"ร้านสุกี้ดัง" ย่านแจ้งวัฒนะ แจงดราม่าปรับเงินลูกค้า เหตุเหลือซีกข้าวโพดและมะนาว ยันไม่มีนโยบายปรับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแลกกับชื่อเสียง
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers) โดยระบุว่า เมื่อวานได้ไปกินสุกี้จัมโบ้ แจ้งวัฒนะค่ะ โดยปกติเราจะหยิบของมาไว้บนโต๊ะ แล้วเราก็จะรู้ว่าเราจะกินในปริมาณเท่าไหร่ พนักงานก็มาบอกเราว่าอ่านกฎการทานสุกี้ให้ดีนะคะ ถ้าน้ำซุปเหลือครึ่งหม้อก็ปรับค่ะ เราก็เลยงง แล้วก็ตอบรับไปว่า (อ๋อค่ะ)
เราก็เลยกลับมานั่งกิน พร้อมกับนึกในใจว่าไม่เคยกินที่ไหน แล้วน้ำซุปเหลือแล้วปรับ พนักงานพูดให้เราหยิบของน้อยหรือเปล่านะ กลัวเรากินไม่หมดคิดแบบนี้ค่ะ หรือเราฟังผิดอะ พอนั่งไปสักพักคนในร้านก็มองหน้ากัน เพราะว่าพนักงาน วอ บอกกันว่าปรับโต๊ะนั้นนี้ เพราะเหลือแค่ข้าวโพด 2 ชิ้น มะนาว 1 ซีก หรือเศษผักเล็กๆ น้อยๆ ในหม้อ บางคนก็ขึ้นมานั่งกินต่อ ด้วยอาการหงุดหงิด
แต่บางโต๊ะคือมันเหลือน้อยจริงๆ ค่ะ มันไม่น่าเอามาเป็นประเด็นปรับเลย เราเดินผ่านโต๊ะนั้น พยายามมองว่าเหลืออะไรบ้าง พวกเราหลายหลายโต๊ะก็กินไปแล้วมองหน้ากันไป ทางเราเองก็เช็กบิลค่ะ แต่ว่าเราไม่ได้กินอะไรเหลือ ก็เลยไม่โดนปรับ ขนาดก้านผักแก่ๆ เรายังพยายามกินเลยค่ะ เพราะกลัวโดนปรับ ทั้งที่มันเหนียวมาก
แต่คนข้างล่างโต๊ะอื่นที่ลงมาก่อนโดนปรับค่ะ มีหลายโต๊ะที่ยืนทำหน้าหงุดหงิด โต๊ะนึงมา 4 คน กำลังยืนเถียงกับพนักงานข้างล่างว่า ปรับเนี่ย 107 ต่อโต๊ะ ใช่ไหม พนักงานบอกว่าไม่ใช่ (ต่อคน) แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าจะจบยังไงนะคะสรุปแล้วปรับเท่าไหร่
...
ก็มีปากเสียงกัน โวยวายกันนิดหน่อย เราก็เลยรีบจ่ายตังค์แล้วออกมา สุดท้ายนี้คงมีหลายๆ โต๊ะ ที่นั่งข้างๆ กับเราคงไม่ไปแล้วค่ะ มันจุกจิกเกินไป มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แล้วก็นั่งกินด้วยความอึดอัดอย่างมาก เหมือนโดนบังคับไปกิน แต่ไปเองนี่สิ ถ้าใจร้านไม่กล้าพอ อย่ามาเดินเส้นสายบุฟเฟต์เลยค่ะ ก็อยากจะบอกว่าถ้าใครจะไปก็ระวังหน่อยนะคะ มาแชร์กันค่ะ
(คลิกที่นี่ เพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ)
ซึ่งต่อมาทาง ร้านสุกี้จัมโบ้ ก็ได้โพสต์ข้อความชี้แจงลงในกลุ่มดังกล่าว และทางเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า สืบเนื่องจากมีการพูดถึงจำนวนมาก ถึงความไม่พอใจจากการปรับค่าอาหารเหลือ จากการทานบุฟเฟต์ของทางร้าน
สุกี้จัมโบ้ขอชี้แจงว่า เราไม่มีนโยบายที่คิดจุกจิก ปรับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อมาแลกกับชื่อเสียง เราจัดทำระเบียบเรื่องค่าปรับ เนื่องจากมีลูกค้าจำนวนนึง ทิ้งอาหารจำนวนมากในหม้อ หรือหลบซ่อนในคอนโด โดยได้ระบุว่า คิดจำนวนเงิน 107 บาท ตั้งแต่เริ่มจัดทำบุฟเฟต์
