สถานทูตไทยในกรุงโซล ประกาศเตือนคนไทยในสาธารณรัฐเกาหลีให้อยู่ในความสงบและหลีกเลี่ยงการชุมนุม สถานที่ชุมนุมทางการเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณรัฐสภาในกรุงโซล

วันที่ 3 ธันวาคม 2567 หลังจากนายยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยอ้างว่าทำเพื่อกำจัดกองกำลังฝ่ายสนับสนุนเกาหลีเหนือไปจากประเทศ พร้อมประณามฝ่ายค้านว่ามีพฤติกรรมต่อต้านอำนาจรัฐ ซึ่งต่อมาในเวลาประมาณ 23.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นได้มีทหารและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจำนวนหนึ่งมาปิดกั้นทางเข้าอาคารรัฐสภา โดยอนุญาตให้แค่สมาชิกสภากับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปได้เท่านั้น

ส่งผลให้แฮชแท็ก #เกาหลีใต้ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) ในประเทศไทย ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : แฮชแท็ก #เกาหลีใต้ พุ่งติดเทรนด์ หลัง ปธน.เกาหลีใต้ ประกาศใช้กฎอัยการศึก)

ล่าสุด แฟนเพจ 주한태국대사관 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล Royal Thai Embassy, Seoul ได้โพสต์ข้อความว่า ประกาศขอให้คนไทยในสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ในความสงบและหลีกเลี่ยงการชุมนุมและสถานที่ชุมนุมทางการเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณรัฐสภาในกรุงโซล

ด้วยนายยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก (Martial Law) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 22.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซลได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และขอเรียนดังนี้

1. สาระสำคัญคำแปลเป็นภาษาไทยอย่างไม่เป็นทางการของการประกาศใช้กฎอัยการศึก (ฉบับที่ 1)

...

“เพื่อปกป้องประชาธิปไตยเสรีนิยมจากการคุกคามของการโค่นล้มระบบเกาหลีโดยกองกำลังต่อต้านรัฐที่ซุ่มซ่อนอยู่ภายในสาธารณรัฐเกาหลีที่เป็นอิสระและเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน จึงประกาศต่อไปนี้ทั่วสาธารณรัฐเกาหลี ณ เวลา 23.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2024

1.) ห้ามกิจกรรมทางการเมืองทุกประเภท รวมถึงกิจกรรมของรัฐสภา สภาท้องถิ่น พรรคการเมือง สมาคมการเมือง การชุมนุม และการเดินขบวน เป็นสิ่งต้องห้าม
2.) ห้ามกระทำการใด ๆ ที่ปฏิเสธหรือพยายามโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม และห้ามเผยแพร่ข่าวปลอม การบิดเบือนความคิดเห็นของประชาชน และการโฆษณาชวนเชื่ออันเป็นเท็จ
3.) สื่อและสิ่งพิมพ์ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎอัยการศึก
4.) ห้ามการนัดหยุดงาน การก่อวินาศกรรม และการชุมนุมที่ส่งเสริมความวุ่นวายทางสังคม
5.) บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน รวมถึงประชาชนที่นัดหยุดงานหรือออกจากวงการการแพทย์แล้ว จะต้องกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติภายใน 48 ชั่วโมง และทำงานด้วยความซื่อสัตย์ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎอัยการศึก
6.) สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มบ่อนทำลายรัฐ จะมีมาตรการเพื่อบรรเทาความไม่สะดวกในชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุด

3 ธันวาคม 2567
(วันอังคาร) พล.อ.ปาร์ค อันซู
ผู้บัญชาการกฎอัยการศึก”

2. ในชั้นนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ขอแนะนำให้คนไทยที่พำนักอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ในความสงบและขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลีหรือสถานที่อื่น ๆ ที่มีการชุมนุมประท้วง และโปรดติดตามสถานการณ์จากสื่อต่าง ๆ รวมทั้งช่องทางเฟซบุ๊ก เว็บไซต์และเอ็กซ์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากชาวไทยในสาธารณรัฐเกาหลีประสบเหตุฉุกเฉินจากเหตุการณ์ดังกล่าว โปรดติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +82 10 6747 0095 และ +82 10 3099 2955

จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล