แม่น้องไนซ์ อธิบายความหมาย คำว่า "ซูม" คลิปที่กำลังเป็นไวรัล บอกคนที่วิปัสสนากรรมฐานระดับหนึ่งจะเข้าใจ พร้อมแจ้งความเอาผิด พม. ลงพื้นที่ อ้างทำผิดวัตถุประสงค์ ด้าน พมจ. แจงอยู่ระหว่างจัดทำร่างคำร้องเสนอศาล
จากกรณีเด็ก 8 ขวบ และครอบครัว ที่กำลังเป็นดราม่าเกี่ยวกับการสอนธรรมะ และการเชื่อมจิตอยู่ในขณะนี้ ซึ่งกระแสเรื่องนี้ ทำให้ #น้องไนซ์ ได้รับความนิยม ติดเทรนด์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ (15 พ.ค.) ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กลุ่มนิรมิตเทวาจุติ นำโดย แม่นก แม่น้องไนซ์ อายุ 8 ขวบ พร้อม นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.พิชิต ขาวสุวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อแจ้งดำเนินคดีมาตรา 157 ต่อ นายอภิเชษฐ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการสถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมพวก หลังจากเจ้าหน้าที่ พม. ได้เข้าไปที่บ้านของน้องไนซ์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดย แม่นก เปิดเผยว่า ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีมาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่ โดยหนังสือคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นไปตามมาตรา 30 (3) คือมีหนังสือเรียกผู้ปกครองหรือบุคคลอื่นมาให้ถ้อยคำ หรือข้อเท็จจริง เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ ความประพฤติสุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัวของเด็ก แต่คณะที่เข้าไปทำผิดวัตถุประสงค์ของมาตราดังกล่าว รวมถึงพบว่ามีการข่มขู่น้องไนซ์ด้วย
ในส่วนของคำว่า "ซูม" ที่ทางน้องไนซ์พูด และกลายเป็นคลิปไวรัลอยู่ในขณะนี้นั้น จริงๆ คำว่าซูมของน้องไนซ์ หมายถึง การน้อมจิตเข้าไปพิจารณาในสิ่งต่างๆ คนที่วิปัสสนากรรมฐานระดับหนึ่งจะเข้าใจในคำพูดของน้อง เช่น การพิจารณากายสังขาร ในคำว่าซูมของน้องก็คือการดูให้กระจ่างแจ้ง ดูทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ซึ่งคลิปที่ตัดไปเผยแพร่นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทำให้เกิดความสับสนได้ ส่วนที่มีข่าวว่า ทางตนเองจะดำเนินคดีกับกลุ่มตลกกลุ่มหนึ่ง ที่เลียนแบบพฤติกรรมของน้องนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้ติดตาม และไม่เคยให้ค่า มันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ขณะนี้ กำลังดูบุคคลหลักๆ ที่ทำให้น้องได้รับผลกระทบ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายกับทุกๆ คน
...
อีกด้าน น.ส.ชลลดา ชนะศรีรัตนกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) สุราษฎร์ธานี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน้องไนซ์ว่า เนื่องจากที่ผ่านมา พมจ. ไม่ได้รับความร่วมมือจากครอบครัวในการเข้าไปพูดคุย และประเมินดูแลสภาพจิตใจเด็กและครอบครัว จึงจำเป็นต้องใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าไปดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ในการใช้อำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าคุ้มครองเด็กตามกฎหมาย
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างคำร้องเสนอต่อศาล โดยร้องให้ศาลคุ้มครองไม่ให้มีการนำเด็กออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านสื่อต่างๆ ในทุกช่องทาง และร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสภาพร่างกายและจิตใจทั้งตัวเด็กและพ่อแม่เด็ก โดยได้จัดทำคำร้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างให้อัยการตรวจความเรียบร้อยก่อนนำเสนอต่อศาล คาดว่าน่าจะเสนอศาลได้ภายในวันศุกร์ที่ 17 พ.ค. หรืออย่างช้าวันจันทร์ที่ 20 พ.ค.นี้