อย่างไรก็ตาม ระเบียบดังกล่าวเป็นในทำนองเตือนมากกว่าที่จะนำมาใช้จริง เว้นแต่ลูกค้าเหลืออาหารจำนวนมาก ซึ่งเราได้แจ้งให้พนักงานบริการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน กรณีที่มีอาหารที่สูญเสีย และต้องคิดค่าปรับจากลูกค้า
หากท่านถูกปรับในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ถูกปรับเมื่อเหลือมะนาวแค่ครึ่งซีก เหลือแค่ซีกข้าวโพด เหลือเศษผัก เหลือน้ำซุป หรือสิ่งเล็กน้อยอื่นๆ โปรดแสดงตัว เพื่อขอรับเงินคืน เนื่องจากไม่ใช่นโยบายของร้าน
เรื่องใบเสร็จที่ลงข้อมูลผิด เราได้สอบถามจากพนักงานคิดเงินแล้ว เกิดจากความสะเพร่าที่ไม่ได้ดูให้ดี เห็นว่าจำนวนเงินเท่ากันโดยไม่ได้ดูรายละเอียดของคำ ต้องขออภัยในความผิดพลาดจุดนี้ เราทราบปัญหา และจะแก้ไขกรณีที่เก็บโต๊ะโดยไม่ให้โอกาสลูกค้าขึ้นไปทานอีกรอบ
หากลูกค้าพบว่า ไม่มีอาหารตามที่ร้านอ้าง ในเมนูจากพนักงานบริการ โปรดแจ้งให้ทางร้านทราบอีกครั้ง ผ่านทางพนักงานต้อนรับด้านล่าง, ไลน์ หรือเฟซบุ๊ก เพื่อให้ทางเราตรวจสอบ ว่าเหตุใดอาหารที่เราเตรียมไว้ให้ลูกค้าแล้วถึงไม่ถึงลูกค้า
สุกี้จัมโบ้เป็นร้านสุกี้เจ้าแรกบนถนนแจ้งวัฒนะ เรากลับมาเปิดใหม่ เพื่อหวังจะเป็นทางเลือกร้านอาหารให้คนในโซนแจ้งวัฒนะ หรือใกล้เคียง ได้รับประทานอาหารที่มีรสชาติ และคุณภาพดี ในราคาไม่แพง เราต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนการกลับมาของสุกี้จัมโบ้ในครั้งนี้ และเราหวังว่า เราจะยังได้รับการสนับสนุนจากท่าน เพื่อให้เราดำเนินกิจการได้ต่อไป.
อย่างไรก็ตาม ทางร้านสุกกี้จัมโบ้ ได้เปิดใจกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" โดยเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ทางลูกค้าที่โพสต์ในกลุ่ม ก็ไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด ส่วนในกรณีที่ปรับลูกค้าทานเหลือ มี 5 ราย และน่าจะมี 1 รายที่ไม่พอใจเรื่องค่าปรับ
ทั้งนี้ยังบอกอีกว่า สุกี้จัมโบ้เป็นร้านอาหาร ที่เป็นมิตรกับลูกค้า ไม่เคยมีความคิดอยากขัดใจลูกค้า เราขอชี้แจงอีกครั้งว่าร้านไม่มีนโยบายการปรับเล็กๆ น้อย ๆ ไม่มีเจตนาที่คิดเอาเปรียบลูกค้า และเอาเงินจากการปรับ มาชดเชยราคาค่าอาหาร อาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจเราผิดบ้าง ข้อเสนอแนะที่ได้จากทุกท่าน เราจะนำไปปรับปรุงพัฒนาร้านเราต่อไป
สำหรับผู้ประกอบท่านอื่น บทเรียนที่สำคัญ ที่ร้านได้เรียนรู้จากครั้งนี้ คือร้านอาหารเป็นงานที่ต้องดูแลผู้รับบริการจำนวนมาก หลายประเด็น มีความอ่อนไหว ต้องระมัดระวัง ไม่ทำให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจผิด
ส่วนที่อยากฝากให้สังคมคือ เราอยากให้ท่านไม่มองมุมเดียวในเหตุการณ์นี้ อยากให้ได้อ่านคำชี้แจงของเราบ้าง เพื่อเราหวังว่าความสุจริตและจริงใจของเรา จะทำให้ท่านได้มองเราใหม่ในแง่ที่ดีขึ้น.
ขอบคุณข้อมูลจากกลุ่ม กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers), เฟซบุ๊กเพจ สุกี้จัมโบ้
