ส่งท้ายปี 2560 “ทีมข่าวไทยรัฐไซเบอร์เน็ต” ขอยกโขยงหุ่นยนต์ตัวเด่นตัวดังมาให้ท่านผู้อ่านได้ทำความรู้จักรับกับยุคสมัย เพื่อที่จะเข้าใจว่าหุ่นยนต์ที่มีความสามารถ ชาญฉลาดระดับนี้ ทำอะไรได้มากมายนัก

อาซิโม (ASIMO)

แม้จะถูกหุ่นยนต์คลื่นลูกหลังแซงหน้าด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำกว่า ต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หุ่นยนต์ดาวค้างฟ้าอย่างอาซิโม ก็ยังอยู่ในใจหลายคน และสามารถรักษาชื่อเสียง ยืนระยะได้ยาวนานเกือบ 20 ปี

อาซิโมเป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์ของบริษัทฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่น สร้างสำเร็จเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2543 และเปิดตัวสู่สาธารณชน เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ปีเดียวกัน

อาซิโมสูง 120-130 เซนติเมตร หนัก 52 กิโลกรัม เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว เดิน วิ่ง ขึ้นบันได รวมทั้งเต้นรำ ปราดเปรียวขนาดที่ว่าเคยเตะฟุตบอลเล่นกับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกามาแล้ว

ปัจจุบันอาซิโมถูกนำไปใช้ในภารกิจหลากหลาย เช่น คอยช่วยเหลือผู้สูงวัย ทำงานแผนกต้อนรับ เสิร์ฟน้ำ อาหาร ไปจนถึงทำงานในพื้นที่ประสบภัย เช่น เข้าไปช่วยเคลียร์พื้นที่ในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ซึ่งกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

...

อาซิโม เวอร์ชั่นล่าสุด ยังสามารถวิ่งได้เร็วมากกว่า 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งถอยหลัง กระโดดขาเดียว เปิดฝาขวดและรินน้ำใส่แก้ว ขี่มอเตอร์ไซค์ คุมวงออเคสตรา พูดคุยโต้ตอบได้ 3 ภาษา คือ ญี่ปุ่น จีน และอังกฤษ รวมทั้งสามารถจดจำใบหน้า แถมสื่อสารด้วยภาษามือได้ด้วย

ฮอนด้าตั้งเป้าไว้ว่า จะใช้อาซิโมช่วยต้อนรับช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ภายในปี 2563 แต่ ณ ขณะนี้ ใครสนใจสามารถเช่าอาซิโมไปใช้งานได้

โซเฟีย (Sophia)

ถูกพัฒนาขึ้นโดยแฮนสัน โรโบติกส์ แห่งฮ่องกง ความสำคัญของโซเฟีย อยู่ที่การได้รับสิทธิในฐานะพลเมืองหุ่นยนต์รายแรกของประเทศซาอุดีอาระเบียและของโลก

สถานะของพลเมืองโซเฟีย ยังไม่ปรากฏแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องสิทธิของหุ่นยนต์ จะถูกหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมสหภาพยุโรป หรืออียู ในเดือน ม.ค.ที่จะถึง

ด้วยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ ทำให้โซเฟียมีความสามารถที่จะแสดงอารมณ์ ความรู้สึก (รวมทั้งร้องไห้) จ้องตาคู่สนทนา จดจำใบหน้า และเข้าใจคำถาม ซึ่งนั่นทำให้โซเฟียสามารถให้สัมภาษณ์ออกรายการโทรทัศน์ได้ทั่วโลก

เธอยังเคยปรากฏตัวต่อที่ประชุมสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อกล่าวถึงบทบาทของ AI เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย

ปัจจุบันภารกิจสำคัญของโซเฟีย คือการเรียกร้องสิทธิที่เท่าเทียมของสตรีในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งยังไม่มีสิทธิขับรถ (กำลังออกกฎหมายอนุญาตมีผลกลางปีหน้า) หรือแม้แต่ร้องเพลงในที่สาธารณะ

ไอโบ้ (Aibo)

หุ่นยนต์หมาที่ครองใจคนในยุคหนึ่งได้อยู่หมัด ด้วยความน่ารัก แปลกใหม่ เสียดาย ในที่สุดโซนี่ตัดสินใจปิดฉากแผนกพัฒนาหุ่นยนต์ลงในปี 2549 ทำให้ไอโบ้ต้องสิ้นอายุขัย หลังถูกพัฒนาออกมาได้ 3 เจเนอเรชั่น

เปิดตัวในปี 2542 ไอโบ้กลายเป็นขวัญใจเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งกลุ่มผู้คลั่งไคล้หุ่นยนต์ มีแฟนมากมาย และทำยอดขายมากกว่า 150,000 ตัว

...

