ครูสาว โรงเรียนที่ร้อยเอ็ด เปิดใจ ปมนั่งเก้าอี้ ผอ. ในวันประเมิน บอกเสียใจ อยากขอโทษ ยันว่าไม่ใช่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง ด้าน ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ สั่งย้าย พร้อมให้ความเป็นธรรมสองฝ่าย

จากกรณี เฟซบุ๊กเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว" ได้โพสต์แชตกลุ่มของครูสาวท่านหนึ่ง ซึ่งถูก ผอ.โรงเรียน ตำหนิ เรื่องการมานั่งเก้าอี้ประธาน พร้อมแคปชั่นว่า "ครูสาวตัดพ้อต้องซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ให้ผู้อำนวยการ หลังจากวันนี้มีการประเมินเงินเดือน แต่เธอเกิดเผลอไปนั่งเก้าอี้ตัวโปรดของ ผอ.ก็ได้รีบยกไปคืน แต่ตัว ผอ.กลับไม่นั่ง และไปนั่งเก้าอี้ธรรมดาแทน หลังประชุมเสร็จมีคนส่งไลน์ไปต่อว่าเธอเรื่องที่ไปนั่งเก้าอี้ของ ผอ. และให้เธอซื้อเก้าอี้ใหม่มาทดแทน..." พร้อมบอกพิกัดว่า เป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง โรงเรียนบ้านราชธานี จ.ร้อยเอ็ด พบกับ ครูเอ (นามสมมติ) เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุทางโรงเรียนได้จัดให้มีการนำเสนอผลงานของคณะครู โดยมีท่าน ผอ. เป็นผู้ประเมินด้วยการชมคลิปวิดีโอของการปฏิบัติงานของครูแต่ละคนในปีการศึกษาที่ผ่านมา เพื่อนำไปประเมินความดีความชอบ เพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน โดยได้จัดการประเมินในห้องประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งตนมีหน้าที่รวบรวมคลิปมาเปิดที่โน้ตบุ๊ก เชื่อมต่อกับทีวี จึงได้ไปนั่งเก้าอี้ที่วางอยู่ตำแหน่งของประธานการประเมิน ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่ใช้รับแขกทั่วไป ไม่ได้เป็นเก้าอี้ประจำตำแหน่งในห้องของ ผอ.แต่อย่างใด

กระทั่งเวลาประมาณ 15.20 น. ท่าน ผอ. ก็เดินลงมาเพื่อจะประเมิน ตนจึงได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวดังกล่าว เพื่อจะให้ท่าน ผอ. นั่ง ผอ.ก็ปฏิเสธ ตนก็เลยเอาเก้าอี้หลบไปทางซ้ายเพื่อไม่ให้บังจอที่นำเสนอ โดยจบการประเมินในเวลาประมาณ 17.00 น. ตนก็กำลังจะเดินทางกลับบ้าน เลยหันไปเห็นคุณครูท่านหนึ่งกำลังคุยกับ ผอ. ซึ่งมาทราบทีหลังว่า ท่าน ผอ.ได้ตำหนิเรื่องการนั่งเก้าอี้ประธานในห้องประเมิน ซึ่งหลังจากตนขับรถกลับถึงบ้าน ก็มาเปิดอ่านไลน์กลุ่ม รร. จึงเห็นว่า ผอ. ได้พิมพ์ข้อความตำหนิตนตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ตนก็พยายามส่งไลน์ไปขอโทษ ผอ. แต่ก็ไม่มีการอ่าน และไม่ตอบกลับมา ตอนนี้ตนก็รู้สึกเสียใจมากๆ ที่อาจจะทำอะไรที่ไม่เหมาะสมในห้องประเมิน ก็อยากจะพูดคุยกับ ผอ. และขอโทษในวันจันทร์นี้

...

ขณะที่ นายสุชาติ พุทธลา ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้รับรายงานแล้ว ซึ่งก็อยู่ระหว่างตั้งกรรมการสอบสวนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และได้เรียกคุณครู และท่าน ผอ.คู่กรณี มาพูดคุยในเบื้องต้น ซึ่งแจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิด ส่วนข้อเท็จจริงจะลงพื้นที่สืบสวนในวันจันทร์ คาดว่าจะสรุปผลและรายงานต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป

โดยการดำเนินการเบื้องต้น ตนได้ออกคำสั่งให้ท่านผู้อำนวยการคนดังกล่าวมาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ดเขต 1 เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ในระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวน.