เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแอมะซอน กลายเป็นบุคคลร่ำรวยยิ่งกว่าร่ำรวย ภายหลังหุ้นของแอมะซอนปรับตัวขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้มหาเศรษฐีวัย 56 ปี เป็นคนแรกของโลกที่มีทรัพย์สินแตะหลัก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นคนแรก

ด้วยการปรับตัวของมูลค่าหุ้นในครั้งนี้ ทำให้ทรัพย์สินของ เจฟฟ์ เบซอส มีมูลค่ามากกว่ามหาเศรษฐีอันดับสองของโลกอย่างบิล เกตส์ เกือบ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปัจจุบันบิล เกตส์ มีทรัพย์สินราว 1.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ความร่ำรวยของ เจฟฟ์ เบซอส เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ทั่วโลกเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาพึ่งพาการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้นกว่าสภาวะปกติ โดยเฉพาะร้านค้าของแอมะซอน ที่ถือว่าเป็นพี่เบิ้มในธุรกิจค้าปลีก ทั้งนี้ หุ้นของแอมะซอนเพิ่มขึ้นเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020

นอกจากธุรกิจค้าปลีกแอมะซอนแล้ว เจฟฟ์ เบซอส ยังมีธุรกิจอีกหลายประเภท เช่น หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ บริษัทด้านการบินและอวกาศ บลู ออริจิน (Blue Origin) และการลงทุนส่วนตัวที่ไม่เปิดเผย

บลู ออริจิน อีกหนึ่งธุรกิจของเบซอส
บลู ออริจิน อีกหนึ่งธุรกิจของเบซอส

...

ทั้งนี้ ในเซคชัน Real-time Billionaires ของเว็บไซต์ฟอร์บส์ เปิดเผยว่า มหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของโลก มาจากธุรกิจเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ โดยอันดับหนึ่งและสองก็คือ เจฟฟ์ เบซอส และบิล เกตส์ ส่วนอันดับสามเป็นของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ และครอบครัว ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของอาณาจักรสินค้าหรู LVMH

ทางด้านอันดับสี่เป็นของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอเฟซบุ๊ก อันดับห้า ได้แก่ อีลอน มัสก์ ส่วนอันดับหกคือวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับตำนาน ตามด้วยอันดับเจ็ด มูเกช อัมบานี ชาวอินเดีย

อันดับแปด ก็คือ แลร์รี เอลลิสัน ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทออราเคิล ที่มีข่าวจะซื้อกิจการ TikTok อันดับเก้า ได้แก่ สตีฟ บอลเมอร์ อดีตซีอีโอไมโครซอฟท์ ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าของทีมบาสเกตบอลแอลเอ คลิปเปอร์ส ในเอ็นบีเอ และอันดับที่สิบเป็นของแลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล.