น้ำใจคนไทย บริจาคเงินช่วยส่ง "คุณตา" กลับถึงบ้าน หลังพบขณะปั่นจักรยานจากอุตรดิตถ์กลับชัยภูมิ เผย ถูกนายจ้างโกงค่าแรง ไม่มีเงินติดตัว จำเบอร์ติดต่อใครก็ไม่ได้
วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า "ขอปิดรับค่าน้ำมันแล้วนะคะ คาดว่าน่าจะเพียงพอแล้วค่ะ 1 ชั่วโมง ยอดได้ 6,329.70 บาท น้ำใจคนเขาค้อ ตามกำลังศรัทธา สมทบทุนส่งตา โดนโกงค่าแรง ได้ขับจักรยานกลับบ้านเอง จากอุตรดิตถ์ กลับบ้านที่ชัยภูมิ ตอนนี้ได้รับอนุเคราะห์ห้องพักจาก สท.เอ๋มะขามทอง ให้พักผ่อนในคืนนี้ และพรุ่งนี้ สท.เดียวจะนำส่งถึงบ้าน ตอนนี้ประสานทาง ผญบ.ของตาเรียบร้อยแล้วอายุ 67 ปี ขับรถจาก อุตรดิตถ์ เป็นเวลา 3 วันแล้ว ถามตาสั้นๆ ว่าทำไม ไม่ขึ้นรถประจำทาง ตาบอกไม่มีเงิน ที่จุกไปกว่านั้น รถไม่มีเบรก ล้อหลังส่ายไปมา โอ๊ยย.....ตาน้ำตาไหลเลย ตอนถามว่า พรุ่งนี้ไปส่งมั้ย"
จากนั้นก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะช่วยเหลือชายวัยสูงอายุ ที่อาศัยอยู่ศาลาริมทางพร้อมกับจักรยาน 1 คัน แล้วพาไปพักในห้องพักแห่งหนึ่งใกล้กับเทศบาลตำบลแคมป์สน รวมทั้งคลิปวิดีโอพาชายสูงอายุดังกล่าวขึ้นรถนำไปส่งที่จังหวัดชัยภูมิ ทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความชื่นชมเป็นจำนวนมาก
...
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบกับ น.ส.ชฎาพร สมรูป ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวานในช่วงค่ำได้มีผู้พบชายสูงอายุปั่นจักรยาน มาจอดพักอยู่ที่ศาลาริมทางข้างเทศบาล ต.แคมป์สน ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของตนเอง
จึงออกไปตรวจสอบพบว่าเป็นชายสูงอายุ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสำเริง สงเทียน อายุ 67 ปี อยู่ที่ อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ โดยได้เล่าว่าไปทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อก่อสร้างเสร็จ นายจ้างได้เบิกเงินและหนีไปปล่อยลอยแพลูกจ้างทั้ง 10 คน ต่อมาแต่ละคนก็ได้แยกย้ายกลับบ้านของแต่ละคนไป
ส่วนคุณตาสำเริงอยู่คนละทางกับคนอื่นๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรโทรศัพท์ก็ไม่มี เบอร์โทรศัพท์ของคนรู้จักก็จำไม่ได้ อีกทั้งไม่มีเงินติดตัวเลย จึงได้ปั่นจักรยานคู่ใจจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งใจว่าจะปั่นไปจนถึงบ้านที่ชัยภูมิ ค่ำไหนนอนนั่น อาหารก็ได้อาศัยผู้ใจบุญหยิบยื่นให้ จนกระทั่งเข้าวันที่ 3 จึงมาถึงเขาค้อจึงจะนอนพักที่ศาลาริมทางถึง ตอนเช้าก็จะเดินทางต่อ ซึ่งจักรยานที่ปั่นมาก็มีสภาพเก่า เบรกก็ไม่มีต้องอาศัยใช้เท้าหน้าเหยียบล้อหน้า เพื่อชะลอความเร็วเวลาลงเนิน
น.ส.ชฎาพร เผยต่อว่า ตนจึงได้ปรึกษากับ น.ส.จุลีพร คำพล สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแคมป์สน ที่มีบ้านพักอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว เพื่อขอให้คุณตาไปนอนพัก จากนั้นตนก็ได้ตรวจสอบไปยังปลายทาง ว่าคุณตามีตัวตนและมีบ้านตามที่อยู่จริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากผู้ใหญ่บ้านว่าเป็นเรื่องจริง
จึงได้ปรึกษากันที่จะขอรับบริจาคจากเพื่อนๆ ผู้ใจบุญเพื่อที่จะขับรถพาคุณตาไปส่งที่บ้าน เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกลงมาตลอด เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงได้เปิดรับบริจาค ตอนแรกตั้งใจว่าจะบริจาคเพียงค่าน้ำมันเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเปิดรับบริจาคเพียง 1 ชั่วโมง มีทั้งเพื่อนๆ และผู้ใจบุญได้โอนมาช่วยเป็นจำนวนเงินถึง 8,000 บาท จึงได้ปิดรับบริจาค
กระทั่งในช่วงเช้าของวันนี้ ตนจึงให้แฟนขับรถไปส่งคุณตาที่บ้านที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อไปถึงก็พบว่ามีผู้สูงอายุในหมู่บ้านมารอรับคณะที่ไปส่ง พร้อมทั้งทำพิธีผูกแขนขอบคุณที่ได้ช่วยเหลือคุณตาในครั้งนี้ ซึ่งก็พบว่าคุณตาอาศัยอยู่กับภรรยาเพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนลูกๆ ก็ไปมีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดกันหมด เมื่อคุณตาไปทำงานรับจ้าง ยายก็อยู่บ้านคนเดียว โดยมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือและดูแลกันตามมีตามเกิด
สำหรับเงินบริจาค 8,000 บาทนั้น ได้ใช้จ่ายเป็นค่าน้ำมันรถทั้งไปและกลับจำนวน 2,500 บาท และได้พาคุณตาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้จำนวนหนึ่ง ที่เหลือก็ได้มอบให้คุณตาทั้งหมดเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายต่อไป.