"โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย" อนุญาตให้นักเรียนใส่ "ชุดไปรเวท" มาแล้ว 4 ปี สะท้อนตัวตนผ่านการแต่งกาย พร้อมเผยเห็นได้ชัดว่า "เด็กๆ เขามีความสุข"

จากการเสนอข่าวก่อนหน้านี้ของ "ไทยรัฐออนไลน์" ที่ข้อมูลคลาดเคลื่อน กรณีการใส่ชุดไปรเวทของนักเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด วันที่ 29 มิ.ย. 2566 ดร.ศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ อดีต ผอ.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าโครงการพัฒนาบุคลากรอย่างยั่งยืน ได้เผยข้อมูลกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ว่า เรื่องชุดไปรเวททางโรงเรียนทำมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว ปีนี้ให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทในวันอังคาร เพราะทุกฝ่ายคุยกันแล้วลงตัวในวันอังคาร

ตอนเริ่มต้นช่วงแรกๆ ได้มีการเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งมีทั้งเสียงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จากนั้นจึงนำไอเดียมาสอบถามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางโรงเรียนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน, คุณครู, ผู้ปกครอง โดยในภาพรวมส่วนใหญ่คือค่อนข้างเห็นด้วย น่าลองดูว่าจะเป็นได้จริงอย่างที่คิดหรือเปล่า คือเราเชื่อว่าถ้าเปิดให้เด็กนักเรียนได้ใส่ชุดไปรเวทสัปดาห์ละครั้ง น่าจะส่งผลในทิศทางที่ดี ทั้งในแง่ของบรรยากาศความสุขในการมาโรงเรียน จึงตัดสินใจเดินหน้า พร้อมเก็บข้อมูลควบคู่ไปด้วยจนเป็นระเบียบในปัจจุบัน

เรื่องนี้พัฒนามาเยอะมาก จากตอนนั้นที่ทำเฉพาะเด็กนักเรียนมัธยม จนพัฒนามาถึงปัจจุบันที่ให้คุณครูและเด็กนักเรียนประถมใส่ชุดไปรเวทด้วย รวมทั้งพัฒนามาถึงประเด็นเรื่องรองเท้า เพราะสุขภาพเท้ามีความสำคัญมาก ซึ่งในกฎกระทรวงเองเขาค่อนข้างที่จะเปิดในระดับหนึ่ง เราจึงเอาระเบียบของกระทรวงมาดูว่าสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็คุยกับตัวแทนนักเรียน, คุณครู, ผู้ปกครอง ว่ารองเท้าที่เราจะเปิดกว้าง ควรจะมีความลงตัวเหมาะสมอยู่ในระดับไหนบ้าง แล้วเมื่อทุกฝ่ายเห็นด้วยก็เริ่มเปิดโอเพน

...

ก่อนจะเป็นระเบียบเหมือนทุกวันนี้ เรามีการพูดคุยกับทุกฝ่ายมาโดยตลอด ณ ปัจจุบันการใส่ชุดไปรเวทเด็กๆ ก็แฮปปี้ ซึ่งในตอนแรกที่ให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวท ผู้ปกครองเกือบ 100% คือเห็นด้วย แต่กระแสจากสังคมภายนอกหรือพี่ๆ ศิษย์เก่าบางท่านที่อาวุโสหน่อย ก็ยังมีความติดใจสงสัยอยู่ แต่พอเวลาผ่านไปพวกเขาเห็นได้ชัดว่า เด็กๆ เขามีความสุข กระแสมันเลยดีขึ้นจนคิดว่าไม่น่าจะมีกระแสต่อต้านจนถึงปัจจุบัน เพราะวันที่เราให้ใส่ชุดไปรเวทมันคืออิสระจริงๆ

ทั้งนี้ เราไม่ได้บังคับว่าเขาจะใส่ชุดอะไร เพราะเราไม่ได้ตั้งกฎขึ้นมาว่าคุณต้องใส่ชุดไปรเวทนะ แต่จุดประสงค์คือต้องการให้พวกเขาแสดงตัวตนผ่านการแต่งกาย ซึ่งในโรงเรียนเปรียบเหมือนสังคมจำลอง สมมติคุณแต่งตัวแปลกๆ หลุดๆ มาเลย สังคมรับคุณได้มากน้อยแค่ไหน หรือสุดท้ายเมื่อคุณเห็นว่าตัวเองแปลกแยก คุณจะปรับเปลี่ยนหรือยอมรับได้ ซึ่งจะช่วยขัดเกลาเรื่องการแต่งกายของตัวเขาเองให้เหมาะสมที่สุด

ถ้าถามถึงแนวโน้มการเพิ่มวันใส่ชุดไปรเวทนั้น คิดว่ายังไม่มี เพราะว่าการใส่ชุดนักเรียนก็ถือเป็นความภูมิใจในยูนิฟอร์ม จริงๆ ตอนนี้มันเป็นความลงตัวที่ดีที่สุดแล้ว.