ป้าเจ้าของร้าน ขอโทษหยิบถุงผิด แจงดราม่าสาวเที่ยวอัมพวา เจอลุงขายลูกชิ้นทอดไม่แจ้งราคา ถุงละ 100 บาท ได้น้อย เหมือนจะบูด

วันที่ 22 กันยายน 2567 มีรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพลูกชิ้นทอดลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา พร้อมระบุข้อความว่า "ระวังด้วยนะคะ ที่ตลาดน้ำอัมพวา จอดรถหน้าอำเภอ เดินไประวังลุงคนนึง ร้านอยู่ก่อนถึงทางขึ้นสะพาน ร้านขายทอดมัน หอยจ๊อ และลูกชิ้นปลา แพง ได้น้อย และไม่อร่อย หอยจ๊อเหมือนจะเสีย เอาของเก่ามาทอดขายซ้ำๆ ขายไม่แจ้งราคา ในถุงนี้ 100.- ค่ะ ได้เท่านี้เลย" โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดน้ำอัมพวา พบ นายกฤตย มีทวี รองนายกเทศมนตรีตำบลอัมพวา กำลังนำคณะอาจารย์จากวิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี ผู้แทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงพื้นที่ประเมินร้านค้า เพื่อยกระดับมาตรฐานตลาดน้ำอัมพวาให้สูงขึ้น ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง และเชิญเข้าตรวจสอบร้านค้าดังกล่าว ซึ่งพบว่าร้านค้าดังกล่าวมีนางจงดี อายุ 63 ปี เป็นเจ้าของร้านขายของทอด โดย อ.พศิน ศรียาภัย และ อ.พสิษฐ์ ศรียาภัย รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี และคณะได้สอบถามถึงขั้นตอนและวิธีการผลิต เก็บรักษา และจำหน่ายให้ลูกค้า เพื่อจะประเมินและให้คำแนะนำให้มีมาตรฐานดีขึ้น

...

ทั้งนี้ นางจงดี ยอมรับว่าเป็นร้านค้าที่เป็นข่าวในโซเชียล แต่เกิดจากความผิดพลาด ไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากของทอดที่ขายให้กับลูกค้าในวันเกิดเหตุนั้น เป็นของเก่าที่ตนตั้งใจจะเก็บไว้แจกให้กับผู้ยากไร้ แต่ลูกจ้างของตน (ลุงที่ในโซเชียลกล่าวถึง) ไม่รู้จึงไปหยิบมาทอดและนำไปขายให้กับลูกค้า หลังจากทราบเรื่อง ตนไปติดต่อไปพูดคุยขอโทษและอธิบายกับผู้โพสต์แล้ว และยินดีโอนเงิน 100 บาทคืนให้ ซึ่งผู้โพสต์ก็เข้าใจ

นางจงดี กล่าวเพิ่มเติมพร้อมพาไปดูขั้นตอนน้ำมันทอดว่า น้ำมันที่ตนทอดจะเป็นน้ำมันใหม่ ส่วนลูกชิ้นตนจะขายวันต่อวัน ส่วนใหญ่แทบไม่เหลือ ถ้าทอดจนมืดเหลือก็จะแช่แข็งเก็บไว้ทอดใหม่ในวันรุ่งขึ้น แต่หากดูแล้วคุณภาพไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ก็จะเก็บไว้แจกฟรีให้ผู้ยากไร้ ส่วนราคาชุดเล็ก 50 บาท ถ้าลูกใหญ่ 12 ลูก ลูกเล็ก 15 ลูก ชุดใหญ่ 100 บาท จะ 20 ลูกขึ้นไปแล้วแต่ว่าลูกเล็กลูกใหญ่ และส่วนมากก็จะแถม ส่วนประเด็นที่ราคาแพงนั้นลูกชิ้น ทอดมันของตน จะทำจากปลาอินทรีย์แท้ หอยจ้อก็จะทำจากเนื้อปูแท้ ไม่มีผสมแป้ง เป็นของมีคุณภาพรสชาติอร่อย ขายมาแล้วกว่า 20 ปี มีลูกค้าประจำ ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้

นางจงดี ยกมือไหว้ขอโทษพร้อมระบุว่า ขอโทษทุกคนจากใจ หากไม่พอใจร้านตนก็อย่าทอดทิ้งตลาดน้ำอัมพวา

ด้าน นายกฤตย มีทวี รองนายกเทศมนตรีตำบลอัมพวา กล่าวว่า ตลาดน้ำอัมพวามีร้านค้า สตรีทฟู้ด จำนวนมากหลายร้อยร้านค้า เทศบาลตำบลอัมพวาให้ความสำคัญกับการยกระดับให้มีมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการติดป้ายแจ้งราคา ความสะอาด เป็นพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งเทศบาลฯ จึงได้ร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยวิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี ที่มีความเชี่ยวชาญในการสอนทำอาหาร ดูแลผู้ประกอบการทำอาหาร เข้ามาตรวจประเมินร้านค้าโดย 2 วันนี้ (เสาร์อาทิตย์) มีเป้าหมาย 200 ร้านค้า

อ.พสิษฐ์ ศรียาภัย กล่าวว่า การประเมินเบื้องต้น จะตรวจสอบด้วยการสัมภาษณ์ทั้งเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบ การเก็บรักษาอย่างไรเพื่อให้การนำมาทำในวันต่อไปสดใหม่เสมอ อีกทั้งความสะอาดของร้านค้า และสุขลักษณะของผู้ค้าในร้าน เพื่อสร้างมาตรฐานของสตรีทฟู้ด ให้เป็นตัวอย่างให้ทุกร้านในตลาดน้ำอัมพวาทำตามเป็นมาตรฐานทั่วไปได้ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของตลาดน้ำอัมพวาที่มีอาหารสตรีทฟู้ดที่สะอาด

อ.พศิน ศรียาภัย กล่าวว่า การประเมินจากการสัมภาษณ์เบื้องต้น หากพบว่าตรงเกณฑ์มาตรฐานจะกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ หากคะแนนถึงเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองตรงตามคุณวุฒิ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบด้วยการสัมภาษณ์ร้านของทอดดังกล่าว พบว่าผู้ค้าสามารถอธิบายถึงวัตถุดิบ และการเก็บรักษาให้ได้มาตรฐาน แต่อาจจะมีความไม่เข้าใจเกี่ยวกับวัสดุรองจานที่เป็นพลาสติกรูปใบตอง เขียวสวย แต่ไม่เหมาะกับมารองอาหารที่ทอดจากน้ำมัน ซึ่งได้ให้คำแนะนำไปแล้ว ส่วนน้ำมันทอดทุกสัปดาห์ ส่วนของที่มีการทอดเหลือจะนำกลับไปแช่แข็ง เหลือเกิน 2 วันจะทิ้งเลย ซึ่งในทางปฏิบัติสามารถทำได้ และยังยอมรับได้.