ร้านบุฟเฟต์ตัดพ้อหนัก โพสต์ภาพอาหารลูกค้าที่กินเหลือ พร้อมกับข้ออ้างสุดช้ำ ไม่ได้กินเหลือ แต่ปลาที่ร้านแย่ และไม่สด แถมยังไม่ยอมให้ปรับตามราคาจริง วอนลูกค้าอย่าทำกันแบบนี้

วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากวิจารณ์ เมื่อเฟซบุ๊ก Blue Ocean Sushi - Bangkok ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า รูปภาพนี้มันคือ "อาหารเหลือของลูกค้า" ที่ทานไม่หมดค่ะ ได้รูปนี้จากหน้าร้านตอนหัวค่ำ ทำใจเย็นสักพักค่อยมาโพสต์ รูปอาจจะดูเหมือน โชว์รูปบุฟเฟต์เยอะแยะไปหมดชวนมาทาน มองผ่านๆ เหมือนเพิ่งเริ่มปาร์ตี้

การให้บริการของเรา คือลูกค้าจะทานเท่าไรก็ได้ที่ลูกค้าจะทานหมด สั่งได้ไม่จำกัดรอบ เพื่อให้ลูกค้าทานอาหารอย่างมีความสุข ได้รับประสบการณ์ดีๆ ในมื้อที่มาทานกับเรา ในกติกาที่หากทานไม่หมดจะมีค่าปรับ ใช่ค่ะ เราเปิดร้านไม่ได้หวังรายได้จากค่าปรับของลูกค้าค่ะ แต่อาหารทุกอย่างมีต้นทุนของมัน ทั้งวัตถุดิบ ทั้งค่าแรง ค่าเวลา

แต่สิ่งที่เราเจอมาวันนี้ และระยะนี้ คือ ทานไม่หมด ปลาไม่สด ปลาไม่ดี ถ้าอาหารมีปัญหา ลูกค้าแจ้งทันที ทางร้านยินดีตรวจสอบ และนำจานนั้นกลับไปตรวจสอบ แต่การทานไม่หมด เต็มโต๊ะ แล้วมาแจ้งว่าไม่ได้ทานเหลือ แต่เป็นเพราะปลาเราแย่ ไม่สด เลยไม่กินมันเสียใจมากเลยค่ะ ค่าปรับวันนี้ 2250 บาท ถ้าคำนวณตามกฎ ลูกค้าจะจ่ายที่ 500 บาทเท่านั้น จนพนักงานต้องโทร. หาเราหลายรอบมาก ลูกค้าไม่ยอมให้ปรับทำยังไง มาจบตรงที่ปรับไปราคา 1000 บาทค่ะ

บางคนอาจจะคิดว่าก็ได้ปรับแล้วก็น่าจะจบ ถ้าคุณทำร้านอาหาร คุณเคยคิดไหม ว่าค่าปรับที่เราได้มา มันไม่คุ้มกับความรู้สึกกับมูลค่า และราคาของวัตถุดิบที่เราตั้งใจมอบให้ลูกค้าเลย

...

เราเสียใจมากกก และก็ถามตัวเอง เราห่วยงั้นเลยหรอ จนลูกค้าไม่รับกติกาของเรา หรืออาหารเราห่วย จนลูกค้ากินไม่ได้เหลือขนาดนี้ แซลมอนไม่สด แซลมอนต้นทุนราคาแพงมาเท่าตัว รู้ไหม แซลมอนแช่แข็งยังไม่เคยวิ่งเข้ามาในร้านเลย ถึงจะเมนูปรุงสุก เราก็ใช้ซาชิมิเกรด เพื่อลูกค้าจะได้ทานของดีๆ

ร้านปรับไม่แฟร์ อะไรคือแฟร์ ฝากแนะนำทีค่ะ จุดไหนคือจุดที่ลูกค้าสบายใจคะ เราจะได้นำไปปรับปรุง ในภาวะวัตถุดิบที่ขึ้นราคาอย่างมาก จนร้านเพื่อนบ้านเราขึ้นราคากันเยอะแล้ว แต่เราเป็นร้านเล็กๆ พยายามจะควบคุมต้นทุนด้านอื่นๆ ให้ประหยัดที่สุด

การปรับราคาเป็นทางเลือกหลังๆ ที่เราจะใช้ เราพยายามมากๆ แล้วจริงๆ ฉันผู้กำลังหมดแรง ทั้งรายได้ และกำลังใจ ให้ภาพเล่าเรื่อง และบอกฉันที ว่าน้อลๆ ไม่สดหรอ ดูสีขนาดน้อลกำลังจะจมน้ำสิ และฉันก็กำลังจมน้ำตาเช่นกัน

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พฤติกรรมของลูกค้านั้นไม่น่ารักเลย เพราะเหลือ 1-2 ชิ้น ทานไม่หมด ยังพอเข้าใจได้ แต่สั่งมาเต็มขนาดนี้ และไม่ยอมให้ปรับถือว่าเกินไปมาก

อย่างไรก็ตาม ทางร้านได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" เพิ่มเติมว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ไม่ได้ปรับเปลี่ยนกติกา เพราะก็มองว่าเป็นลูกค้าส่วนน้อยที่ไม่ค่อยน่ารัก ที่ออกมาโพสต์ ก็ไม่ได้ต้องการต่อว่าลูกค้าโต๊ะนั้น เพียงแค่ระยะ 2 อาทิตย์นี้ ร้านเจอลูกค้ามาสั่งเยอะๆ แล้วเหลือ แล้วก็พูดคล้ายๆ กัน ว่าไม่จ่าย จะจ่ายเท่านี้ 3 รายแล้ว เลยอยากออกมาพูดเพื่อให้รู้ว่า อย่าทำเลย ถ้ามีกระแสความนิยม หรือทำอะไรแนวนี้

วัตถุดิบมันขึ้นมากจริงๆ และไม่มีแนวโน้มจะลง อยากให้ลูกค้าทานอย่างมีความสุข หลากหลาย เอาที่อิ่มสบายใจก่อนออกจากร้านมากกว่า ร้านก็อยากรู้แค่ ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ ถ้าร้านไม่ยอมลด ขั้นตอนต่อไป ร้านต้องทำยังไง แบบลูกค้าจะจ่ายแค่นี้ 500 จาก 2,000 กว่า ไม่ให้ค่ะ ไม่ให้ปรับ ไม่ลุก ไม่จ่าย ไม่ให้ปรับ แล้วก็นั่งกดดันอยู่ในร้าน

ร้านก็อยากเคลียร์โต๊ะ รับลูกค้าใหม่ ก็ต้องยอมลด ยอมอะไร แก้ไขสถานการณ์ เราร้านเล็กๆ เอง เจ้าของร้านไม่ได้เข้าตลอด มีแต่พนักงาน เราก็รู้สึกถ้าเราไม่ยอมลด ไม่ยอมรีบเคลียร์ลูกค้าคนนี้ออกไป พนักงานก็ต้องมารับความกดดันกับลูกค้ารายนี้ เกินความรับผิดชอบของเขา.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Blue Ocean Sushi - Bangkok