“วราวุธ” รมว.พม.จ่อพึ่งศาลขอหมายเข้าไปดูแล “น้องไนซ์” พร้อมตรวจสอบสภาพจิต เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง หลังกลายเป็นกระแสสังคมแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ต่อเนื่อง ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ พม.สุราษฎร์ธานี ประสานพนักงานอัยการประชุมเครียด เตรียมเล่นไม้แข็งขอหมายศาลเข้าพูดคุยกับ “น้องไนซ์” โดยตรง โดยไม่มีพ่อแม่และผู้สนับสนุนเข้ามาเกี่ยวข้อง “พิชิต ชื่นบาน” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่ง ผอ.พศ. เข้าไปดูว่าทำอะไรได้บ้าง ถึงไม่เกี่ยวกับพระโดยตรง แต่เกี่ยวข้องกับคำสอนในพุทธศาสนา
กรณีทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม น.ส.ชลิตา หรือต้นอ้อ พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง นายไพรวัลย์ หรือแพรี่ วรรณบุตร พร้อมพวก เข้าร้องทุกข์ พ.ต.ท.มนสิช ชุนดี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.บก.ปอท. ดำเนินคดีกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต ประกอบด้วยนายพิชญะ ศูนยะคณิต (พ่อน้องไนซ์) น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ (แม่น้องไนซ์) นพ.คเณศ คณินวรพันธุ์ หมอที่ดูแลน้องไนซ์ แอดมินใบเฟิร์น แอดมินนรินทร์ แอดมินสาว ทนายที่อ้างชื่อ “ทนายทรราช” แอดมินเพจผู้ควบคุมบัญชีติ๊กต่อก ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก การเรี่ยไร และฉ้อโกง หลังอุปโลกน์ให้น้องไนซ์มีอิทธิปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติ
ความคืบหน้าจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จ.เพชรบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ (พม.) เผยการแก้ปัญหาน้องไนซ์ ว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ส่งทีมสหวิชาชีพ ทั้งในส่วนนักจิตวิทยาและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านน้องไนซ์ เพื่อไปดู สภาพครอบครัว การประเมินทางสภาพจิตใจของครอบครัวและตัวเด็ก แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปพูดคุยกับตัวเด็กโดยตรงได้ เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำเรื่องร้องขอไปยังศาล ถ้าหากยังไม่ได้รับความร่วมมือจำเป็นต้องขออนุญาตใช้อำนาจศาลให้มีคำสั่งเข้าไปพิจารณาถึงสภาพจิตใจของตัวเด็กรวมถึงผู้ปกครองด้วย
...
“ทั้งนี้ ต้องขอนำเรียนว่า มิติการทำงานของ พม. โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับกรณีนี้คือ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) มีหน้าที่ปกป้องสิทธิ และดูแลสวัสดิภาพของตัวเด็ก ต้องพิจารณาว่าที่ผ่านมา เลี้ยงดูดำเนินการตามสิทธิที่เด็กคนหนึ่งพึงจะได้รับหรือไม่ ทั้งเรื่องการศึกษา การดูแลสภาพครอบครัว ด้านพัฒนาการ และการเลี้ยงดู ถ้าเป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่ พม.ดูแลอยู่ ถือว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไร” รมว.พม.กล่าว
นายวราวุธกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่หลายคนมีความเป็นห่วงว่า จะเป็นเรื่องผิดกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการหลอกลวงนั้น ตนคิดว่า พม.ยังไม่มีองค์ความรู้ มากพอในเรื่องนี้ ที่จะไปตัดสินว่าสิ่งที่ครอบครัวนี้ เผยแพร่ออกไปสู่สาธารณชนนั้น เป็นเรื่องที่หลอกลวงหรือไม่อย่างไร คงต้องขอให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ เข้ามาพิจารณา ทั้งนี้ เราคำนึงถึงความปลอดภัยเรื่อง พัฒนาการและสิทธิของเด็กและเยาวชน
ด้านนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์กรณีน้องไนซ์ถูกตั้งข้อสังเกตเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อน รัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครองสิทธิและความเชื่อของประชาชน ระบุด้วยว่า เรื่องใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา ให้สันนิษฐานว่า ยังสามารถทำได้ คดีลักษณะเดียวกันนี้ เกิดขึ้นมาแล้ว ฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นการหมิ่นประมาทเรื่องนำพระธรรมคำสั่งสอนมาเกี่ยวข้อง คดียังไม่ถึงที่สุดว่าใครเป็น ฝ่ายผิดหรือถูก แต่พอใช้เป็นหลักเกณฑ์ได้
