและใช้ iPhone เป็นตัวแสดงผลกิจกรรมแบบเรียลไทม์ ใช้เป็นหูฟังเพื่อแจ้งเตือนข้อมูล มีการเพิ่ม Power Zone เพื่อยกระดับการฝึกปั่น

...

สำหรับผู้ใช้ Apple Watch Ultra รุ่นแรก ยังไม่มีเหตุผลให้เปลี่ยนเท่าไรนัก นอกจากเงินไม่ใช่ปัญหา

ส่วน Apple Watch ซีรีส์ 9 เมื่อเทียบกับซีรีส์ 8 มีจุดต่างตรงที่ชิปใหม่ ฟีเจอร์ใหม่แตะสองครั้ง จอสว่างขึ้นเท่าตัว แบตมีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่ใช้ได้นานเท่าเดิม นอกจากนี้มีสีใหม่ให้เลือกเพิ่มเติม

Apple Watch Ultra 2

ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม ขนาด 49 มม. ที่แข็งแรงทนทาน มาพร้อมกับปุ่มแอ็กชันที่ปรับแต่งได้ ด้วยชิปใหม่ช่วยให้หน้าปัดมีความสว่างสูงสุดถึง 3,000 นิต สว่างกว่ารุ่นแรกถึง 50% ช่วยให้มองเห็นภายใต้แสงอาทิตย์สว่างจ้าหรือสำหรับนักดำน้ำลึกๆ เพียงแค่พลิกข้อมือก็อ่านรายละเอียดบนหน้าปัดได้

หน้าปัดโมดูลาร์ อัลตราใหม่ แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์บนหน้าปัดใหญ่ที่แสดงผลได้มากมายระดับวินาที ความสูง ความลึกไปจนถึงการปรับแต่งสำหรับกิจกรรมเฉพาะทางที่ชอบกัน

ขณะเดียวกันสำหรับสายโหดแล้ว ยังรองรับการใช้งานตั่งแต่ระดับต่ำกว่าน้ำทะเล 500 เมตรไปจนถึงความสูง 9,000 เมตร สำหรับผู้ชื่นชอบการไต่ภูเขาสูง และรองรับความลึกในท้องทะเลที่ 40 เมตร ผ่านแอป Oceanic+

สำหรับแบตเตอรี่ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด่นสำหรับผู้ชื่นชอบออกกำลังกายสายฮาร์ด คอร์ ยังคงใช้งานได้สูงสุดที่ 36 ชั่วโมงเหมือนรุ่นแรก Apple Watch Ultra 2 มาพร้อมการเชื่อมต่อ GPS+Cellular ในตัว ราคา 31,900 บาท

...

Apple Watch ซีรีส์ 9

หน้าปัด Retina แบบติดตลอดที่สว่างยิ่งขึ้น พร้อมด้านหน้าแบบคริสตัลที่ทนทานและทนการแตกร้าว ชิปใหม่ช่วยให้หน้าปัดสว่างขึ้น 2 เท่าสูงสุด 2,000 นิต เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แม้แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 18 ชั่วโมงเท่ากับApple Watch ซีรีส์ 8 แต่ชิปใหม่ช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น 25% ในโหมดประหยัดพลังงานใช้ได้นานถึง 36 ชั่วโมง

ด้วยชิปอัลตราไวด์แบรนด์ รุ่นที่ 2 ใช้ช่วย iPhone ที่ลืมวางไว้ที่ไหนสักแห่ง หาได้ตรงตำแหน่ง เมื่อเข้าใกล้จะส่งแจ้งเตือนจุดที่วาง iPhone ไว้

ขณะที่ด้านสุขภาพจัดเต็มเหมือนเช่นเคยรวมถึงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยครบ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับล้ม ตรวจจับการชน การเรียกความช่วยเหลือฉุกเฉิน เป็นต้น

สำหรับ Apple Watch ซีรีส์ 9 มี 2 รูปแบบ คือ อะลูมิเนียม ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ซึ่งเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาที่สุด พื้นผิวแบบด้านพร้อมจอภาพกระจก Ion-X ที่แข็งแกร่ง มีตัวเลือก GPS หรือ GPS+Cellular เริ่มต้นที่ 15,900 บาท มีขนาดตัวเรือน 41 มม. และ 45 มม. มีสีชมพู, มิดไนท์, สตาร์ไลท์, เงินและแดง

ส่วนสเตนเลสสตีล ตัวเรือนทำจากสเตนเลส 316L สีขัดเงาพร้อมจอภาพผลึกแซฟไฟร์ที่ทนทานดูเรียบหรูมาพร้อม GPS+Cellular เริ่มต้นที่ 27,900 บาท มีขนาดตัวเรือน 41 มม. และ 45 มม. มีสีทอง, เงินและกราไฟต์ ให้เลือก.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม