ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรมนำทีมคนดังเข้าแจ้งความ กับตำรวจ กก.2 บก.ปอท. เอาผิด กลุ่มลัทธิเชื่อมจิตในหลายข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรเงินฯและอื่นๆ หลังอุปโลกน์ให้น้องไนซ์มีอิทธิปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติ อ้างเป็นลูกพระพุทธเจ้า-ลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิม ตั้งลัทธิกำมะลอเรี่ยไรรับบริจาคเงินซื้อที่ดินจากพ่อ-แม่น้องไนซ์ในราคา 15 ล้านบาท เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี เผยยังมีเหยื่ออีกหลายรายเตรียมทยอยเข้าแจ้งความ
ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค. นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นายประยุทธ ประเทศเสนา หรือมหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ต้นอ้อ-น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ แพรี่-ไพรวัลย์ วรรณบุตร พร้อมผู้เกี่ยวข้องรวมตัวเข้าพบ พ.ต.ท.มนสิช ชุนดี รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต ประกอบด้วย 1.นายพิชญะ ศูนยะคณิต (พ่อน้องไนซ์) 2.น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ (แม่น้องไนซ์) 3. นพ.คเณศ คณินวรพันธุ์ หมอที่ดูแลน้องไนซ์ และเป็นคนรับบริจาค ในการซื้อที่ดิน 4. แอดมินใบเฟิร์น 5.แอดมินนรินทร์ 6.แอดมินสาว 7.ทนายที่อ้างชื่อ “ทนายทรราช” 8.แอดมินเพจผู้ควบคุมเพจเนรมิตเทวาจุติ 9.แอดมินผู้ควบคุมบัญชี TIK TOK และผู้เกี่ยวข้องรายอื่นหากพบ ตามความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรเงินฯ และข้อหาอื่นๆ
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ค.64 นายพิชญะ ศูนยะคณิต น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ พ่อแม่ของน้องไนซ์ อายุ 8 ปี พร้อมแอดมินเพจ หรือผู้ควบคุมเพจเฟซบุ๊กนิรมิตเทวาจุติ ผู้ใช้บัญชีติ๊กต่อก @niramittavajuti และบุคคลอื่นผู้เกี่ยวข้อง นำเสนอบทความพร้อมคลิปวิดีโอบิดเบือน หรือเป็นเท็จ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์รวม 23 ครั้ง มีการกล่าวอวดอ้างในหลายประเด็นว่า น้องไนซ์ลงไปในนรกเห็นสัตว์นรก, มียมทูตเป็นเพื่อนกับน้องไนซ์, น้องไนซ์ทำหน้าที่ลงมารับผู้มีบุญไปสู่ยุคพระศรีอาริย์, น้องไนซ์เห็นวาระกรรมจากรูปภาพมองเห็นแบบภาพยนตร์มองย้อนกลับไปในอดีตได้หลายภพชาติ, น้องไนซ์พูดว่า จะนิพพานได้ต้องนั่งสมาธิ โดยอ้างตนเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิม พระอนาคามี เป็นพระยานาคชื่อเพชรภัทรนาคานาคราช แบ่งภาคลงมาเกิดในโลกมนุษย์เพื่อสอนธรรม สามารถ รู้ธรรมะและสอนธรรมะด้วยตนเองไม่มีใครมาสอน, เปรียบตนเองเสมอด้วยพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า รวมทั้งสร้างประวัติว่าน้องไนซ์มีชาติกำเนิดเป็นเทพบุตรแบ่งภาคลงมาเกิดชื่อ “เพชรภัทรนาคานาคราช” มีพระยานาคชื่อ “องค์แสนสิริจันทรานาคราช” เป็นผู้ดูแล ทั้งหมดมีการเขียนบทความและ สรุปเป็นสารคดีโดยย่อ ยกให้น้องไนซ์เป็นเด็กวิเศษมีอิทธิปาฏิหาริย์เหนือผู้อื่น
...
