การศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญของชีวิต แต่ในวงการการศึกษาของประเทศไทย มาตรฐานทางการศึกษาและการเข้าถึงนั้น เราต่างรู้กันดีว่ายังคงเป็นปัญหาที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พยายามที่จะหาทางแก้ไขมาโดยตลอด เราลองมาดูวิธีการแก้ปัญหาของโรงเรียนแห่งหนึ่ง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่นอกเมือง สืบเนื่องจากการปัญหาความไม่ทัดเทียมทางการศึกษา การเข้าถึงต่างๆ ที่ทำให้เด็กนักเรียนรู้สึกว่าการเรียนในพื้นที่ที่ห่างไกลจากตัวเมือง จะทำให้ได้รับความรู้ที่ไม่เท่ากับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสื่อการเรียนการสอนและสาธารณูปโภคต่างๆ โรงเรียนแห่งนี้จึงต้องยกระดับตัวเองและสร้างมาตรฐานให้กลายเป็นโรงเรียนที่น่าสนใจ

อะไรคือสิ่งที่น่าสนใจ.... ในโรงเรียนแห่งนี้

1.การเตรียมความพร้อมสำหรับ AEC : ในปีหน้า (พ.ศ.2558) ประเทศไทยเราก็จะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ (Asian Economic Community : AEC ) แล้ว ดังนั้นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรในประเทศถือเป็นสิ่งจำเป็นและเร่งด่วน ทางโรงเรียนจึงได้อิมพอร์ตครูต่างชาติ เพื่อมาสอนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ แต่แค่ภาษาอังกฤษในยุคสมัยนี้ไม่เพียงพอแล้วค่ะ ภาษาที่ 3 จึงต้องมี ! นโยบายของทางโรงเรียนเป็นที่แน่ชัดว่า เราจะสอนให้เด็กสามารถสื่อสารได้อย่างน้อย 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และ ภาษาอื่นๆ ในประเทศที่ร่วมลงสัญญา AEC โดยให้สิทธิ์เสรีในการที่เด็กจะเลือกเรียนว่าอยากเรียนภาษาที่ 3 เป็นภาษาใด

...

2.บัตรนักเรียนสุดไฮเทค : ข้อนี้เด็กๆอาจจะไม่ค่อยถูกใจนัก แต่ซีรับรองว่าเหล่าผู้ปกครองต้องถูกใจแน่นอน! เพราะว่าบัตรนักเรียนจะไม่ใช่เพียงบัตรพลาสติกเปล่าๆอีกต่อไป มันจะใช้เป็นการสแกนเข้า – ออก โรงเรียน , สแกนเช็คชื่อการเข้าเรียนในคาบต่างๆ รวมทั้งในอนาคตมันจะสามารถเก็บคะแนนความประพฤติเข้าไปได้ด้วย แต่สิ่งที่ซีว่ามันล้ำมากก็คือ... ผู้ปกครองสามารถเข้าไปดูข้อมูลเหล่านี้ได้ผ่านทาง เวปไซต์ , แอพลิเคชั่น และ sms

3.ห้องสมุดคลังความรู้ : ลืมภาพห้องสมุดชวนง่วงไปได้เลยค่ะ ห้องสมุดของโรงเรียนแห่งนี้ นอกจากการตกแต่งที่ทันสมัย และบรรยากาศแห่งการเรียนรู้แล้ว ในตอนนี้ทางโรงเรียนได้เริ่มใช้สื่อการเรียนรู้แบบ E-book ( Electronic Book) เพื่อให้สะดวกต่อการค้นคว้า และเสริมให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ในห้องสมุดยังมี wi-fi เพื่อที่นักเรียนจะสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตลอดเวลา ดูแล้วคงไม่ใช่แค่เด็กนักเรียนที่อยากจะเข้าไปใช้บริการ ผู้ใหญ่อย่างซีเองยังอยากลองไปใช้บริการของห้องสมุดแห่งนี้บ้างเลยค่ะ


4.ห้องคาราโอเกะ : ใครจะรู้ว่าเด็กคนหนึ่งในวันนี้ อาจจะเติบโตขึ้นไปเป็นนักร้อง หรือนักดนตรีในอนาคต นอกจากความฝันแล้ว อุปกรณ์ในการฝึกซ้อมต้องพร้อมด้วย ! เวทีสานฝันมีมากมายในปัจจุบัน ห้องคาราโอเกะนี้อาจจะเป็นห้องที่ทำให้เขาได้ค้นพบตัวเอง จุดประกาย สร้างทักษะ หรือสร้างฝันให้กับเด็กคนหนึ่งเลยก็ได้

5.โรงหนัง 3 มิติ : ต่อไปเราจะเห็นไดโนเสาร์แบบ 3 มิติ ที่วิ่งได้ ไม่ได้ตัวแบนอยู่แค่บนกระดาษ.... ซีถือเป็นสื่อการเรียนการสอนที่น่าจะดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด เพราะภาพที่เห็น เสียงที่ได้ยิน จะทำให้นักเรียน เรียนรู้ เข้าใจ และจดจำได้ดี ไม่ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสารคดี การเปิดภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ เป็นต้น บทเรียนที่น่าเบื่อ ก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้ความสนุกอีกด้วย

จากความคิดตั้งต้นที่คิดแค่จะแก้ปัญหาและสร้างมาตรฐานให้กับ”โรงเรียนที่ห่างไกล” กลับเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับการศึกษาของประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีและความมุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง ที่ทำให้สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ นอกจากสิ่งเหล่านี้ที่เราสามารถสร้างได้แล้ว แต่สิ่งที่เราไม่สามารถสร้างได้คือความขวนขวายของตัวเด็กเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

...