สคบ.เชิญไทยแอร์เอเชียชี้แจงสัปดาห์นี้ ปมผู้บริโภคจองตั๋วเครื่องบินไม่สำเร็จ แต่ถูกแอปฯจองตั๋วดูดเงิน ด้าน “สุริยะ” ลุ้นผลประเมิน FAA เลื่อนระดับมาตรฐานความปลอดภัยสายการบินของไทย กลับสู่ระดับ 1 อีกครั้ง ชง ครม.วันนี้ (3 ธ.ค.) ไฟเขียว พ.ร.บ.ตั๋วร่วม จ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า กรณีที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ที่มีผู้บริโภคจำนวนมากจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปพลิเคชันแอร์ เอเชีย มูฟ (Air Asia Move) ซึ่งจองไม่สำเร็จ แต่กลับถูกหักเงินออกจากบัญชีนั้น สคบ.ได้ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ธ.ค.67 และได้ข้อสรุปว่าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง

สำหรับหน่วยงานที่จะเชิญมาชี้แจง ประกอบด้วย สายการบินไทยแอร์เอเชีย ผู้ดูแลแอปฯเแอร์ เอเชีย มูฟ ที่แม้สายการบินปฏิเสธว่า กรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสายการบิน เพราะมีบริษัทดูแลแอปฯ Air Asia Move ไม่ใช่ของสายการบินโดยตรง แต่ สคบ. ต้องเชิญสายการบินมาชี้แจงด้วย, สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือเอ็ตด้า มาสอบถามถึงการจดทะเบียนของแอปฯต่างๆ, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)

“ปัญหาการจองตั๋วเครื่องบินเรื้อรังมาตั้งแต่กลางปี 66 และกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซันของปีนี้ ขณะที่การร้องเรียนเกี่ยวกับสายการบิน และแอปฯจองตั๋วเครื่องบิน มาที่ สคบ.ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67 ถึงปัจจุบัน มี 300 ราย และที่ร้องเรียนไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีอีก 150 ราย”

...

ด้านนายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า การจองตั๋วเครื่องบินอย่างเดียวไม่เข้าข่ายลักษณะ พ.ร.บ.ธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ปรับปรุงปี 59 ที่กำหนดว่าการกระทำผิดที่เข้าข่าย พ.ร.บ.นี้ จะต้อง ขายสินค้าท่องเที่ยวในลักษณะเป็นแพ็กเกจ เช่น ขายตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักและร้านอาหาร หรือตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักและเช่ารถ เป็นต้น ดังนั้น ลักษณะดังกล่าวจึงยังไม่ใช่ความตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนําเที่ยว

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวถึงผู้ตรวจจากองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) มาตรวจประเมินความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ (IASA) ของไทย เพื่อพิจารณาเพิ่มระดับจาก 2 กลับสู่ระดับ 1 หลังจากก่อนหน้านี้ FAA ลดระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของไทยจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 ส่งผลให้สายการบินของไทยไม่สามารถทำการบินเข้าสหรัฐฯได้ ว่า FAA จะส่งรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ภายใน 30 วัน คาดว่า จะมีการหารือขั้นสุดท้ายช่วงกลางถึงปลายเดือน ก.พ.68 และจะทราบผลภายใน 45 วัน มั่นใจว่าไทยจะได้รับการปรับระดับกลับสู่ระดับ 1 ได้สำเร็จ

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (3 ธ.ค.) จะเสนอร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ... ให้พิจารณาอนุมัติ จากขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา หลังจากนั้นจะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในสมัยการประชุมเดือน ธ.ค.67คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือน ก.ย.68 โดยจะนำมาบังคับใช้กับการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอfสาย ทุกสี ทุกเส้นทาง นอกจากนั้น จะจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม เพื่อจัดหาเงินทุนมาสนับสนุนนโยบายตั๋วร่วม.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่