รวมทั้งกล่าวอ้างว่า นายพิชญะ ผู้เป็นพ่อเป็นท้าวจตุโลกบาล ส่วน น.ส.นัฐพร ผู้เป็นแม่ อยู่ชั้นนิมานรดีและชั้นดุสิต ความรู้ของน้องไนซ์ติดตัวมาจาก องค์พระศากยมุนี เมื่อสอนธรรมะก็จะสอนโดยวิธีเชื่อมจิต ซึ่งมี 2 วิธี การเชื่อมจิตเวอร์ชันแรก คือการเชื่อมต่อ ยอด ขจัด เคลียร์ ให้หลุดออกจากมาร ใช้แสงจากข้างบนลงมาเป็นแสงสีทอง แล้วจากนั้นจะเอามือไปแตะที่หน้าผาก โดยอาศัยตาที่สามปล่อยพลังไปทั่วร่างกาย เป็นการเชื่อมระหว่างจิตของเทพ กับจิตของมนุษย์ โดยได้รับพลังแสงสีทองมาจากองค์พระศากยมุนี เพื่อไปต่อยอดในการปฏิบัติธรรม
ส่วนการเชื่อมจิต เวอร์ชันที่สอง คือการสอนในสมาธิ หรือการพูดคุยติดต่อกันในสมาธิ มีแอดมิน ใบเฟิร์น, แอดมินนรินทร์และทนายความคนหนึ่ง ระบุการเชื่อมจิตมีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก แต่ความจริงแล้วการเชื่อมจิตไม่มีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎกอย่างแน่นอน ทั้ง 2 เวอร์ชัน เป็นการสอน ที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการบิดเบือน ทำลายและกลืนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นการก่อให้เกิดสัจธรรมปฏิรูป คือ ธรรมปลอม ถือเป็นภัยร้ายแรงอันดับแรกของการทำลายพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท การกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ เป็นการนำข้อมูล อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นายอนันต์ชัยกล่าวว่า วิธีการเชื่อมจิตถือเป็นการหลอกลวง เรี่ยไรขอรับบริจาคเงินเพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมสายธรรมแห่งองค์พุทธะ ต.คลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซื้อที่ดินของนายพิชญะและ น.ส.นัฐพร พ่อแม่ของน้องไนซ์ ในราคา 15 ล้านบาท โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไร อาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมการเรี่ยไรฯ ส่วนการเปิดเพจเฟซบุ๊กและติ๊กต่อกเพื่อโฆษณาอวดอ้างให้น้องไนซ์เป็นเด็กวิเศษ มีประโยชน์แอบแฝง เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ
“ส่วนที่มีการบังคับเจิมหน้าผากเด็กโดยไม่ได้รับความยินยอมก็ดี การให้เด็กออกมาด่าพิธีกรหนุ่มกรรชัย หรือด้อยค่าเพศสภาพของแพรี่-ไพวัลย์ โดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นการเสี้ยมสอนยุยงส่งเสริมให้น้องไนซ์ ซึ่งเป็นเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำ ความผิด การกระทำดังกล่าวของกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ผมยืนยัน ศาสนาพุทธ ไม่มีอวตาร การกล่าวอ้างลูกของตัวเอง เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนและ ไม่มีทางเป็นลูกของเจ้าแม่กวนอิม เพราะคนละนิกายกัน ลัทธิเชื่อมจิตแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ ผมอยากถามว่า การสอนธรรมแบบนี้ ไปหลงเชื่อได้อย่างไร อยากให้ พ่อแม่น้องไนซ์เลิกซะ เอาลูกไปเรียนหนังสือ เรียนให้จบ อย่าอุปโลกน์อะไรขึ้นมาเอง” ทนายอนันต์ชัย กล่าว
อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ เปิดเผยว่า มีลูกศิษย์ลัทธิเชื่อมจิตติดต่อเข้าให้ข้อมูล การไปอบรมแต่ละครั้ง เสียเงินเสียทองเยอะมาก แรกๆเหมือนกับจะได้ผลเหมือนมีแสงอะไรบางอย่างขึ้นมาเหมือนจะบรรลุแล้ว แต่พออยู่ไปอยู่มาได้เห็นสภาพของน้องไนซ์เปลี่ยนไป คือแค่เอานิ้วแตะหัว แตะหน้าผาก มันจะเชื่อมจิตได้ อย่างไร ทำเป็นการ์ตูนไปได้ สุดท้ายผู้เสียหายรู้ว่า หลงผิดจึงเข้าให้ข้อมูล เตรียมชวนเหยื่อรายอื่นเข้าแจ้งความด้วย
ด้านต้นอ้อ-น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง ระบุว่า เมื่อครั้งที่เข้าไปทำเรื่องนี้ ได้เข้าไป แจ้งเรื่องกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ พม. พ.ศ.แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ส่วน พม.สุราษฎร์ธานี ก็ออกมาชื่นชมพ่อแม่น้องไนซ์ว่า ดูแลลูกได้ดีมาก ทั้งที่เห็นอยู่ว่ามีการใช้เด็กเป็นเครื่องมือ หลังจากเข้าไปแฉเรื่องที่ดินที่ลัทธิเชื่อมจิตเข้าไปมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้คนไทยตื่นตัวกับเรื่องนี้ จนลัทธิดังกล่าวไม่พอใจตนมาก ถึงกับไลฟ์สดด่าทุกวัน
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่