“คดีนี้นำคำพิพากษาศาลชั้นต้นไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียแล้ว สามารถไปดูและนำมาเปรียบเทียบ กับกรณีล่าสุดได้ ผมยังเชิญ ผอ.พศ.มาพูดคุยเรื่องดังกล่าว สั่ง พศ.ไปตรวจสอบความเชื่อที่เผยแพร่สู่ สาธารณะ และให้หาผู้ที่มีความรู้ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจต่อสาธารณชน ผอ.พศ.บอกว่า รู้สึก หนักใจ เพราะไม่ได้เกี่ยวกับพระสงฆ์ จึงกำชับ ผอ.พศ. ไปว่า ต้องทำให้ประชาชนทราบความจริงว่าพระไตรปิฎก ว่าไว้อย่างไร พระธรรมวินัยว่าไว้อย่างไร รวมถึงเรื่อง ของความเชื่อความศรัทธาต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ไม่ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง อีกไม่นาน พศ.จะสามารถ สร้างความกระจ่างเรื่องพระพุทธศาสนาให้ประชาชนได้ทราบ ส่วนการกระทำใดที่ล่วงเกินกฎหมายบ้านเมือง กระบวนการยุติธรรมจะไปตรวจสอบว่า มีการฉ้อโกงกระทำ ที่ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่” นายพิชิต กล่าว
ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี (พม.) วันเดียวกัน มีการประชุมคณะทำงานโดยมีพนักงานอัยการร่วมประชุมด้วย เพื่อดำเนินการทำหนังสือเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ฐานะประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิ์เด็กเป็นผู้ลงนามในหนังสือดังกล่าว เพื่อนำเสนอ ต่อศาลเด็กและเยาวชน ขอใช้คำสั่งศาลขั้นเด็ดขาดในการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงน้องไนซ์เชื่อมจิต เนื่องจากพ่อแม่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ พม.เข้าไปตรวจสอบ มีรายงานด้วยว่า ถ้ามีคำสั่งศาลออก มาแล้ว เจ้าหน้าที่มีสิทธิสอบถามตัวเด็ก แยกเด็กสอบ โดยสหวิชาชีพ หากพ่อแม่ยังมีพฤติกรรมขัดขวาง หรือ ชี้นำ จะมีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ต่อมาเวลา 18.00 น. บริเวณหน้าศาลเด็กเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการไต่สวนกรณีแม่น้องไนซ์ น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ หรือแม่นก ฟ้องสื่อมวลชนฉบับหนึ่ง แม่นกกล่าวว่า เรื่องการร้องศาลขอแยกน้องไนซ์ไปประเมิน เห็นข้อมูลผ่านทางสังคมออนไลน์ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ เนื่องจากช่วงบ่ายวันนี้คุยกับ พม.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งว่ายังไม่มีข้อสรุป ส่วนเรื่องเมื่อวานที่มีหน่วยงานต่างๆเข้าไปที่บ้าน ในไลฟ์สดจะเห็นว่าเปิดโอกาสให้คุยกับน้องบางคำเป็นการข่มขู่ อย่างเช่นถามว่า ไม่กลัวผิดกฎหมายอย่างนั้นเหรอ จะรวบรวมคลิปไปแจ้งความดำเนินคดี ตนมองว่าไม่มีส่วนไหนที่ไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งยังมองว่าการมาครั้งนี้มันแปลกๆ
“ครั้งแรกที่มาก็ได้คุยกับน้อง และสรุปจบว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่การมาครั้งนี้ลักษณะเหมือนฟันธงไปว่า มาแล้วต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นั่งคุยกับน้องแต่ไม่ยอมถามอะไร จะนำตัวน้องไปประเมิน ก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไร เพราะยังไม่ได้คุยกับน้องเลย ส่วนคุณหมอที่มาก็เปิดโอกาสให้คุยในห้อง แต่ต้องอัดคลิปโดยไม่นำไปเผยแพร่ แต่คุณหมอไม่สะดวก ก่อนกลับน้องยังชวนคุณหมอมาอยู่ด้วยกันสักวัน จะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ด้านนายอำเภอไม่ได้อยู่ตลอดเหตุการณ์จะรู้ได้อย่างไรว่าคุยอะไรกัน ครอบครัวพร้อมให้ความร่วมมือแต่ไม่ใช่มาในลักษณะคุกคาม อย่างเช่นนายอำเภอมาแล้วต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ให้เราพูดอะไรเลย” แม่นกกล่าว
ด้านทนายธรรมราช สาระปัญญากล่าวว่าการมาไต่สวนฝ่ายผู้ร้องวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม่นกเป็นพยานปากแรก ส่วนน้องไนซ์เป็นพยานปาก 2 ส่วนเรื่องที่ตนโดนแจ้งความเมื่อวานเป็นเพียงการเริ่มต้น ต้องว่ากันตามกระบวนการและไม่กังวลใดๆ เข้าใจกันว่าน้องถูกสอนโดยพ่อแม่ แต่วันนี้ที่มาศาลเปิดโอกาสให้น้องเบิกความด้วยตัวเอง มีทนายฝั่งผู้ถูกร้องเป็นผู้ซักค้านไม่ได้ผ่านนักจิตวิทยา เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเด็กสามารถเบิกความได้ ส่วนเรื่อง พม.จะยื่นศาลขอแยกเด็กไปประเมิน ศาลต้องมีหมายเรียกไปยังพ่อแม่ให้มาชี้แจงว่าจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ แต่การจะมาแยกพ่อแยกแม่คงทำไม่ได้ถึงขนาดนั้น เพราะเด็กไม่ได้ถูกคุกคามศาลต้องมีขั้นตอนดำเนินการไม่เหมือนการออกหมาย
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่