ภารกิจครั้งใหญ่ การเคลื่อนย้ายอวัยวะสำคัญทางรถยนต์ไป รพ.ศิริราช เพื่อช่วยผู้ป่วยที่รอรับบริจาค 7 ชีวิต ด้านพ่อผู้บริจาคอวัยวะ เผย ดีใจที่ได้ทำบุญให้ลูก

เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่ตึกเทพรัตน์ รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี นพ.ธีรพงษ์ ตุนาค ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี พร้อมทีมหมอศัลยแพทย์ รพ.พระปกเกล้า และ รพ.ศิริราช ได้ทำการเคลื่อนย้ายอวัยวะสำคัญจากผู้บริจาคไปยัง รพ.ศิริราช เพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย

โดยในภารกิจเคลื่อนย้ายอวัยวะทางรถยนต์ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธร จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ตลอดจนทีมศัลยแพทย์ รพ.ศิริราช ซึ่งวันที่ของการเคลื่อนย้ายอวัยวะครั้งนี้ ตรงกับวันที่ของการเคลื่อนย้ายหัวใจจากครั้งที่แล้ว คือ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งคราวนั้นภารกิจลุล่วงประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

ภารกิจเคลื่อนย้ายอวัยวะครั้งนี้ ประกอบด้วย หัวใจ ไต และกระจกตา มีขบวนรถตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 3 จันทบุรี (ส.ทล.4 กก.3 บก.ทล.) รถฉุกเฉินทีมศัลยแพทย์ รพ.ศิริราช รถฉุกเฉินกู้ชีพกู้ภัยฯ ออกจาก รพ.พระปกเกล้า

จากนั้นตำรวจทางหลวงในแต่ละพื้นที่ รับช่วงนำขบวนตามเส้นทาง ทล.3 เข้า ทล.344 ต่อเนื่อง มอเตอร์เวย์ (ทล.7) ด่านบ้านบึง มุ่งหน้าทางพิเศษศรีรัช ลงยมราช ซึ่งเมื่อเข้าเขต กรุงเทพฯ จะมี จร.โครงการพระราชดำริ บก.จร. นำขบวนสู่ตึกสยามมินทร์ รพ.ศิริราช ต่อไป ซึ่งตลอดเส้นทางการเคลื่อนย้ายหัวใจ ได้รับการสนับสนุนภารกิจจากกำลังตำรวจภูธร จ.จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยฯ ตามแยกไฟแดง และตามจุดเสี่ยงตลอดเส้นทาง

...

นพ.ธีรพงษ์ ตุนาค ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ภารกิจในการเคลื่อนย้ายหัวใจครั้งนี้ หลังจากได้รับการบริจาคอวัยวะผ่านสภากาชาดไทย โดยผู้ป่วยซึ่งเข้ารับการรักษาที่ รพ.ขลุง ก่อนจะส่งตัวมาที่ รพ.พระปกเกล้า เนื่องจากมีภาวะสมองได้รับการกระทบกระเทือนจากการตกหลังคา เมื่อบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน

ซึ่งทางทีมแพทย์ รพ.พระปกเกล้า ทำการรักษาอย่างเต็มความสามารถ แต่มีภาวะสมองตาย เมื่อวันเช้าวันที่ 4 มิถุนายน ทางญาติจึงประสงค์บริจาคอวัยวะ โดยทาง รพ.พระปกเกล้า ได้ติดต่อไปยังสภากาชาดไทย จึงได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล รพ.ศิริราช พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์มาทำการผ่าตัดเก็บอวัยวะ

ประกอบด้วย หัวใจ ไต ทั้ง 2 ข้าง กระจกตา 4 ดวง (ดวงตา 1 คู่) รวมถึงการเตรียมผู้ที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยเฉพาะหัวใจ ที่ถือเป็นอวัยวะสำคัญ และมีระยะเวลาในการขนย้ายไม่เกิน 4 ชั่วโมงเท่านั้น ทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเก็บอวัยวะ และรักษาหัวใจในภาชนะที่มีการควบคุมอุณหภูมิ

นพ.ธีรพงษ์ เผยอีกว่า ครั้งนี้ถือเป็นเคสใหญ่ และมีความสำคัญเนื่องจากมีอวัยวะมีทั้ง หัวใจ ไต และดวงตา ซึ่งสามารถนำไปช่วยผู้รอรับบริจาคได้ถึง 7 ราย และเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นเคสแรกที่มีการเคลื่อนย้ายหัวใจทางรถยนต์จาก รพ.พระปกเกล้า เข้าสู่ รพ.ศิริราช โดยตรง เพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย

แต่จากเดิมจะนำส่งไปยังเฉพาะ รพ.ในเขตปริมณฑลเท่านั้น แล้วจึงมีการเคลื่อนย้ายต่อ ส่วนการเคลื่อนย้ายทางเครื่องบินก็สามารถทำได้ แต่ทุกภารกิจต้องใช้เวลา และการเตรียมความพร้อมเหมือนกัน ซึ่งวิธีการไหนที่มีความพร้อมในทุกด้านก็สามารถเลือกปฏิบัติได้ทันที

ขณะที่ นายเกษม วิมลลักษณ์ อายุ 60 ปี บิดาของนายเฉลิมพล วิมลลักษณ์ (บูบู้) อายุ 36 ปี ผู้บริจาคอวัยวะ ได้กล่าวความรู้สึกในฐานะพ่อว่า ทั้งเสียใจและก็ดีใจ แบบบอกและแสดงออกไม่ถูก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวครั้งนี้ แม้จะสูญเสียลูกชาย แต่ความดีที่สมัยยังมีชีวิตอยู่ได้ทำอย่างสม่ำเสมอ จึงถือโอกาสบริจาคอวัยวะให้สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ถือเป็นการทำบุญให้ลูกชายครั้งใหญ่ และหากเขารับรู้และสัมผัสได้ อยากบอกลูกเหมือนเดิมว่า คนทำดีแล้วก็ต้องทำดีต่อ จนวาระสุดท้ายต้องทำบุญต่อไป.