กรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์ โควิด-19 พบยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นตามคาด เชื้อไม่รุนแรง อาการเหมือนหวัดทั่วไป แนะกลุ่มเปราะบาง 608 ยังต้องระวังเข้มงวด
วันนี้ 27 เมษายน 2567 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ของโรคโควิด-19 มอบหมายกรมควบคุมโรคติดตาม และวิเคราะห์สถานการณ์ต่อเนื่อง พร้อมกำชับทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 21-27 เมษายน 2567) พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 1,672 ราย เฉลี่ย 239 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 390 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 148 ราย และมีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน (วันที่ 14-20 เมษายน 2567) พบว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเป็นไปตามคาดการณ์
เนื่องจากโรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี และยังเป็นโรคประจำฤดูกาล โดยจะพบผู้ป่วยมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่อง จนถึงฤดูฝนที่กำลังจะถึงนี้ และจะเป็นช่วงเปิดเทอมด้วย ไม่ต่างจากโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ทั้งไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี เป็นต้น
แต่ความรุนแรงของโรคโควิด-19 ลดลงอย่างมาก จากการวิเคราะห์ข้อมูลติดตามย้อนหลังในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาพบว่าอัตราป่วยตายของโรคโควิด-19 ลดลงจาก 0.98% (ปี 2563-2564) เป็น 0.04% (ปี 2567) ซึ่งใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ และต่ำกว่าไข้เลือดออก
นายแพทย์ธงชัยกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น มีการตรวจวินิจฉัยที่ดีขึ้น มียารักษาทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งมีวัคซีนป้องกันโรค ประกอบกับสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบัน คือสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1 ซึ่งเป็นลูกหลานของโอมิครอน อาการไม่รุนแรง เป็นเหมือนหวัดธรรมดาทั่วไป ซึ่งจุดนี้เองอาจทำให้ประชาชนไม่ได้ระวังจึงแพร่เชื้อต่อกันได้ง่าย
...
สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวัง ไม่นำเชื้อไปสู่กลุ่มเสี่ยง ซึ่งจากข้อมูลผู้เสียชีวิตทุกรายยังพบว่า เป็นกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมีความตระหนักแต่ไม่ตระหนก โดยประชาชนทั่วไปควรเน้นสุขอนามัยส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่แออัด หรือที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น ในการเดินทางสาธารณะ ที่โรงพยาบาล และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ และหมั่นล้างมือบ่อยๆ
หากมีอาการคล้ายหวัด ควรทำการตรวจ ATK และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง 608 หากผลตรวจเป็นบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและพบแพทย์โดยเร็ว เมื่อมีอาการหายใจลำบาก หรืออื่นๆ เพื่อป้องกันการนำเชื้อไปแพร่สู่กลุ่มเปราะบางในบ้าน สำหรับกลุ่ม 608 หากมีอาการคล้ายหวัด และผลตรวจ ATK เป็นบวก 2 ขีด ควรสวมหน้ากากและรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษา เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการรุนแรง
ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจติดตามข้อมูลสถานการณ์โรค ทั้งโรคโควิด-19 และโรคติดต่อในระบบเฝ้าระวังต่างๆ ปัจจุบัน กรมควบคุมโรค มีระบบ Digital Disease Surveillance (DDS) ซึ่งเป็นข้อมูลเปิดที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลได้ ในเว็บไซต์กรมควบคุมโรค หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสายด่วน ของกรมควบคุมโรคได้ที่ 1422.