“ท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์” เดินทางกลับไทยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี ระบุเดินทางมาเป็นการส่วนตัว ตั้งใจร่วมทำกิจกรรมน้อมรำลึกพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทำกิจกรรมเนื่องในวันพ่อ 5 ธันวาคม รวมถึงเดินทางท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ โดยจะไปแบบเรียบง่าย คาดจะอยู่นาน 2 สัปดาห์
หลังจากที่ “ท่านอ้น” วัชเรศร วิวัชรวงศ์ โอรสคนที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเดินทางมาเยือนประเทศไทยเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเดินทางกลับแผ่นดินเกิดเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ท่านอ้น” วัชเรศร วิวัชรวงศ์ มีกำหนดเดินทางมาประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 โดยมาถึงในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ และยืนยันเป็นการเดินทางมาเป็นการส่วนตัว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ท่านอ้นได้เปิดเผยกับคนใกล้ชิดว่า มี กำหนดเดินทางไปประเทศไทยอีกครั้ง โดยถึงประเทศไทยวันที่ 4 ธ.ค.และตั้งใจไปน้อมรำลึก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 5 ธันวาคม จากนั้นจัดโปรแกรมไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัด เนื่องจากอยากไปเที่ยวหลายจังหวัด แต่อยากไปแบบเรียบง่าย จึงไม่ได้เปิดเผยว่าจะไปจังหวัด
ไหนบ้าง และจะหลีกเลี่ยงการให้ผู้สื่อข่าวติดตาม ส่วนกำหนดมาประเทศไทยครั้งนี้ ตั้งใจว่าจะอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์
ก่อนหน้านี้ ท่านอ้นได้เดินทางมาไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ซึ่งถือเป็นการมาไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี โดยตลอดเวลาที่อยู่ในไทยกว่าสัปดาห์ ท่านอ้นได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อาทิ นั่งรถตุ๊กๆตระเวนดูความงดงามรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เดินท่องราตรีที่ถนนเยาวราช ย่านไชน่าทาวน์เมืองไทย นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งเข้ากราบสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดราชบพิธสถิต มหาสีมาราม สักการะศาลหลักเมือง วัดพระศรีรัตน ศาสดาราม และวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ย่านอรุณอัมรินทร์ นอกจากนี้ ยังทำกิจกรรมเพื่อการกุศล เลี้ยงอาหารเด็ก มอบเงินและสิ่งของให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ บ้านแห่งความหวังย่านอ่อนนุชและในวันที่ 12 ส.ค.ได้เดินทางไปที่วัดโมลีโลกยาราม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ เพื่อทำบุญถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ 10 รูป และร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสามเณร ทั้งพระอาราม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2566 รวมถึงได้สนทนาธรรมกับพระธรรมราชานุวัตรเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร เจ้าคณะภาค 10
...
ทั้งนี้ ท่านอ้นยังให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศถึงการกลับมาแผ่นดินเกิดในครั้งนั้นว่า กลับมาในฐานะสามัญชนธรรมดา ดีใจและถือเป็นฝันที่เป็นจริงที่ได้กลับมา รวมถึงอยากจะกลับมาเมืองไทยเพื่อเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม เพื่อนำไปเผยแพร่ในต่างแดน ด้วยสำนึกถึงพระคุณของประเทศ ชาติ อยู่เมืองนอกมานานแต่ไม่เคยลืมเลยว่าเป็นคนไทย ไม่เคยลืมความสำคัญของวัฒนธรรมไทย อยู่เมืองนอกก็ใช้เวลาส่งเสริมวัฒนธรรมไทยเพื่อให้ฝรั่งรู้ว่าเรามีมรดกอันล้ำค่าเป็นสมบัติของประเทศ
จากนั้นในวันที่ 13 ส.ค. “ท่านอ่อง” นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ น้องชาย ได้เดินทางมาสมทบ และร่วมสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลา ธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชานุสาวรีย์ พระสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งเป็นเสด็จทวด และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาท สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร หรือเสด็จปู่ ในอาคารศิริราช 100 ปี รพ.ศิริราช จากนั้นไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน และเข้าสักการะพระบรมราชา นุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
นอกจากนี้ ท่านอ้นยังได้ไปท่องเที่ยวที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และพบกับมิตรสหายในเมืองไทย รวมถึงได้รับประทานเมนูโปรด “ผัดไทย” จากร้านอาหารดัง ก่อนที่สองพี่น้อง ท่านอ้นและท่านอ่อง เดินทางกลับสหรัฐอเมริกา พร้อมกันในช่วงดึกของวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งท่านอ้น ได้กล่าวก่อนเดินทางกลับด้วยว่า ถ้ามีโอกาสจะเดินทางมาเมืองไทยอีกเร็วๆนี้ ซึ่งการกลับมาประเทศไทยเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมนั้น ได้รับความสนใจจากคนไทยและกองทัพสื่อเป็นอย่างมาก มีการรายงานความเคลื่อนไหวขณะอยู่ในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่