โอกาสมาแล้ว เชิญชวนเยาวชนไทยอายุ 18-30 ปี สมัครโครงการ Work and Holiday Visa ประเทศออสเตรเลีย โควตา 2,000 คน
วันที่ 20 มีนาคม 2567 มีรายงานว่า กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวง พม. ได้เชิญชวนผู้ที่มีอายุ 18-30 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป สมัครโครงการ Work and Holiday Visa Thailand - Australia 2024 ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยน ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทย สามารถเดินทางไปท่องเที่ยว ทํางาน แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในประเทศออสเตรเลีย เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม จำนวนโควตาวีซ่าปีละ 2,000 คน โดยจะเปิดลงทะเบียน วันที่ 23 - 30 เมษายน 2567
สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัคร มีดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุระหว่าง 18-30 ปี (อายุยังไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ยื่นของวีซ่ากับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย)
- สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป
- มีหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
- ต้องเดินทางคนเดียว (ไม่มีผู้ติดตาม)
- แสดงหลักฐานทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์ เป็นชื่อบัญชีของผู้สมัคร ประเภทออมทรัพทย์ระบุจำนวนเงินแปลงมูลค่า เป็นดอลลาร์ออสเตรเลียแล้ว ต้องไม่น้อยกว่า 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 120,000 บาท
- มีความประพฤติและสุขภาพดี
สำหรับหลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้ ต้องแนบหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง จากที่กำหนด โดยผลสอบต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปี (ผลสอบออกก่อนวันรับสมัครเข้าร่วมโครงการ วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 และอายุไม่เกิน 1 ปี เมื่อนับถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567) ดังนี้
...
- ผลการสอบ IELTS ระดับคะแนน รวมทุกทักษะ (Overall) ไม่ต่ำกว่า 4.5
- ผลการสอบ TOEFL i8T ระดับคะแนน รวมทุกทักษะ (Overall) ไม่ต่ำกว่า 32
- ผลการสอบ PTE Academic ระดับคะแนน รวมทุกทักษะ (Overall) ไม่ต่ำกว่า 30
- ผลการสอบ Cambridge English : CAE ระดับคะแนน รวมทุกทักษะ (Overall) ไม่ต่ำกว่า 147
- ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียน ระดับปริญญาบัตรหรือประกาศนียบัตร จากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร 1 ปี
- ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียน ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับอนุปริญญ/ปริญญาตรีขึ้นไป หลักสูตรเต็มเวลาที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี
- ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียน ระดับมัธยมศึกษา หลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ระยะเวลา 5 ปี
- ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ตอนต้น และหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน
สำหรับเงื่อนไข และรายละเอียดอื่นๆ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กรมกิจการเด็กและเยาวชน และ เว็บไซต์ www.dcy.go.th
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน