โซเชียลสุดเอ็นดู "เจ้าบุญรอด" วัวน้อยพิการ นั่งท้ายกระบะรถไปอยู่บ้านใหม่ หลังถูกไถ่ชีวิตมา เจ้าของใหม่เผยจะเลี้ยงดูให้ดีที่สุด
วันที่ 1 มกราคม 2567 เรียกได้ว่าเป็นสีสันสำหรับผู้ใช้รถ ที่เดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 สำหรับ "วัว" ตัวหนึ่ง ที่นั่งนิ่งอยู่ท้ายกระบะรถที่กำลังมุ่งหน้าไปจังหวัดบุรีรัมย์ จึงสร้างความเอ็นดูและเรียกรอยยิ้มสำหรับผู้พบเห็น รวมถึงมีการแชร์ไปในโลกออนไลน์ ทำให้ต่อมามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และสงสัยเป็นจำนวนมากว่า ทำไมวัวถึงสามารถนั่งอยู่ได้โดยไม่ตื่นตกใจ ทั้งที่รถไม่มีคอกกั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของรถและเจ้าของวัวดังกล่าว ทราบชื่อคือนายสมอาง แก้ววิเศษ อายุ 53 ปี ที่บ้านหนองกก ต.ส้มป่อย อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมกับเล่าว่า ตนไปทำงานเป็นช่างไม้ที่วัดแห่งหนึ่งที่ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะได้วัวตัวนี้มาระหว่างที่ไปซื้อกับข้าวในหมู่บ้าน
...
ตนพบชาวบ้านเตรียมจะฆ่าวัวตัวนี้ ซึ่งเป็นเพศเมีย อายุได้ 1 ปี 1 เดือน เพื่อเอาไปเป็นอาหารในงานเทศกาลปีใหม่ แต่รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อรู้ว่าวัวพิการ ขาซ้ายอ่อนแรง และขาหลังทั้ง 2 ข้างอ่อนแรง มีเพียงขาหน้าขวาเท่านั้นที่ปกติ
จึงร้องขอกับเจ้าของวัวว่า จะขอไถ่ชีวิตวัวตัวนี้เอาไว้ แต่ตนไม่มีเงินมากพอ เจ้าของวัวกลับใจดีบอกว่า ถ้าจะเอาไปเลี้ยงต่อ คิดค่าไถ่เพียง 100 บาท ให้เป็นพิธี ตนดีใจที่ตนกับเจ้าของวัวมีจิตใจเหมือนกัน จึงตั้งชื่อให้ว่า "เจ้าบุญรอด"
จากนั้นได้เอารถกระบะมาใส่ ผูกเชือกไว้หลวมๆ ให้วัวลุกขึ้นเองได้บ้าง ขับรถกลับบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ ยอมรับว่าแปลกใจที่เจ้าบุญรอดไม่ตื่นตกใจระหว่างที่ขับรถจาก จ.กาญจนบุรี มาถึงที่ จ.บุรีรัมย์ โดยที่ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชม.กว่า
นายสมอาง เล่าด้วยว่า ปกติเลี้ยงวัวไว้ที่บ้านแล้ว 2 ตัว เบื้องต้นได้เอานั่งร้านก่อสร้างมาเป็นคอกไว้ผูกเชือกพยุงตัวเอาไว้ เพื่อให้ขาได้ออกกำลังกาย ตั้งใจจะเลี้ยงเจ้าบุญรอดให้ดีที่สุดจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ด้านนางสาวจันทนา แก้ววิเศษ อายุ 34 ปี ลูกสาวนายสมอาง เล่าว่า ระหว่างทางกว่า 10 ชม. จะแวะเอาน้ำและหญ้าให้กินมาโดยตลอดทาง เจ้าบุญรอดไม่ดื้อ หลังจากมีคนเอาภาพไปแชร์ รู้สึกดีใจที่มีคนมาชื่นชมเจ้าบุญรอดเป็นจำนวนมาก ตนกับพ่อตั้งใจจะเลี้ยงให้ดีที่สุด.