ไอโบ้ยังเป็นดาวเตะของทีมฟุตบอล ลงแข่งขันใน RoboCup สายหุ่นยนต์สุนัข ซึ่งหลังโซนี่ยุติการพัฒนาหุ่นยนต์ ทีมจัดแข่งขัน Robo Cup ต้องหาหุ่นยนต์หมาตัวอื่นเสียบแทน

ไอโบ้ยังถือเป็นหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตัวหนึ่ง ตอนโซนี่เลิกผลิต แฟนๆไอโบ้หลายคนจึงถึงกับหลั่งน้ำตา

บิ๊กด็อก (BigDog)

ละสายตาจากความน่ารักของไอโบ้ มาสู่ความสยองขวัญด้วยรูปลักษณ์ของบิ๊กด็อก ซึ่งพัฒนาโดยบอสตัน ไดนามิกส์ (Boston Dynamics) บริษัทนักพัฒนาหุ่นยนต์ที่เก่งกาจก้าวล้ำ จนกูเกิลทนไม่ไหว ทุ่มเงินซื้อไปครอบ ครองเรียบร้อยโรงเรียนกูเกิล

เปิดตัวเมื่อปี 2548 บิ๊กด็อกได้รับเงินสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาจากรัฐบาลสหรัฐฯ หวังให้เป็นตัวช่วยในการขนสัมภาระให้ทหารในสนามรบ

บิ๊กด็อกมีขนาดใกล้เคียงหมาตัวใหญ่ สามารถขนสัมภาระได้หนักถึง 150 กิโลกรัม ทำความเร็วได้ 4 ไมล์ต่อชั่วโมง แถมสามารถปีนป่ายที่สูงชันได้อย่างทะมัดทะแมง

ทีมของบอสตัน ไดนามิกส์ ยังโชว์สกิลเทพ ด้วยการออกแบบให้มันเคลื่อนไหวได้ใกล้เคียงกับสัตว์ที่มีชีวิต และนั่นยิ่งทำให้มันดูน่าเกรงขามและน่าขนพองสยองเกล้าไปพร้อมๆกัน

...

ความสามารถของบิ๊กด็อก ยังทำให้มีคนเกือบ 10 ล้านคนคลิกเข้าไปดูวีดิโอเปิดตัวของมัน ซึ่งมีตั้งแต่โชว์ทักษะในการปีนป่าย ความสามารถในการลุกขึ้นหลังถูกเตะล้ม รวมทั้งการเดินบนพื้นน้ำแข็ง

สปอตมินิ (SpotMini)

หุ่นยนต์หมาเวอร์ชั่นล่าสุดของบอสตัน ไดนามิกส์ ซึ่งปัจจุบันถูกขายตกทอดมาเป็นของซอฟต์แบงก์ (Soft-bank) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น

สปอตมินิเวอร์ชั่นนี้ ลดทอนความน่ากลัวลงไปได้มาก ด้วยการใช้สีเหลืองมาเบรก เพื่อเพิ่มความสดใส การเคลื่อนไหวทำได้ปราดเปรียว ไหลลื่น

บอสตัน ไดนามิกส์ ตบท้ายหลังวีดิโอโปรโมตสปอตมินิเวอร์ชั่นล่าสุดว่า พบกันในเร็วๆนี้ แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะวางขายหรือว่าจะปล่อยวีดิโอยั่วน้ำลายตัวต่อไป

โมลี่ (Moley)

หุ่นยนต์เชฟตัวแรกของโลก เดิมถูกกำหนดให้เปิดตัวในปีนี้ แต่ล่าสุดขยับเป็นในปี 2561 ด้วยระบบแขนกลที่สามารถคน ผสม หั่น ต้ม ผัด แกง ทอดอาหารได้ทุกรูปแบบ ทำได้มากกว่า 100 เมนู แม้กระทั่งเมนูของเชฟมิชลินสตาร์

...

ทำอาหารเสร็จ โมลี่ยังเก็บกวาด เช็ดถู ล้างภาชนะให้ด้วย ควบคุมการทำงานได้จากระยะไกล ไม่ต้องอยู่บ้านก็สั่งให้โมลี่ทำอาหารเตรียมไว้ให้ได้ สำหรับสนนราคาเคาะไว้ที่เบื้องต้น 92,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 3 ล้านบาท

Ekso GT

Ekso Bionics บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ช่วยเดิน ทำงานด้านนี้มามากกว่า 10 ปีแล้ว โดยร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ คิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับช่วยผู้พิการ อัมพฤกษ์ อัมพาตให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง

Ekso GT ทำจากไทเทเนียมและอะลูมิเนียม ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน เวลาใช้ คนไข้แค่สวมหุ่นยนต์และขยับสะโพก หุ่นยนต์จะช่วยประคองและพยุงขาให้ก้าวไปข้างหน้า โดยนักกายภาพบำบัดสามารถควบคุมและปรับการทำงานได้ผ่านซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ในหุ่นยนต์.